มท.1 สั่งคุมเข้มงาน “OTOP City 2020” ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 คัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ

0
401

ย้ำตั้งการ์ดสูง ให้ผู้มาเที่ยวชมงานและผู้ประกอบการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมแจกเจลแอลกอฮอลล์ตลอดงาน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย  ได้เปิดเผยถึงการจัดงาน OTOP City 2020 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ กรมการพัฒนาชุมชน ยืนยันว่าการจัดงานดังกล่าวมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้น ตามข้อสั่งการของ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำชับให้คุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยใช้มาตรการในการดูแล คัดกรอง ตามหลักเกณฑ์ ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และสาธารณสุข พร้อมขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดงาน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการป้องการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  กรมการพัฒนาชุมชนได้ใช้มาตรการอย่างเข้มข้นตั้งแต่การจัดงานวันแรก โดยทางอิมแพ็คเมืองทองธานี มีการใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวี หรือ “Germ Saber Robot” ของศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ (NSD) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่พัฒนาขึ้นนี้ประกอบด้วยหลอดยูวี-ซี (UV-C ) ขนาดพลังงานรวม 300 วัตต์ พร้อมชุดควบคุมไฟ มีความพิเศษตรงที่สามารถบังคับให้ขับเคลื่อนไปยังจุดต่างๆ ผ่านอุปกรณ์ควบคุม “รีโมตคอนโทรล” เพื่อสั่งการให้หุ่นยนต์เดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาและหมุนตัวแบบ 360 องศา เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคทุกสภาพพื้นที่

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ภายในงานจะมีการสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ เว้นระยะห่างรักษาความหนาแน่นของพื้นที่ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆพร้อมแจกฟรีสำหรับผู้เข้าร่วมงาน รวมถึงมีการการทำความสะอาดพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ  อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชน มั่นใจในมาตรการดังกล่าวและมาเที่ยวงาน OTOP City 2020 เลือกของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ มอบช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาของคนไทย ที่คัดสรร จาก 75 จังหวัด และกรุงเทพมหานครเพื่อประชาชนคนไทย สุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ ผู้ที่ได้รับมอบของขวัญ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น  ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล และจากการวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมงาน พบว่าทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง อุณหภูมิปกติ ไม่มีนัยยะใดๆ ที่แสดงว่าติดโรคโควิต -19 แต่เพื่อความสบายใจของผู้ประกอบการทุกท่าน กรมการพัฒนาชุมชนขอให้ผู้ประกอบการจังหวัดสมุทรสาคร ยุติการจำหน่ายในงาน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา และจะให้การเยียวยาแก่ผู้ประกอบการทั้ง 66 ราย ในการได้รับสิทธิพิเศษต่อไปในภายภาคหน้าให้เข้ามาจำหน่ายในงานที่กรมการพัฒนาชุมชนจัดขึ้น โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาหรือคัดเลือก เนื่องจาก ผู้ประกอบการเหล่านี้เป็นผู้เสียสละ ให้แก่ผู้ประกอบการอื่นๆ และสร้างความมั่นในให้แก่ทุกฝ่ายเพื่อป้องกันภาพรวมคนส่วนใหญ่ไว้ ยืนยันว่าทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี ขอบคุณและเราจะดูแลให้พี่น้อง OTOP ได้มีโอกาสสร้างรายได้ไปเลี้ยงดูครอบครัวทำให้พี่น้องคนไทยได้มีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทยสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งมั่นคงไปด้วยกัน

โดยยอดจำหน่ายงาน OTOP City 2020 ระหว่างวันที่ 19 – 22 ธันวาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 273,890,740 บาท โดยในวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ยอดจำหน่าย 69,081,855 บาท ยอดคน เข้าชมงานจำนวน 14,868 ราย ยอดจำหน่ายสูงสุด 5 ลำดับแรกประกอบด้วย 1. หยกทองทวี พระพุทธรูป จ.เชียงราย จำนวน 1,553,500 บาท  2. นางสมสมัย  เขาเหิน ทองสุโขทัย  จ.สุโขทัย ยอดจำหน่าย 1,041,200 บาท 3. กุสุมาไหมไทย ผ้าไหมมัดหมี่ นครพนม จำนวน 900,000 บาท 4. น.ส.สุภัจนา เขาเหิน เครื่องประดับทอง จ.สุโขทัย จำนวน 785,000 บาท 5. บุญรัตน์ไทยคร๊าฟ กระเป๋ารูปไข่ถมทองฝังพลอย จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 740,000 บาท

“ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า มรดกภูมิปัญญาจากท้องถิ่นที่คัดสรรจากทั่วประเทศ มาร่วมอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ร่วมกันสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้กับประเทศ” อธิบดี พช.กล่าวเชิญชวน

ทั้งนี้การจัดงาน “OTOP City 2020” ครั้งที่ 16 ภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2563 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี  ซึ่งได้มีการจัดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ไว้อย่างเคร่งครัด