ศน. นิมนต์สงฆ์เวียดนามสวดมนต์ข้ามปี 61- 62 สำเร็จงดงาม สงฆ์มหายาน เถรวาท อนัมนิกาย แสดงสังฆะสามัคคีตอบรับอย่างพร้อมเพรียง

0
1694

สืบเนื่องจากคณะผู้แทนจากประเทศไทย นำโดย นายเกรียงศักดิ์ บุญประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) และพระโสภณวชิราภรณ์ (ไสว โชติโก) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ รก.ผอ. วิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เดินทางไปเจรจาความร่วมมือด้านกิจการพระพุทธศาสนา ณ เมืองฮานอย เมืองเว้ เมืองดานัง และนครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 5-10 กันยายน 2561 นั้น พระโสภณวชิราภรณ์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาเวียดนามครั้งนี้นับเป็นยามที่ดี โอกาสที่เหมาะ แม้จะต้องเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

อีกทั้งยังได้เรียนรู้ด้านความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อ และภาษา โดยเจ้าหน้าที่ได้มาด้วยกันหลายฝ่ายทั้งฝ่ายกิจกรรม รัฐพิธี กฎหมาย และฝ่ายงานต่างประเทศ ซึ่งแต่ละฝ่ายจะได้นำไปสรุปในส่วนของตนกับความสำเร็จในการเจรจาความร่วมมือสวดมนต์ข้ามปีเพื่อสันติภาพของโลกผ่านกิจกรรมที่เป็นวัฒนธรรมอันเข้มแข็งของไทย คือการสวดมนต์เจริญจิตภาวนาเป็นหลัก โดยมีศาสนาอื่นเข้าร่วมตามพิธีกรรมของแต่ละศาสนา

 

พระโสภณวชิราภรณ์  กล่าวว่า การเข้าพบกับอัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ท่านได้ตอบรับการจัดสวดมนต์ข้ามปีในนามของฝ่ายไทย  และจากการเข้าพบกับพระมหาการุญ การุณิโก (ฝ่ายเถรวาท) รองประธานสภาสงฆ์เวียดนาม ท่านยินดีที่จะร่วมกิจกรรมสวดมนต์ด้วย ส่วนจะจัด ณ ที่ใดในเมืองฮานอย ก็จะมีการกำหนดสถานที่อีกครั้ง

ส่วนที่เมืองเว้ ได้มีการเข้าพบกับท่านติ้ก เทียน ปั๊ก รองประธานสภาบริหารคณะสงฆ์แห่งเมืองเว้ ท่านติ๊ก ดัช เทียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม และคณะสงฆ์ (ฝ่ายมหายาน) ซึ่งท่านก็ได้กล่าวต้อนรับคณะของเราถึงเรื่องการสวดมนต์ว่า เป็นกิจกรรมที่ดีงาม โดยจะมีการจัดร่วมกับคณะสงฆ์ในมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม ซึ่งถ้าจัดในนามของมหาวิทยาลัยฯ ก็จะมีพระสงฆ์ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี (ฝ่ายมหายาน) ที่เป็นนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมด้วย

พระโสภณวชิราภรณ์  กล่าวต่อไปว่า จากนั้นเมื่อมาที่โฮจิมินห์ ได้เข้าพบท่านติ้ช เทียน อัน (Thich Thien Nhon) ประธานสภาบริหารคณะสงฆ์ชาวพุทธแห่งเวียดนาม (vietnam Buddhissangka )  หรือประธานมหาเถรสมาคม และคณะกรรมการสภาฯ ท่านก็ตอบรับด้วยความยินดียิ่ง ทุกท่านที่ร่วมหารือด้วยไม่มีการตั้งข้อสังเกตหรือตั้งคำถามใดๆ  เกี่ยวกับเรื่องนี้ อาตมาจึงได้หารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่เคยพูดคุยกับท่านและรัฐบาลเกี่ยวกับคณะสงฆ์อนัมนิกายในประเทศไทยที่ยังไม่มีการพัฒนาด้านภาษาเพียงแต่สวดในพิธีกรรมต่างๆ ตามรูปแบบของเวียดนามบ้างแบบจีนบ้าง ซึ่งทางคณะสงฆ์ของเวียดนามเองก็ไม่เห็นด้วย จึงอยากพัฒนาด้านภาษาทั้ง 21 วัดอนัมนิกายในประเทศไทยโดยการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและขอมอบให้มจร.เป็นเจ้าของเรื่องในนามของสถาบันการศึกษา ระหว่างนี้อยู่ในช่วงหารือข้อความในการลงนามความร่วมมือโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามเป็นผู้ดูแลร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมของเวียดนาม

“การที่ท่านประธานสภาบริหารคณะสงฆ์ชาวพุทธแห่งเวียดนามให้การต้อนรับคณะของเราอย่างเป็นทางการ นับเป็นโอกาสที่ยากมากที่ประเทศของเราจะได้เข้าเฝ้าพระสังฆราชหรือประธานสภาสงฆ์โดยมีรองประธาน และกรรมการรวมอยู่เป็นองค์คณะ และมีมติเห็นชอบ ในแง่ของอาตมาได้มองลึกไปกว่านั้น คือนับเป็นโอกาสอันดีที่คณะของเรามาในช่วงมีการประชุมสภาคณะสงฆ์ และนับเป็นมงคลอย่างยิ่งที่ท่านกำลังมีการประชุมอยู่แล้วท่านก็สละเวลาออกมาต้อนรับคณะเรา ดังนั้นข้อเสนอในการเจรจานี้ท่านก็จะเอาเข้าห้องประชุมเพื่อออกเป็นมติ แต่ต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่ท่านเห็นด้วยนี้ก็เป็นแนวทางเผยแผ่ของท่านด้วยเช่นเดียวกับที่กำลังเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลกปี 62 ในวันที่ 21-22 กันยายนนี้ที่ประเทศไทย” รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มจร. กล่าว

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การหารือด้านกิจการพระพุทธศาสนาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งจากคณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาท มหายานและอนัมนิกาย รวมทั้งสถาบันการศึกษาสงฆ์ในเวียดนามที่ตอบรับให้ความร่วมมือ อีกทั้งทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ก็ตอบรับที่จะร่วมประสานความพร้อมในกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีให้ประสบความสำเร็จต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเข้าพบประธานสภาบริหารคณะสงฆ์ฯ ทางคณะฯได้รับเชิญให้เข้ากราบสักการะ พระมหาเถระ ติ๊ช แทง ฟอง อายุ 93 ปี พูดได้ 7 ภาษา เจ้าอาวาสวัดหวิงห์เงียม อดีตรองประธานสภาบริหารคณะสงฆ์ฝ่ายต่างประเทศ ซึ่งพระมหาเถระท่านนี้เทียบสมณศักดิ์ได้กับรองสมเด็จพระสังฆราช เป็นพระสหธรรมิกที่ใกล้ชิดและร่วมต่อสู้กับพระ ทิก กว๋าง ดึ๊ก ผู้พลีกายถวายเป็นพุทธบูชา (จุดไฟเผาร่าง) ในปีพ.ศ. 2506 ณ กลางถนนสีแยกไฟแดง เขต 1 ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ เมื่อท่านได้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของคณะฯ จึงได้กล่าวอนุโมทนายินดีต่อการจัดสวดมนต์ข้ามปีและเจริญภาวนาเพื่อสันติภาพโลก เนื่องในวันปีใหม่สากล โดยทางวัดหวิงห์เงียม ยินดีที่จะร่วมจัดกิจกรรรมนี้ด้วย