รุมจวก จนท.พศ.บุกตรวจ ร.ร.พระปริยัติธรรม ยืนค้ำหัวผู้ทรงศีล ชาวเน็ตไม่พอใจนั่งจ๋อหวอไม่เหมาะสม ผอ.ร.ร.แจง งบอุดหนุนไม่พอต้องบริหารแบบฉันรวม

0
66470

สำนักข่าว Thai R News – เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2560 เกิดกรณีข่าวทางโลกออนไลน์ที่มีการโพสต์ภาพระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) แห่งหนึ่ง มีลักษณะกำลังยืนตรวจเช็คยอดสามเณรนักเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ โดยสามเณรนักเรียนประมาณ 50 – 60 รูป นั่งราบกับพื้นบริเวณหน้าโรงเรียน ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทางโลกโซเชียลถึงความไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมดังกล่าวมีที่ลักษณะยืนค้ำหัวสามเณรผู้มีศีลเหนือกว่า สำนักข่าวออนไลน์แห่งนี้ยังระบุด้วยว่า เหตุที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ผอ.พศ.) ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา รวมถึงการตรวจสอบการทุจริตงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัด โดยระบุว่า ขณะนี้การตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนการแจ้งยอดนักเรียนเป็นเท็จของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพศ.ได้ส่งหนังสือไปยัง พศจ. ทุกจังหวัด ให้ดำเนินการสำรวจจำนวนนักเรียนแล้ว ซึ่งตนได้เน้นย้ำให้พศจ.รายงานตัวเลขที่แท้จริงว่า มีเท่าไหร่กันแน่ รวมทั้งให้ลงพื้นที่ไปสำรวจในวัดที่มีการตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมด้วยตนเอง เมื่อดำเนินการตรวจสอบโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาแล้ว ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบในแผนกธรรม และแผนกบาลี ควบคู่ไปด้วย โดยต้องทำไปพร้อมกัน แต่ขณะนี้จะเน้นในส่วนที่มีเบาะแสก่อน

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรมชื่อดังในจังหวัดนครปฐม พระอาจารย์ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนฯ (ขอสงวนนาม) ยอมรับว่า เป็นภาพที่เกิดขึ้นในวัดแห่งนี้จริง เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 60 เวลา 13.00 น. ขณะสามเณรนักเรียนทั้งหมดกำลังจะเข้าห้องเรียนในภาคบ่าย โดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งกำลังอบรมหน้าแถว จู่ๆ ก็มีรถของ พศจ.นครปฐม เข้ามาจอด แล้วผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ก็ลงมายื่นหนังสือคำสั่ง ผอ.พศ. ที่สั่งการให้เข้าสำรวจจำนวนสามเณรนักเรียนที่มีอยู่จริงโดยไม่มีแจ้งล่วงหน้า จากนั้นก็กางเอกสารเรียกชื่อสามเณรให้ขานรับที่ละรูป เมื่ออาตมาภาพเข้ามาพบภายหลังก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เพียงแต่ช่วยนำโพเดี่ยมมาตั้งอำนวยความสะดวกให้ และให้ข้อมูลจำนวนสามเณรนักเรียนไปตามจริง

เมื่อถามว่า โรงเรียนแห่งนี้มีปัญหาเรื่องรายงานจำนวนนักเรียนเป็นเท็จหรือไม่ ผอ.ร.ร.ตอบว่า ก็อาจจะมีปัญหาคลาดเคลื่อนบ้างที่เกิดจากการต้องรายงานตามโปรแกรมอี-ซิติเซน (e-citizen) ตามแบบของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ที่ต้องรายงานจำนวนนักเรียนทุกวันที่ 10 มิ.ย. และ 10 ธ.ค. จึงอาจจะมีช่องว่างระหว่างทางที่รายชื่อสามเณรนักเรียนทั้งภายในวัดและที่เดินเรียนจากวัดอื่นมีการหยุดเรียนหรือลาสิกขาไปโดยไม่ได้มาลาออก ประกอบกับระบบอี-ซิติเซน เป็นการถูกนำมาบังคับใช้ใหม่แทนของเดิมที่รายงานตามแบบเอกสาร จ.1 ร.1 ที่ไม่เคยมีปัญหา อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ได้รับจากพศ.นั้น เป็นเพียงงบอุดหนุนส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนรายจ่ายจริงของโรงเรียนยังต้องอาศัยเงินวัด หรือเงินสงเคราะห์จากเจ้าอาวาส ซึ่งมีรายจ่ายจิปาถะ แม้แต่การจ่ายค่าตอบแทนครูสอนเฉพาะวิชา เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นครูจากสถาบันการศึกษาภายนอกตกประมาณ 5,000 บาท/คน/เดือน

“นับว่าโชคยังดีที่ชาวนครปฐมมีศรัทธาต่อการศึกษาของพระเณร การออกบิณฑบาตจึงไม่ถึงกับขัดสน ยังพอฉันจากเช้าถึงเพล แต่เงินค่าบริหารจัดการนับเป็นปัญหาใหญ่ เราต้องบริหารแบบฉันรวมในบาตรเช่นเดียวกับพระกรรมฐาน แกง ผัด น้ำพริก ผัก ขนมหวานต้องรวมฉันในบาตรเดียว ก็เช่นเดียวกับเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธ เมื่อรับมาก้อนหนึ่งก็ต้องจับจ่ายเฉลี่ยไปทุกส่วน จะมาหาว่าใช้เงินผิดประเภทนั้นคงไม่ได้” ผอ.ร.ร.ปริยัติธรรม กล่าว