กรมศิลปากรเปิดแหล่งเรียนรู้ภูมิจักรวาลสด๊กก๊อกธม น้อมเกล้าฯ ถวายสักการะแด่ “สมเด็จพระเทพฯ” เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย

0
5109

เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายนของทุกปี ในฐานะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในการสร้างสรรค์และรักษามรดกของชาติด้านศิลปวัฒนธรรม ให้ตกทอดไปสู่คนรุ่นลูก หลาน เหลน ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้เป็น “วันอนุรักษ์มรดกไทย”

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เผยผลสำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน และประชาชนในหัวข้อ “วันอนุรักษ์มรดกไทย” ช่วงระหว่างวันที่ 8–24 มีนาคม 2560 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,810 คน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า ร้อยละ 74.31 ทราบว่าวันที่ 2 เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร้อยละ 76.72 มองว่ามรดกไทยประเภทโบราณสถาน มีความสำคัญมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 74.26 โบราณวัตถุ ร้อยละ 63.84 คุณค่าประเพณีไทย/ท้องถิ่น

โอกาสนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงจัดกิจกรรมรณรงค์การดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยเปิดให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานสำคัญ 4 ภาค และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์ เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวันอนุรักษ์มรดกไทยในระหว่างวันที่ 2-8 เมษายน 2560

ปราสาท “สด๊กก๊อกธม” เป็นโบราณสถานในวัฒนธรรมเขมรโบราณ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของประเทศไทย นายสมชัย อมรวัฒนสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทยในปีนี้

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวในพิธีเปิดงานวันอนุรักษ์มรดกไทย ณ โบราณสถานปราสาทสด๊กก๊อกธม เมื่อวันที่ 2 เมษายน ว่า “การประกาศให้วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 2 เมษายน เป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ความเข้าใจ ความสำนึกรักและหวงแหนในมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใน ฐานะที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติตลอดมา กรมศิลปากรในฐานะหน่วยงานที่สืบทอดมรดกงานด้านศิลปวัฒนธรรมมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2454 ถึงปัจจุบัน นับได้ 106 ปี  จึงได้จัดกิจกรรมและนิทรรศการต่างๆ ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เน้นการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ท้องถิ่น ประชาชน ตลอดจนนักเรียน และนักศึกษา มีการยกเว้นการเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ กิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ 76 จังหวัด โดยมีพื้นที่หลักสำหรับดำเนินกิจกรรม 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ณ เวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ ณ โบราณสถานเขาคูหา จังหวัดสงขลา ภาคอีสาน ณ โบราณสถานเมืองฟ้าแดดสงยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคตะวันออกและภาคกลาง ณ โบราณสถานปราสาทสด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว”

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ว่า ประกอบด้วย 1.จัดนิทรรศการแสดงประวัติการอนุรักษ์ และแผนการจัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทสด๊กก๊อกธมภายในเต็นท์บริเวณด้านข้างปราสาทฯ พร้อมแจกเอกสารนำชม 2.จัดรณรงค์ทำความสะอาดโบราณสถาน ปรับปรุง เติมน้ำในสระโดยรอบปราสาทให้สวยงามโดยความร่วมมือกับท้องถิ่น มณฑลทหารบกที่ 19 อาสาสมัครท้องถิ่นฯ (อส.มศ.) กรมศิลปากร และจังหวัดสระแก้ว 3.จัดวิทยากรพิเศษ นำชม นักท่องเที่ยว นักเรียน และนักศึกษา ตลอดสัปดาห์อนุรักษ์มรดกไทย ระหว่างวันที่ 2 – 8 เมษายน 2560 และ4.สื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เรื่องยุทธศาสตร์การจัดตั้งอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทสด๊กก๊อกธม โดยกรมศิลปากร ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฯลฯ

คติความเชื่อภูมิจักรวาลกับแผนผังปราสาทสด๊กก๊อกธมนั้น มีความหมายและความสำคัญที่มีอิทธิพลต่อพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับ “เขาไกรลาส” อันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ในรูปแบบของจักรวาลย่อย หรืออนุจักรวาล เพื่อการสร้างพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และพระศพ ทั้งในพระราชสำนักไทย และพระราชสำนักกัมพูชา  ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า “ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” ที่สามารถประมวลความเชื่อต่อเรื่องนี้ได้อย่างกลมกลืน

สิ่งที่น่าศึกษาและเรียนรู้ คือ ตัวปราสาทสด๊กก๊อกธมนั้น ปราสาทประธานจะสร้างแทนเขาไกรลาสเป็นศูนย์กลางจักรวาล ล้อมรอบด้วยกำแพงระเบียงคดหรือเขาวงกต คูน้ำรูปตัวยู ( U ) แทนมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาวงกต ด้านนอกเป็นกำแพงแก้วก่อสร้างไว้แทนเทือกเขาวงนอกของจักรวาล โดยในปีพุทธศักราช 2444 นายเอเตียน เอโมนิเยร์ นักภาษาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ค้นพบเสาหินจารึกสด๊กก๊อกธม อักษรขอม มีข้อความโดยสรุปว่า โบราณสถานแห่งนี้สร้างขึ้นในพุทธศักราช 1595 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 ในวโรกาสที่พระองค์ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานแห่งภัทรปัตนะ ซึ่งเคยถูกทำลายลงในช่วงสงครามกลางเมืองสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ตามคำกราบบังคมทูลของพราหมณ์สทาศิวะหรือชเยนทรวรมัน…

สิ่งที่สร้างความประทับใจผู้มาร่วมงานและนักท่องเที่ยวในพิธีเปิดงานฯ ณ ลานภายในโบราณสถานปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นการแสดงศิลปะพื้นเมืองสร้างสรรค์ ชุดระบำนาฏยลีลา “อัปสราสด๊กก๊อกธม” ตามขบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรมทางโบราณคดีของปราสาทสด๊กก๊อกธม ของโรงเรียนบ้านโคกสูง สพป.สก. เขต 2

เป็นการร่ายรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่ออำนวยอวยพรและถ่ายทอดประวัติความเป็นมาผ่านเสียงเพลงบรรเลงประกอบ ความวิจิตรบรรจงในท่าร่ายรำ ที่ลอกจากแผ่นศิลาของปราสาทสด๊กก๊อกธม ในรูปแบบของนางอัปสราด้วยท่วงท่า ลีลา สง่างามยิ่งนัก

ณ. หนูแก้ว