สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์ประณามกรณีบุกฆ่าพระในวัด เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจับกุมผู้กระทำผิด-เยียวยา-ปกป้องผู้บริสุทธิ์

0
872

วันนี้ (19 มกราคม 2562) สำนักจุฬาราชมนตรี แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง ขอประณามกรณีการสังหารพระสงฆ์ อิหม่าม และประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายชุดดำ บุกเข้ายังวัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเจ้าอาวาสและพระลูกวัดมรณภาพ 2 รูป และบาดเจ็บ 2 รูป ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อบรรดาญาติของผู้สูญเสียทุกคน ผู้ที่เป็นนักบวชทุกรูป รวมถึงประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงนี้ และขอประณามการกระทำอันเหี้ยมโหดและไร้มนุษยธรรมของผู้ก่อความไม่สงบทั้งหลายที่พยายามบ่อนทำลายความสงบสุขและกระบวนการสันติภาพในพื้นที่

สำนักจุฬาราชมนตรีเห็นว่า การใช้ความรุนแรงอย่างไร้ขอบเขตโดยไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็น เด็ก สตรี ผู้สูงวัย และผู้นำศาสนาของทุกศาสนา เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและละเมิดกับหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนาอย่างร้ายแรง สำหรับศาสนาอิสลามนั้น ถือว่าเป็นบาปใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าจะลงโทษผู้กระทำการเยี่ยงนี้ก่อนสิ่งอื่นใดในวันพิพากษา ดังปรากฏมีรายงานจากหะดิษศอเฮี๊ยะฮ์ของอิหม่ามบุคอรีว่า “สิ่งแรกที่จะถูกสอบสวนในวันพิพากษาของมนุษย์ คือการทำร้ายเข่นฆ่าผู้อื่น”

แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี ระบุด้วยว่า พระภิกษุในพุทธศาสนาคือผู้ประสงค์จะตัดขาดจากกิเลสตัณหาในตัวตน จึงมุ่งความวิเวกในวัดวาอาราม โดยไม่ประสงค์จะทำให้เกิดความเดือดร้อนใดๆ แก่แผ่นดิน บุคคลทั้งสองจึงต้องดำรงอยู่ในสถานะที่ถูกปกป้องคุ้มครอง มิให้ผู้ใดทำร้ายหรือข่มเหงรังแกได้ แต่บัดนี้ อิหม่ามกลับถูกลอบสังหารและพระภิกษุถูกทำร้าย ซึ่งเป็นสิ่งชี้ชัดว่าผู้ลงมือกระทำมิได้ประสงค์ดีต่อสังคม แต่ต้องการจุดชนวนแห่งความแตกแยกขัดแย้งขึ้นในหมู่ประชาชน เป็นการสร้างความเลวร้ายอย่างยิ่งขึ้นในแผ่นดินที่มีผู้คนอยู่ร่วมกันได้ในบรรยากาศแห่งมิตรภาพและสันติภาพ

ทั้งนี้ สำนักจุฬาราชมนตรี ได้เรียกร้องในแถลงการณ์ต่อผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ผู้ก่อการความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ยุติการทำร้ายและสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์และผู้นำศาสนา ได้แก่ พระสงฆ์ อิหม่าม นักพรต นักบวชของทุกศาสนา ในทันที 2.ให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยกันปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ป้องกันมิให้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชีวิตเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้นำศาสนา และศาสนสถานของทุกศาสนา 3.ให้รัฐบาลและเอกชนทุกภาคส่วนเร่งสร้างความเข้าใจต่อประชาชนทุกศาสนาเพื่อให้ตระหนักถึงการรักษาสัมพันธภาพอันดีต่อกันและกันเอาไว้ เพื่อธำรงสันติสุขและความมั่นคงสืบไป ทั้งนี้ เพราะไม่มีศาสนาใดสอนให้ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ แต่เป็นการกระทำของคนบางกลุ่มที่มุ่งสร้างความแตกแยกเพื่อผลประโยชน์เฉพาะตนเท่านั้น 4. ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพเพื่อหาทางออกจากความรุนแรงที่ยืดเยื้อมายาวนานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคประชาสังคมทุกหมู่เหล่าให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ต่อไป

ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค4 ได้เดินทางไปที่วัดรัตนานุภาพ พร้อมกับพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส เพื่อร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ และให้กำลังใจชาวบ้านที่ยังอยู่ในอาการเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจากการตรวจสอบกุฎิพระที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของอุโบสถ หลังที่ 2 และ3 ที่สร้างด้วยไม้ยกพื้นชั้นเดียว พบร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายยิงพรุนทั้ง 2 หลัง พบคราบเลือดเป็นจำนวนมาก พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกเกลื่อนกระจาย โดยมีร่องรอยคนร้ายแฝงตัวบุกมาทางซ้ายมือของกุฎิที่เป็นสวนยางพารา ก่อนจะใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่วัด ขณะที่พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสและพระลูกวัดอีก 2 รูป กำลังนั่งฉันน้ำชา

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองทุกคน ในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่ จ.นราธิวาส หลังคนร้ายบุกกราดยิงในวัดรัตนานุภาพ ทำให้พระภิกษุมรณภาพและได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอประณามการกระทำที่อุกอาจ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง และไล่ล่าคนร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะปกป้องประเทศชาติและประชาชนด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในรัฐบาล และร่วมมือกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินขวานทองของไทย พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเข้มงวดตรวจตราจุดเสี่ยงต่าง ๆ และดูแลเยียวยาผู้เสียชีวิตและญาติพี่น้องอย่างดีที่สุด รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ