เมื่อวันที่ 11 พ.ย.63 ตามนโยบายเร่งรัดปราบปรามแก๊งสารพัดฉ้อโกง ของพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ ได้สั่งการให้พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงส์ทิพย์รัตน์ ผกก.2 บก.ปพ. พ.ต.ต.ศราวุธ อยู่สบาย สว.กก.2 นำกำลังเข้าจับกุมนางพัชรี อินทร์วารี อายุ 57 ปี นายจำนงค์ มีอุบล อายุ 64 ปี และนายเกรียงไกร คำสะอาด อายุ 56 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 277-279/2563 ลงวันที่ 5 ต.ค. 63 ข้อหา “ร่วมฉ้อโกงประชาชนและใช้เอกสารปลอม”
จากการจับกุมทราบว่า เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหากลุ่มนี้ที่รู้จักกันดีในชื่อ “แก๊งสาธุ” ซึ่งประกอบไปด้วยนายบุญหลง หมื่นลาภ อายุ 59 ปี ที่จะทำหน้าที่แต่งกายปลอมเป็นพระภิกษุสงฆ์ แต่ถูกจับกุมไปแล้ว ร่วมกับนางพัชรี นายจำนงค์ และนายเกรียงไกร จะนำรถกระบะ ทะเบียน 1 ฒษ 9931 กทม. บนรถมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มีนายบุญหลงที่แต่งกายปลอมเป็นพระ นั่งมาในท้ายรถ ตระเวนวิ่งเรี่ยไรเงินประชาชนทั่วไปในจ.ภูเก็ต อ้างว่า จะนำเงินที่ได้ไปทำบุญสร้างศาลาการเปรียญ มูลค่า 2 ล้าน ให้กับวัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งก็มีประชาชนหลงเชื่อร่วมกันบริจาคเงินให้เป็นจำนวนมาก
ต่อมาได้มีผู้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ จนพบว่า ทางวัดที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้นไม่มีการก่อสร้างแต่อย่างใด และก็ไม่รู้จักกับบุคคลทั้ง 4 คน นี้อีกด้วย ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต จึงเข้าจับกุมตัวนายบุญหลง ซึ่งไม่มีใบสุทธิ และไม่สามารถท่องบทสวดมนต์ใดๆ ได้เลย ในย่ามยังพบเสื้อและกางเกงที่เตรียมไว้เปลี่ยน พร้อมเงินบริจาคอีกส่วนหนึ่ง จึงเข้าจับกุมตัวดำเนินคดี
ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คนที่เหลือนั้นหลบหนีไปได้ พร้อมเงินบริจาค คาดว่าน่าจะมากกว่า 3 แสนบาท จึงขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ และตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในอ.ท่าหลวง และอ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เบื้องต้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเลือกจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะชาวบ้านจะร่วมทำบุญด้วยง่าย เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาเข้าวัดทำบุญ พร้อมกันนี้จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหา ยังพบมีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนอีกหลายคดีด้วย จึงนำตัวส่งสภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีต่อไป
