“หลวงพี่น้ำฝน” แจง วิชาลงนะหน้าทองตำรับหลวงพ่อพูล ไม่ใช่ปิดทองเต็มทั้งหน้าตามที่เป็นข่าว แนะให้ญาติโยมใช้หลักคิด

0
277

วันที่ 20 ม.ค.65 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง  จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม  ได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องลงนะหน้าทองปิดทองเต็มหน้า ตามที่เกิดเป็นประเด็นที่เป็นข่าว ว่ามีการลงนะหน้าทองด้วยการนำทองคำเปลว นำมาปิดทั่วใบหน้า  ในส่วนตัวเองไม่เคยร่ำเรียนวิชาเช่นนี้และที่วัดอาตมาก็ไม่เคยมีการทำแบบนี้ เพราะการลงนะหน้าทองตำหรับหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อมนั้น จะให้ลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาสผ่านการครอบครูแล้วมาเป็นผู้ปิดทอง ที่บริเวณหน้าผาก 7 แผ่น และที่มืออีกข้างละ 1 แผ่น รวม 9 แผ่น โดยอาตมาจะเป็นผู้ลงอักขระยันต์ให้โดยไม่มีการสัมผัสหรือถูกเนื้อต้องตัวผู้ที่มาลงนะหน้าทองตามตำรับหลวงพ่อพูลเลย มีแต่เคยได้พบเห็นเมื่อครั้งได้รับไปนิมนต์ในต่างประเทศ เช่นประเทศจีน ฮ่องกง ซึ่งก็มีคนจัดงานจะมีการนำทองมาปิดทั้งหน้ากับผู้ที่เข้าร่วมพิธี เพื่อเป็นการเรียกราคาและสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ แต่วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จะมีการปิดทองแค่บางส่วน คือส่วนที่เป็นหน้าผาก แก้มและที่มือเท่านั้น แต่ในช่วงโควิดจึงงดปิดที่แก้ม เพราะผู้ร่วมพิธีต้องปิดหน้ากากอนามัยไว้ตลอด และสิ่งที่จัดพิธีนี้เป็นวิชาที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ไว้เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมา โดยเป้าหมายคือการให้กำลังใจในการดำเนินชีวิตของญาติโยมเท่านั้น

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า ส่วนกระแสที่มีการโจมตีว่าเป็นความงมงายและเป็นแหล่งเรียกเงินทองจากญาติโยม เรื่องนี้ใครทำอะไรไว้ไม่นานผลกรรมก็จะกลับมาหาอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งที่วัดไผ่ล้อม อาตมาได้ใช้หลักคาถาบูชาชั้นสูง โดยเฉพาะที่หน้าผากทั้งบทสวดเชิญพระบารมี 30 ทัศน์ และบทสวดมงกุฏพระพุทธเจ้า นี่คือมงคลทั้งสิ้น เพราะนำเอาบทสวดที่รำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาไว้ที่หน้าซึ่งบริเวณใบหน้าเป็นที่สูง ท่านว่าดีหรือไม่ และการให้ผู้เข้ารับการเจิมได้มีการตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อให้เกิดความโชคดี อาตมามีขั้วบวก ญาติโยมที่มาร่วมพิธีมีขั้วลบ เมื่อมาประสานกันก็จะมีพลังบางอย่าง โดยในการทำพิธีเมื่อได้รับพร ญาติโยมก็จะได้รับขวัญและกำลังใจ เราไม่มีการสวดใส่บทให้ร่ำรวยหรือเป็นทางมืดดำที่เป็นอวิชาแน่นอน

“ส่วนที่มีคนมากดดันมหาเถรสมาคม เพื่อให้พระผู้ใหญ่ออกมากำราบเรื่องนี้ สำหรับอาตมาไม่เคยให้ค่าคนๆ นี้เลย เพราะถ้าเขาพบคนที่หลอกลวงทำให้ญาติโยมเสียทรัพย์เขาก็ควรจะไปจัดการได้เลย อาตมาก็เห็นว่าดี แต่ส่วนที่จะมาจับ มากดดันพระที่มีการจัดทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ในสังคมก็สุดแล้วแต่เขาเพราะพระผู้ใหญ่ท่านทราบดีว่าใครทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา เพราะค่าครูในการทำพิธีก็นำมาจัดสร้างพัฒนาวัด มีกองทุนสวดเผาฟรี มีการช่วยเหลือคนป่วยมาตลอด ก็เหมือนกับการทำสังฆทานเพื่อสิริมงคล การลงนะหน้าทองก็ให้ถือหลักว่าไว้ว่า ให้รำลึกถึงความดีและสืบสานพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว

และกล่าวย้ำว่า สุดท้ายเรื่องนี้ ประชาชนต้องศึกษาและใช้หลักคิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างมีเหตุผล สิ่งที่สำคัญคือการมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต โดยครูที่สำคัญที่หลวงพ่อพูลท่านได้สืบสานคือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ให้หลักธรรมคำสั่งสอนกับเราไว้นั้นเอง หลวงพี่น้ำฝน กล่าว

*****************************************************************