“ธรรมะหลวงพี่น้ำฝน” ช่วยเหลือคนจากไป ต่อลมหายใจให้คนเป็น

ช่วยเหลือคนจากไป ต่อลมหายใจให้คนเป็น                เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 นี้ วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้รับบทบาทหน้าที่สำคัญในสถานการณ์นี้ คือ การเป็นสถานที่สุดท้ายของผู้จากไปด้วยโรคระบาด ด้วยการเป็นสถานที่ฌาปนกิจร่างของผู้เสียชีวิต ทำให้ในแต่ละวัน ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ต้องดำเนินการเผาศพกันทุกวัน ทั้งรอบเช้า และรอบบ่าย ตามมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่ง ณ ขณะนี้ชาวบ้านในหลายพื้นที่นั้นมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการทางสาธารณสุขในการฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อ ทำให้การต่อต้านการใช้เมรุในพื้นที่ของตนน้อยลง อาตมาขอยืนยันอีกครั้งว่า ร่างผู้เสียชีวิต ได้รับการจัดเตรียมมาจากทางโรงพยาบาลเป็นอย่างดีแล้ว...

ธรรมะหลวงพี่น้ำฝน “ซื่อกินไม่หมด”

ธรรมะหลวงพี่น้ำฝน “ซื่อกินไม่หมด”                เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ความซื่อตรงต่อวิชาชีพของตนนั้น เป็นสิ่งที่ควรมีในทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใดก็ตาม จะเป็นอาชีพที่คนนับหน้าถือตา หรืออาชีพธรรมดาสามัญ ทุกอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ เป็นอาชีพสุจริตไม่ไปคดโกงใคร ไม่ไปเบียดเบียนใคร นั่นคืออาชีพที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ควรที่ผู้ประกอบอาชีพนั้น ๆ จะต้องมีความซื่อตรงต่อวิชาชีพ แม้ว่าอาชีพนั้นจะต้องทำงานด้วยความยากลำบาก เงินทองค่าตอบแทนก็น้อยนิด แต่หากยังคงเลี้ยงชีพด้วยอาชีพนั้น ๆ แล้ว ก็ต้องซื่อตรง ความซื่อตรงนั้นจะทำให้เจริญแน่นอน เชื่ออาตมาเถิด เพราะอาตมาเห็นตัวอย่างมาแล้วใกล้ตัวอาตมาเอง                ...

ธรรมะหลวงพี่น้ำฝน “ในมืดย่อมมีสว่าง”

ธรรมะหลวงพี่น้ำฝน “ในมืดย่อมมีสว่าง”                เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ในเวลาที่อาตมากำลังเขียนต้นฉบับนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ระลอกใหม่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แม้คณะบุคลากรทางการแพทย์จะทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังต้องอาศัยแรงสำคัญคือความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในการป้องกันตนเอง เพื่อป้องกันผู้อื่น และป้องกันครอบครัว สังคม ประเทศชาติ จากการแพร่ระบาดของโรค เพราะถึงมีหมอ มีพยาบาลนับแสนนับล้าน ก็มิอาจต้านภัยโรคร้ายได้ หากประชาชนไม่จับมือกันไปด้วยกัน แม้วันนี้จะเริ่มเห็นแสงสว่างจากวัคซีน แต่วัคซีนนั้น “กันตาย ไม่ได้กันติด” ฉะนั้นการยกการ์ด ยังคงต้องทำอยู่ต่อไป...

เรียนรู้จากน้าค่อมผู้จากไป แต่ไม่เคยจากใจผู้ชม

เรียนรู้จากน้าค่อมผู้จากไป แต่ไม่เคยจากใจผู้ชม เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน วันที่ 30 เมษายน มีความแจ่มใส ร่าเริง พร้อม 2564 เป็นวันที่คนไทยหลาย ๆ คนใจหาย ที่จะให้พลังบวกแก่ทุกคน เนื่องจากนายอาคม ปรีดากุล หรือ น้าค่อม ชวนชื่น แม้เป็นถ้อยคําที่ฟังดูแล้วนักแสดงตลกชื่อดัง ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคโควิด-19 ที่กําลังระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ นํามาซึ่งความโศกเศร้า น้าค่อมเป็นคนตั้งใจทํางาน มีวินัยกับผู้คนในวงการ...

ธรรมะจากหลวงพี่น้ำฝน : โควิดไม่น่ากลัว เท่าการกลัวกันเอง

ธรรมะจากหลวงพี่น้ำฝน : โควิดไม่น่ากลัว เท่าการกลัวกันเอง ​                เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ผ่านมาแล้วเกือบเดือนกับการระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่สร้างความอกสั่นขวัญแขวนไปทั้งประเทศ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อหลักพันต่อวัน และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ อย่างไรก็ตามอาตมาก็ไม่อยากให้ญาติโยมตระหนกเกินเหตุ แต่ให้ระวังตื่นตัวอยู่เสมอ จะหยิบจะจับสิ่งใด จะไปที่ใดก็ขอให้ระวังตัว สิ่งดีที่สุดคือการสวมหน้ากากอย่างถูกต้องตามหลักอนามัย และการล้างมืออยู่เป็นประจำสม่ำเสมอด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือสบู่ ​                การเพิ่มจำนวนขึ้นของผู้ป่วยต่อวันทำให้จังหวัดต่างๆ จนต้องตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น และมีผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโรงพยาบาลที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน และทางราชการก็เห็นว่าควรให้ผู้ป่วยทุกคนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้จึงเกิดนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Hospitel หมายถึง...

งานนี้คงได้รู้กัน… พวกเราชาวพุทธ จงอย่าได้กระพริบตา!!

งานนี้คงได้รู้กัน... พวกเราชาวพุทธ จงอย่าได้กระพริบตา!! จั่วหัว “ธรรมะครูบาอาจารย์” บทนี้ขึ้นมา ย่อมเป็นคำตอบอยู่ในตัว อธิกรณ์นี้ยังไม่ตอบโจทย์ ทุกอย่างยังคงคลุมเครือเช่นเหตุการณ์เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลถล่มกันเละ ใครที่เห็นด้วยกับฝ่ายตนก็ได้รับคำสนับสนุน ใครมีความเห็นตรงข้าม ก็จะถูกเสียดแทงด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ในฐานะที่ผู้เขียน ประกอบสัมมาอาชีพเป็นสื่อมวลชนสายศาสนา (ทุกศาสนาที่ทางราชการรับรอง) สืบเนื่องติดต่อกันมากว่า 25 ปี ย่อมมีความเคลือบแคลงสงสัยเช่นเดียวทุกท่านที่ทราบข่าว ซึ่งก็เป็นธรรมดาของความเป็นมนุษย์ ที่จะต้องอยากรู้ อยากเห็น ในสิ่งที่สงสัย...

ธรรมะครูบาอาจารย์ “ห ทำรวย ค ทำจน”

ห ทำรวย ค ทำจน เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ที่ผ่านมาทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าทำพิธีลงนะหน้าทอง อันเป็นตำรับตำรามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมมาแต่โบราณ เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตตามคติของครูบาอาจารย์แต่ดั้งเดิม คนที่มาลงนะหน้าทองนั้นก็มีหลากหลายที่มาสาขาอาชีพ หลากหลายภูมิหลัง ซึ่งหลายคนที่เข้ามานั้นก็กลายเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนทั้งหลาย ดังที่อาตมาจะหยิบยกขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ดังนี้ มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมาร่วมพิธีลงนะหน้าทองเช่นเดียวกับญาติโยมคนอื่น แต่อาตมาสังเกตประการหนึ่งว่า ดูเธอนั้นก็หน้าตาดี แต่มาวันนี้สังเกตได้เลยว่ามีความโทรม หน้าตาเหมือนผ่านความรู้สึกอะไรต่าง ๆ มามาก พอมาถึงตรงหน้าอาตมาก็ร้องไห้ขึ้นมาทันที สาธยายความต่าง ๆ ว่าอยากให้ผู้ชายมาคืนดีด้วย...

นะเมตตา นะหน้าทอง ต้องลงทั้งหน้าตาและจิตใจ

นะเมตตา นะหน้าทอง ต้องลงทั้งหน้าตาและจิตใจ ​                เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งมาถ่ายทำนำชมวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม และได้กล่าวถึงพิธีกรรมที่วัดไผ่ล้อมจัดมาเนิ่นนาน คือ “การลงนะหน้าทอง”  ​                การลงนะหน้าทอง เป็นพิธีกรรมมีมาแต่โบราณ มีคุณวิเศษด้านเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก ใครเห็นก็ชื่นชมเลื่อมใส มีสิริมงคลแก่ตัว ได้โชคได้ลาภเป็นเท่าทวี วิธีทำก็เป็นวิธีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ อาจารย์ของอาจารย์ คือนำแผ่นทองปิดลงตรงใบหน้า ใช้เหล็กแหลมจารลงบนแผ่นทองที่ติดอยู่บนใบหน้าเป็นตัวอักขระ แล้วปลุกเสกด้วยมนต์คาถาให้อักขระนั้นดุจมีชีวิต ติดตรึงอยู่บนใบหน้าให้บังเกิดเป็นอำนาจพุทธคุณ...

ลูกดีเพราะเลี้ยงดู… แต่ต้องถูกทาง ถ้าไม่ถูกทาง เละเทะ

ลูกดีเพราะเลี้ยงดู... แต่ต้องถูกทาง ถ้าไม่ถูกทาง เละเทะ เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน จุดไฟในใจคนฉบับที่แล้ว อาตมาได้กล่าวถึงพ่อแม่ประเภทแรกที่มีวิธีเลี้ยงลูกอย่างเป็นประชาธิปไตย มีความเอาใจใส่ลูกของตนเป็นอย่างดี จนวันนี้ลูกมีอนาคตที่สดใส ที่เป็นเช่นนี้ได้ก็ด้วยพ่อแม่เป็นส่วนสำคัญ ส่วนในฉบับนี้ อาตมาจะกล่าวถึงพ่อแม่อีกประเภทหนึ่ง เป็นพ่อแม่ที่รักลูกแหละ แต่ลูกก็ช่างร้ายกาจ พ่อแม่ก็ช่างกระไร ไม่เคยทันลูก คิดเข้าข้างตนเองเรื่อยไปว่า ลูกฉันจะดี คงไม่ชั่วร้ายอะไรนักหนา จนสุดท้ายก็ถึงจุดที่สายเกินแก้ กรณีนี้อาตมาพบเจอด้วยตนเอง เพราะแม่ของลูกคนนี้นำตัวมาฝากไว้ที่วัดไผ่ล้อม หวังจะแก้อาการติดยาเสพติด... ภูมิหลังของคนคนนี้ ติดยาเสพติด มักจะหาเหตุโกหกแม่ หลอกขอเงินแม่เพื่อไปซื้อยา...

คนสองคน บนเส้นทางเลิกยาเสพติด เป็นอย่างไรไปดู !

คนสองคน บนเส้นทางเลิกยาเสพติด เป็นอย่างไรไปดู ! ​                เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ยาเสพติดมีพิษร้ายทำลายชีวิตและครอบครัว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย แต่สถิติการเสพ และการค้ายาเสพติดในประเทศไทยก็ยังมีอยู่มาก เมื่อติดแล้วก็ตกเป็นทาสยา เมื่อหายามาเสพมาสนองมิได้ก็ลงแดง แสดงอาการต่าง ๆ ผิดมนุษย์มนา ทำได้ทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้ยามาเสพ ยาที่เสพก็มีทั้งยาทางการแพทย์ที่นำมาผสมเกินส่วน สารเคมี ไปจนถึงสารพิษมีอันตรายถึงแก่ชีวิต เมื่อเสพแล้วก็ยิ่งตกอยู่ในอำนาจยา บ้างก็หลอนประสาท บ้างก็กดประสาท ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เป็นเหตุแห่งอาชญากรรมต่าง ๆ...
- Advertisement -

ข่าวใหม่ประจำวันนี้

“เจ้าคุณประสาร” วอนใช้สติกรณีข่าวพระชั้นผู้ใหญ่เดินป่าล่าสัตว์ สั่งให้รายงานข้อเท็จจริงโดยเร็วแล้ว การสอบวินัยทางสงฆ์ต้องรอฟังผลทางศาลก่อน

จากกรณีที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆว่า พระศรีสัจญาณมุนี หรือ พระหาสุมินทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ มจร และคณะได้ออกเดินป่าล่าสัตว์ในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างกว้างขวางนั้น ในกรณีดังกล่าว พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในฐานะที่กำกับดูแลวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ตามภาระงานนั้นๆ ได้กล่าวว่า ในเรื่องนี้มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ความสำคัญและเข้าใจในประเด็นของพระธรรมวินัย ข้อกฎหมาย ความเหมาะสมและเสียงสะท้อนของผู้คนผ่านสื่อต่างๆ อย่างมากมายนั้น ในฐานะที่พระศรีสัจญาณมุนี (สุมินทร์)...

“นายกฯไวยาวัจกร” – ชาวบ้านวัดจันทร์ในยื่นหนังสือถึง ผอ.พศ. ตั้งทนายจัดการผลประโยชน์แทนเจ้าอาวาสชอบด้วยกม.หรือไม่

นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยชาวบ้านรอบวัดจันทร์ใน เข้ายื่นหนังสือถึงผอ.พศ.ให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าอาวาสวัดจันทร์ใน มีการแต่งตั้งมูลนิธิทนายกองทัพธรรม จัดสรรผลประโยชน์ทำงานแทนเจ้าอาวาสชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  พร้อมตั้งคำถามการขับไล่พระลูกวัด 12 รูป โดยชอบหรือไม่ พร้อมท้าทายประธานมูลนิธิฟ้องฯ กรณีไม่เคยมีการสอบสวนความผิด ชาวบ้านให้ความเห็น 4 ปีแล้วเจ้าอาวาสปกครองพระไม่ได้ สมควรลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 67 ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย...

มจร เร่งฝึกอบรมผู้บริหารเพื่อการพัฒนาแบบก้าวกระโดด

วันนี้ (24 เม.ย.67) พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ในฐานะผู้อำนวยการฝึกอบรมพัฒนาผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยโดยนโยบายของพระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี ได้ออกนโยบายเรื่องการพัฒนาบุคคลากรในทุกระดับเพื่อเพิ่มสมรรถนะ เพิ่มศักยภาพและมองเห็นเป้าหมายร่วมกันเพื่อจะได้นำพาองคาพยพของมหาวิทยาลัยไปสู่การพัฒนาในรูปแบบก้าวกระโดดเพื่อให้ทันต่อโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า การอบรมผู้บริการนั้นจะมีทุกระดับโดยเริ่มที่การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรใหม่ จำนวน 312 รูป/คนในระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2567 ณ หอประชุมอาคาร...