“วันครูยุคโควิด” ครูคือผู้นำชุมชนที่เป็นแบบอย่าง พร้อมแนะนำวิถีชีวิตใหม่ให้กับชุมชน งดพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน

0
983

ป้องกันการแพร่ระบาดและลดการติดเชื้อในชุมชน ช่วยครอบครัวประหยัด ตั้งหลักสู้ในสถานการณ์วิกฤตโควิดระบาดให้ผ่านไปได้

ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเนื่องในวาระโอกาสของวันครูปี 2564 ว่ากระทรวงศึกษาธิการ ขอแสดงความยินดีและชื่นชมครูที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างต่อสังคม ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ทศวรรษ จริยธรรมของครูต้องประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม โดยเฉพาะปลอดอบายมุขเป็นสิ่งที่ครูทุกท่านควรยึดถือปฏิบัติ เพราะตามกฎหมายแล้วสถานศึกษาต้องปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 จะเห็นได้ชัดสำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งผลเสียต่อประเทศอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่มาจากสถานที่ที่เป็นแหล่งอบายมุข จากการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ ยุคแรกๆ เราพบว่าเชื้อโควิด-19 แพร่จากการไปในสถานที่บันเทิง การสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า การสูบบุหรี่มีอันตรายทำลายปอด ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ขาดสติกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร อีกทั้งการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ทั้ง 3 สิ่งนี้ ผู้เป็นครูต้องไม่ข้องแวะ ดังนั้นครูควรเป็นแบบอย่างให้ชุมชน สังคม โดยไม่เป็นผู้เข้าไปในวังวนของแหล่งอบายมุข ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขอให้ทุกท่านหลีกเลี่ยงอบายมุขและปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ท่านจะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงน้อยมาก ซึ่งการดูแลตนเองเป็นสิ่งที่ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน

นางสาวอภิศา มะหะมาน ผู้จัดการโครงการครูดีไม่มีอบายมุข สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เปิดเผยว่า โครงการครูดีไม่มีอบายมุขได้ขับเคลื่อนเข้าสู่ปีที่ 10 สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเป้าหมายให้ครูไทย ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อนักเรียน ต่อสังคมในการใช้ชีวิตปลอดจากอบายมุข นอกจากตัวเองแล้ว ยังช่วยเหลือนักเรียน คนรอบข้างให้ปลอดอบายมุขควบคู่ไปด้วย ซึ่งเน้นเรื่องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่ และการพนัน โดยในปีนี้มีครูแสดงตนว่าเป็นครูดีไม่มีอบายมุขรวมทั้งสิ้น 63,512 คน ผ่านการลงทะเบียนและสมัครเข้าร่วมในเพจ โรงเรียนคำพ่อสอน.com ทั้งนี้มีครูที่ผ่านการคัดเลือกเป็นต้นแบบได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจำนวน 322 คน ทั้งนี้ การมอบรางวัลจะจัดขึ้นภายหลังจากนี้

นายปราโมทย์ พิพัฒน์วัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโสภนาราม ครูดีไม่มีอบายมุขจากจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ผมเกิดแรงบันดาลใจที่จะละ เลิก อบายมุขทุกรูปแบบ เมื่อทางโรงเรียนวัดโสภนาราม ได้รางวัลโรงเรียนดีฯและครูดีไม่มีอบายมุข ผมได้เห็นการทำงานในการเปลี่ยนแปลง เห็นรอยยิ้มของนักเรียนมาโดยตลอด ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหารน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ด้วย ผมจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิกอบายมุขทุกสิ่ง เริ่มจากงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2560 ซึ่งทำได้ไม่ยากหากเราตั้งใจแน่วแน่ นอกจากนี้ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต และน้อมนำพระบรมราโชวาท พระราชดำรัสเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กมาศึกษาและนำมาแก้ไขและป้องกันปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ เสพติด ตลอดจนการพนันในสถานศึกษา เป็นนวัตกรรมที่ดีเห็นผลอย่างถาวรยั่งยืนและถาวร “แบบอย่างที่ดีมีมากกว่าคำสอน” ผมได้เห็นแบบอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็นครู นักเรียน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจังทำให้ผมพบแก่นแท้ของชีวิต เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตได้ เป็นการพัฒนาจิตเสริมพลังบวกให้กับตนเอง โดยเฉพาะช่วงนี้มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด 19 การไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ไปมั่วสุมเล่นการพนัน คือการไม่นำชีวิต สุขภาพร่างกายของครู ผู้ปกครอง และนักเรียนไปเสี่ยงอีกด้วย

นางสาวจันทนา ไฝเจริญ ครูดีไม่มีอบายมุข จากโรงเรียนบ้านลวงเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า อาชีพครูไม่ใช่มีหน้าที่เพียงให้ความรู้แก่ศิษย์เท่านั้น ครูสามารถเป็นคุณหมอ นักจิตวิทยา ตำรวจได้ ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนให้เป็นคนดีมีความสุขในชีวิตเป็นสิ่งที่ครูรู้สึกภาคภูมิใจในการให้ความรัก ความจริงใจ โดยเฉพาะสร้างความไว้ใจให้กับนักเรียน และสามารถเป็นที่พึ่งให้กับนักเรียนได้ การลงเยี่ยมบ้านนักเรียน เนื่องจากนักเรียนมีพฤติกรรมซึมเศร้า เหม่อลอย ไม่ส่งงาน เราพบว่าพ่อดื่มเหล้าทะเลาะกับแม่อยู่เป็นประจำ จึงนำกิจกรรมจดหมายจากลูกขอพ่อเลิกเหล้ามาใช้ สามารถทำให้ชีวิตของนักเรียนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น นักเรียนสามารถทำให้พ่อเลิกเหล้าได้ เกิดความเข้าใจ ความรัก ความผูกพัน ในครอบครัวดีขึ้น ภูมิใจทุกครั้งที่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือนักเรียนให้พวกเขาได้มีชีวิตที่สดใสขึ้น

นางสาวอภิศา กล่าวเพิ่มเติมว่า 10 ปีครูดีไม่มีอบายมุข พบว่า เป็นค่านิยมที่ได้รับการยอมรับในสังคมครูไทย ครูควรเป็นผู้ปลอดอบายมุข เข้มแข็งที่จะปฏิเสธ ตั้งใจทำหน้าที่ช่วยคนรอบข้างให้ลด ละ เลิกอบายมุขอย่างต่อเนื่อง หากครูไม่เสียเวลา เสียทรัพย์ เสียสุขภาพให้แก่อบายมุขแล้ว ครูย่อมพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ คุณภาพการศึกษาไทยย่อมจะดีขึ้นตามมาแน่นอน