“เรื่องเหล้า” ประเด็นเร่าร้อน แห่งปี 2561 เครือข่ายฯ เดินหน้าเฝ้าระวัง สร้างสรรค์กิจกรรมดีๆมุ่งมั่นปกป้องเด็ก เยาวชน เพื่อลดและชะลอความสูญเสีย

0
1251

ขอต้อนรับเข้าสู่ศักราชใหม่ 2562 อย่างเป็นทางการภายอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ทามกลางบรรยากาศแห่งความสุข สดชื่น แต่ลึกๆ ก็คงจะอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องราวที่เป็นปมเหตุของปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นในปี 2561 ซึ่งนักรณรงค์ลดปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอออล์ ได้แก่ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์(ครปอ.) เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และหน่วยงานของรัฐ ก็ยังคงเดินหน้ารณรงค์ เฝ้าระวัง มุ่งมั่นปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน สุขภาพของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อลด และชะลอความศูนย์เสียอย่างไม่หยุดยั้ง..

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

เริ่มจากข่าวแรกแห่งปี ที่ปล่อยผ่านไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ปภ.ได้สรุป 7 วันอันตราย ถึงแม้ว่าสถิติผู้เสียชีวิตลดลง แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุยังสูงสุดถึงร้อยละ 43.66  ก็ยังคงเป็นการเมาแล้วขับอยู่ดี  ต่อด้วย ข่าวที่ 2 ช่วงสงกรานต์ที่ยังคงเป็นการเดินทางที่น่าห่วง ซึ่งสธ.หวั่นเจ็บ-ตายพุ่ง กำชับ ผวจ.ทั่วประเทศคุมเข้ม กม.เหล้า ในขณะที่ สสส.และเครือข่างดเหล้า เสนอยกระดับ “เมาแล้วขับ” เป็นนโยบายระดับชาติ หลังจากขับเคลื่อนนโยบายจัดโซนนิ่ง พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดเหล้าเห็นผล และข่าวที่ 3 ยังคงเป็นข่าวสูญเสียสะเทือนสังคมอีกชิ้นหนึ่งที่สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้แก่ครอบครัว เพื่อนผอง ญาติมิตร รวมไปถึงแฟนคลับจำนวนมาก คือการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของอดีตพระเอกชื่อดัง “โอ วรุฒ วรธรรม” ที่ผันตัวเองมาเป็นจิตอาสาร่วมรณรงค์เผยชีวิตที่เคยติดเหล้ามาก่อน ซึ่งทางการแพทย์ออกมาระบุว่าการดื่มสุรา หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน มีโอกาสที่ผู้ดื่มจะกลายเป็นพิษสุราเรื้อรังได้…ข่าวที่ 4  ในเดือน พ.ค. เครือข่ายงดเหล้า ส่งหนังสือถึง “ลุงตู่” เสนอแนวคิดหลังรัฐบาลจัดเก็บภาษีน้ำเมาต่ำกว่าเป้า ซึ่งสวนทางการหารายได้เข้ารัฐ แนะยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชน ลดนักดื่มนักสูบ ต้นเหตุแห่งปัญหาสังคม-สุขภาพ  ย้ำ!! การเก็บภาษีได้ต่ำลง แต่เป็นผลดีต่อสังคมและสุขภาพคนไทย สะท้อนจากองค์ความรู้ทั่วโลก รวมทั้งธนาคารโลก ระบุชัดเจนว่า การควบคุมน้ำเมา และบุหรี่ ยิ่งควบคุมยิ่งส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจ และสังคม ข่าวที่ 5  อยู่ในเดือนก.ย. เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง  เมื่อเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุราร้อง “บิ๊กจิน” และเลขาฯ สำนักงานศาลฯ เอาผิดผู้เกี่ยวข้องในงานเลี้ยงที่สนามหน้าศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมในฐานะที่เกี่ยวข้องโดยตรง เร่งตรวจสอบและกำชับให้หน่วยงานในสังกัดไม่กระทำผิด รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ข่าวที่ 6 มาถึงเดือน ต.ค. สธ.-สสส. ร่วมประชุมคู่ขนานกับการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) ยกระดับมาตรการควบคุมน้ำเมา ขานรับชุดมาตรการ SAFER ให้ทั่วโลกนำไปปรับใช้ในการลดอัตราการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตของประชากรจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับเป็นย่างก้าวสำคัญที่โลกได้ให้ความสำคัญปัญหาจากน้ำเมาอย่างชัดเจน

ข่าวที่ 7  ยังอยู่ในเดือน ต.ค. เมื่อนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ห้ามขายเบียร์สดในร้านสะดวกซื้อ หลังจากที่เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจแอลกอฮอล์ได้เรียกร้องให้คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะตู้กดขายเบียร์สดในร้านสะดวกซื้อซึ่งสืบเนื่องมาจากการที่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังได้นำมาทดลองขายในปีที่แล้ว ปิดประตูเบียร์กดสะดวกซื้อสะดวกเมา ต้องคอยดูว่าธุรกิจจะหาทางต่อไปอย่างไร  ข่าวที่ 8 เครือข่ายต้านเหล้า อัดมูลนิธิบลูมเบิร์ก ที่ตั้งใจนำแอลกอฮอล์มาจัดเลี้ยงในงานประชุมความปลอดภัยโลก ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา งานเวทีระดับโลกมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คนทั่วโลก ทั้งนี้ คณะกรรมการการจัดงาน หลายท่านได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เหมาะสม และร้องขอให้งานประชุมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้จัดได้ตอบสนองยกเลิกการเสริฟแอลกอฮอล์ และยังได้บรรจุข้อความเรียกร้องในข้อตกลงกรุงเทพฯ ให้การประชุมครั้งต่อไปให้งดการจัดเลี้ยงด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับเป็นอีกย่างก้าวสำคัญของประเทศไทยต่อการกำหนดค่านิยมการประชุม  และข่าวที่ 9  ยังอยู่ในเดือนพ.ย. เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีการจัดกิจกรรม “หมอชวนวิ่ง” นัดสุดท้ายที่ สธ. จัดโดยแพทยสภา ซึ่งปล่อยให้มีการตั้งบูธน้ำดื่มที่อยู่ในเครือบริษัทเบียร์แห่งหนึ่ง โดยใช้ตราสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นี่คือกลยุทธ์การตลาดที่แนบเนียนแม้แต่ตัวกระทรวงสาธารณสุขเองยังตั้งรับไม่ทัน

มาต่อกันด้วย ข่าวที่ 10  ธ.ค. ปลัดสาธารณสุขสั่งสอบ กำชับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.รพ.ทั่วประเทศให้ตระหนักว่า การจัดงานเลี้ยงงานรื่นเริงในสถานที่ราชการต้องปลอดสุรา เพราะกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ถือกฎหมาย ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ทุกจังหวัดต้องเข้มงวดในฐานะผู้ถือกฎหมาย ไม่ทำผิดเสียเอง หลังจากมีคลิปหลุดโรงพยาบาลลำพูนจัดงานสังสรรค์ มีผู้นำน้ำเมาเข้าไปดื่มทั้งที่ผิดกฎหมาย  แถมท้ายสำหรับเดือนสุดท้ายปลายปีธุรกิจสุรากำลังทำการตลาดปลายปี แต่กฎหมายได้ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การแสดงชื่อหรือเครื่องหมายการค้า อวดอ้าง หรือชักจูงให้ดื่ม ทั้งนี้ สิ่งที่ทำไม่ได้เลย เช่น ลานเบียร์ ก็ห้ามจัดโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม หรือแสดงโลโก้ที่เด่นชัด และผู้ขายห้ามขายให้คนที่มีอาการเมาอยู่แล้วด้วยร้านค้าหรือห้างใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเลยเชียวนะ

เรื่องเหล้าประเด็นร้อนยังไม่หมดแค่นี้ เมื่อมีเพจดัง Red Skull Phatthalung เผยแพร่คลิป พร้อมรูปภาพ พ่อวัยรุ่นให้เด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบดื่มเบียร์กระป๋อง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ หวั่นเป็นอันตรายต่อเด็ก เห็นข่าวแบบนี้แล้ว ณ จุดนี้ก็นับว่าสังคมไทยกำลังเผชิญหน้ากับค่านิยมขั้นอันตรายเลยทีเดียว

ในขณะที่มี เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายที่เกี่ยวข้องกับเหล้า-เบียร์ ทำให้นักรณรงค์ก็ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ เพิ่มขึ้น เรามากันที่กิจกรรมแรก “งานครูดีไม่มีอบายมุข” จะเป็นการมอบโล่คุณครูที่มีการประพฤติตนปราศเหล้า-บุหรี่ และอบายมุข ตลอดจนการสอนและสร้างผลงานให้ประจักษ์ในพื้นที่โรงเรียนของตนเอง อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดี สมกับเป็นแม่พิมพ์ พ่อพิมพ์ของชาติ  กิจกรรมที่ 2 ร้านนมสร้างสุขเป็นการรงค์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ สมาคมอาหารนมไทยฯ ชวนคนไทยดื่มนมและชวนผู้ประกอบการเปิดร้านนมเพื่อสุขภาพรอบสถานศึกษา อย่างสร้างสรรค์  กิจกรรมที่ 3 มาถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ สสส. ผนึกภาคีเครือข่าย ชวนพื้นที่ทั่วไทย จัดโซนนิ่งเล่นน้ำปลอดภัยปลอดเหล้า แก้ปัญหาอุบัติเหตุที่ต้นตอ กิจกรรมที่ 4 ก.มหาดไทย โดยกรมการปกครอง เครือข่ายงดเหล้า และสสส. มอบรางวัล 155 นายอำเภอนักรณรงค์และเปิดตัวพื้นที่อำเภอรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ร่วมกระบวนการ ชวน ช่วย เชียร์ ส่งกำลังใจให้คนงดเหล้าให้ครบพรรษา..หวัง!! ลดนักดื่มหน้าเก่า ป้องกันหน้าใหม่  กิจกรรมที่ 5 รณรงค์พลังมดชวนงดเหล้าครบพรรษา โดยจะเน้นดำเนินการในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมค้นหาผู้ติดสุรา ให้คำปรึกษาการเลิกดื่มที่ถูกต้อง การส่งต่อเพื่อบำบัดกรณีดื่มจนเสพติดเป็นผู้ป่วย

กิจกรรมที่ 6 ในช่วงเข้าพรรษาสคล. สสส. ร่วมกับสพฐ.กระทรวงศึกษาธิการ นัดกิจกรรมโพธิสัตว์น้อยออกมาชวน เขียนจดหมายสื่อรักขอพ่อแม่เลิกเหล้า ซึ่งใช้วิธีนี้ สำเร็จในหลายพื้นที่ บางกรณีถึงขั้น ตัดสินใจเลิกเหล้า เอาเงินกินเหล้ามาผ่อนรถ ซื้อรถใหม่กันเลยทีเดียว  โดนใจสุดๆ สำหรับคนรักสุขภาพกับ กิจกรรมที่ 7 เครือข่ายงดเหล้าและภาคีเครือข่าย ชวนคนไทยออกมาวิ่ง  ในกิจกรรม “วิ่งพักตับ ปอดขยับ ตับพักผ่อน 9 เส้นทาง 9 ภาค 9 วัฒนธรรม” ชวน ช่วย เชียร์ คนไทยพักตับ พักต่อ ส่งกำลังใจให้คนบวชใจงดเหล้าให้ครบพรรษาตลอด 3 เดือน  หวัง!! สร้างเสริมสุขภาพคนไทย เน้นการป้องกันมากกว่ารักษา ผลตอบรับเป็นที่น่าชื่นใจ ขนาดจัดครั้งแรกยังชุมฉ่ำขนาดนี้ คงต้องจัดทุกปีซะแล้ว ต่อมาเป็นกิจกรรมที่ 8 ขาดไม่ได้ช่วงเข้าพรรษ เมื่อเลิกเหล้าแล้วก็ต้อง ชื่นชมคนที่เลิกเหล้าได้ มอบเข็มและใบประกาศในกิจกรรม “เวทีฉลองชัย เชิดชูเกียรติ คนหัวใจหิน เหล็ก เพชร”  สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่มุ่งมั่นจะเดินออกจากเส้นทางของนักดื่ม คือกำลังใจ โดยเฉพาะกำลังใจจากคนใกล้ชิด เราจะสามารถเลิกเหล้าได้ต้องเริ่มต้นมาจากทั้งพลังจากตัวเราเอง นั่นคือ พลังใจ แต่สิ่งแวดล้อมเองก็สำคัญมาก โดยเฉพาะครอบครัวและชุมชน ถ้าหากครอบครัวช่วยให้กำลังใจได้เพิ่มขึ้น ชุมชนจัดบรรยากาศที่เหมาะสม ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้สูง

ต่อมาเป็น กิจกรรมที่ 9 เมื่อวันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง คือเทศกาลลอยกระทง ทั้งนี้สสส. ชูพื้นที่ “ลอยกระทงปลอดเหล้า ปลอดภัย” มีการควบคุมการขายการดื่มแอลกอฮอล์ และประทัดยักษ์ ไม่ว่าจะเป็นยี่เป็งเชียงใหม่ หรือกระทงสายจังหวัดตาก ซึ่งเป็นงานโชว์เคสกับชาวโลก ยังคงใช้รูปแบบปลอดเหล้าเพื่อลดความสูญเสีย พบสัดส่วนงานลอยกระทงปลอดเหล้าเทียบกับที่ไม่ปลอดเหล้าทั่วประเทศในการสุ่มสำรวจทั้งหมด 96 งาน โดยมีการจัดงานลอยกระทงแบบปลอดเหล้าร้อยละ 74 และจัดโดยไม่ปลอดเหล้าร้อยละ 26 ซึ่งผลตอบรับจากการรณรงค์ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ลดปัญหาการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุทางถนน ประชาชนกว่าร้อยละ 80 เห็นด้วย  มาถึงกิจกรรมที่ 10 เราลดอายุลงมาที่งานเทศกาลดนตรีแบบอินดี้ ที่ สสส. ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้าและเครือข่ายเยาวชนโคตรอินดี้ ภูมิใจเสนอ คลีนคอนเสิร์ต งานดนตรีเด็กแนวแห่งชาติ “ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่ดื่ม” เทศกาลดนตรี โคตรอินดี้ ปีที่ 14 ตอน “วงไม่ดังก็ฟังบ้างเหอะ” ที่ ABOUT STUDIO (เลียบทางด่วนรามอินทรา)   3 เวที 59 วงดนตรี (ได้ขึ้นเล่นก็หล่อเเล้ว) ยืนหยัดมา 14 ปีแล้ว พบกันกับโคตรอินดี้..คลีนคอนเสริ์ทในทุกปีเลยจ้า (ภาพที่ 8)

เป็นที่ทราบกันดีว่าสังคมไทยต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายและมีอีกหลายกิจกรรม ที่ช่วยให้เกิด มาตรการสำหรับการแก้ปัญหาแอลกอฮอล์ทางต่างๆ จากทางภาครัฐที่เข้ามาหนุนเสริม งานรณรงค์ส่งเสริมให้ ลด ละ เลิก เหล่านี้อาจจะช่วยคืนชีวิตให้ครอบครัวเป็นสุขได้หลายชีวิต

บางครอบครัวได้สามี ได้คุณพ่อคนใหม่ ที่ทำให้ครอบครัวกลับมามีความสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับ เด็กบางคนรอคอย และใช้ความอดทนอย่างมากที่จะได้มีวันนี้   ขอโอกาสเหล่านั้น เพื่อส่งมอบความสุขให้พวกเขา อย่างที่เขาควรได้รับเป็นของขวัญวันปีใหม่กันเถอะ.