“หลวงพี่น้ำฝน” ให้แสงธรรมนำทางผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดเมืองเจดีย์ใหญ่ รุ่นที่ 6 ชี้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ชีวิตจะประสบความสำเร็จ

0
1355

สำนักข่าว thairnews – วันนี้ (17 กันยายน 61) ที่กองร้อยบังคับการและบริการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครปฐม จัดให้มีการเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจังหวัดนครปฐม รุ่นที่ 6 โดยมี นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ ปลัดจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธี และนายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี ป้องกันจังหวัดนครปฐม เป็นผู้กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ในการนี้ได้นิมนต์ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม บรรยายธรรมปลูกแนวคิดและถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยอันดับหนึ่งของประเทศ

นายธนิศร์ กล่าวในพิธีเปิดค่ายว่า รัฐบาลมีนโยบายและได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้ยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด เพื่อมุ่งเน้นการลด Demand ซึ่งเป็นการวงจรสำคัญของปัญหายาเสพติด และในปี พ.ศ.2561 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติด โดยเน้นการดำเนินการในเชิงคุณภาพ ปรับปรุงมาตรฐานการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดทุกระบบ ยึดหลักผู้เสพติดคือผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการบำบัดเพื่อให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม

ปลัดจังหวัดนครปฐม  กล่าวต่อไปว่า ในจังหวัดนครปฐม ได้มีการอบรมรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 6 และเป็นรุ่นสุดท้ายของงบประมาณ ปี พ.ศ. 2561 โดยจังหวัดนครปฐม ได้มีนำหลักการมาดำเนินการทางการสาธารณสุขมาคัดกรอง แยกประเภทของการใช้ยาเสพติด มีการดำเนินการให้ผู้เข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในครั้งนี้จำนวน 100 คน จากทั้ง หมด 7 อำเภอ ซึ่งมีระยะการดำเนินการ 12 วัน แบ่งเป็นการเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 9 วัน และฝึกอาชีพ 3 วัน  ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมในการดำเนินการประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ศป.ปส.อำเภอทุกอำเภอ และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากการฝึกอาชีพแขนงต่าง ๆ โดยการใช้ศาสตร์พระราชาและน้อมนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับผู้หลงผิด เพื่อได้นำไปปรับใช้หลังจบการเข้าค่ายบำบัดฯ

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กล่าวในการบรรยายธรรม โดยได้นำเอาประสบการณ์จากครั้งแต่ยังไม่ได้บวชและเห็นคนที่เข้าไปพัวกันกับยาเสพติดเมื่อราว 30 ปีก่อนว่า ชีวิตมีแต่ความตกต่ำหากยังไม่คิดเลิก ซึ่งหลักธรรมที่ได้ให้ไว้คือ การให้ตั้งใจในการลด ละ และเลิก ที่จะข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างแน่วแน่ โดยให้เอาใจเป็นที่ตั้งถ้าใจจะเลิกจะไม่ข้องเกี่ยวอย่างจริงจังเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ โดยให้ยึดคำสั่งสอนจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแกนหลักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างแท้จริง ก็จะประสบผลสำเร็จแน่นอน

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า ประสบการณ์ที่อาตมาได้พบตั้งแต่เด็กคือการที่มีเพื่อนๆ หลายคนได้เคยไปเป็นทาสของยาเสพติด ปัจจุบันเสียชีวิตไปหมดแล้ว เพราะยุคสมัยก่อนจะเริ่มตั้งแต่บุหรี่แต่สุดท้ายก็ไปจบที่การฉีดเฮโรอีนเข้าเส้น ซึ่งการเอาชนะที่ดีที่สุดคือการเอาชนะใจตัวเอง ถ้าเราชนะใจตัวเองได้ก็จะเลิกตกเป็นทาสของยาเสพติดได้อย่างถาวร วันนี้คนที่เข้าอบรม 100 คน ถ้าเชื่ออาตมา 2 คนก็ถือว่าสำเร็จแล้ว แต่ถ้าละเลิกได้ 100 คนจะเป็นสิ่งที่ปราบปลื้มใจมาก เพราะเป็นเรื่องที่อาตมารณรงค์กันมาโดยตลอด โดยที่วัดไผ่ล้อมก็เคยมีลูกมหาเศรษฐี มาฝากให้อยู่วัดไผ่ล้อมเพื่อให้ช่วยเลิกยาเสพติด ซึ่งสิ่งที่ใช้คือการใช้หลักธรรมที่ง่ายๆ มาสั่งสอน คือให้ผู้เข้ามาที่วัดได้ท่องให้ขึ้นใจ คือ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้บุญคุณคน เป็นที่ตั้งและให้วางกระบวนในการคิดคือ ต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างมีเหตุผล

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวด้วยว่า อาตมาเคยมีประสบการณ์ ที่เคยรู้จักกับพนักงานที่ทำงานเก่งมากทำงานได้เงินเดือนถึง 1 แสนบาท แต่ไปหลงติดกับการเสพยาเสพติด โดยให้เหตุผลว่า เมื่อได้เสพและทำให้ทำงานได้มาก แต่เมื่อถามว่าเงินที่ได้ซื้อยามาเสพนั้นเป็นเงินเท่าไหร่ คำตอบคือใช้เงินสำหรับเสพยาไปอีกเดือนและ 1 แสนกว่าบาท มากกว่าเงินที่หามาได้ทั้งเดือน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งสิ่งที่อยากจะให้นำไปคิดคือ วันนี้หน่วยงานภาครัฐ นั้นให้เราหมดแล้ว ทั้งการฝึกทางกายและจิตใจ รวมถึงให้อาชีพ ซึ่งครบหมดแล้วสำหรับเริ่มชีวิตใหม่ โดยต้องใช้เงินถึง 6,500 บาทต่อคน วันนี้ 100 คนเป็นเงิน 650,000 บาท ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับงบประมาณแผ่นดิน รอบนี้คนที่อายุน้อยที่สุดคือ 13 ปี และมากที่สุดคือ 61 ปี ซึ่งเห็นข้อมูลแล้วยังเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก

“อาตมา มาวันนี้ มาเพื่อช่วยทุกคนที่ยังหลงผิดเสพและขอให้เชื่อว่าอาตมาเป็นพวกเดียวกับพวกโยม ถ้าไม่ใช่พวกก็จะไม่สนใจที่จะมาให้แสงสว่างกับพวกโยมและเชื่อว่าน่าจะมีคนที่มีสติและนำไปคิดได้ และสิ่งที่บอกคือมันไม่ยากถ้าใจจะทำ แต่ที่ยากเพราะใจเราไม่ทำ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ อาตมาก็ได้แต่พูด ถ้าโยมไม่นำไปพัฒนานำมาปฏิบัติ หายนะจะมาหาโยมแน่นอน ส่วนใครที่นำไปใช้ขอให้เชื่อว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เราเป็นเพื่อนกันอาตมาขอเป็นเพื่อนที่ดีต่อพวกโยมและขอย้ำให้เชื่อว่า ยาเสพติดคือหายนะที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่ง”