สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดการประกวดการแข่งขันวงดนตรีเยาวชนจากสถาบันทั่วประเทศต่างๆ ภายใต้ชื่อ “Stopdrink Music Awards 2019” โครงการประกวดวงดนตรีรณรงค์เพื่อการไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ” โดย อ.มานพ แย้มอุทัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จาก สสส. เป็นประธานเปิดงาน ณ เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
โครงการประกวดวงดนตรีรณรงค์เพื่อการไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ Stopdrink Music Awards 2019 ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้น้องๆ ที่มีหัวใจรักดนตรีได้ส่งคลิปเข้ามาคัดเลือกจากทั่วประเทศ ครั้งนี้มีมากกว่า 70 วง คัดเลือกเข้ารอบ 20 วงเพื่อทำการแข่งขันการประกวดวงดนตรีเยาวชน คุณวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานนโยบายสาธารณะฯ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่า ขอชื่นชมน้องๆ ทุ่มเทพลังและความคิดในการเขียนเพลงรณรงค์ กว่าจะตกผลึกทั้งเนื้อร้องและทำนองออกมาได้ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ “Stopdrink START DREAM หยุดดื่มและก้าวไปสู่ตามฝันของเรากับการเป็นนักดนตรีที่ยอดเยี่ยม” ถือเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับน้องๆ เยาวชนที่รักในการเล่นดนตรี ได้แสดงพลังและความสามารถ สร้างสรรค์ในการออกแบบงานดนตรีออกมาในมิติต่างๆ อย่างยอดเยี่ยมและมีพลังโดยปราศจากแอลกอฮอล์ บทเพลงที่น้องได้นำมาประกวดในกิจกรรม Stopdrink Music Awards 2019 ครั้งนี้ทางผู้จัดจะรวบรวมนำมาเป็นเพลงรณรงค์เพื่อการไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ในโอกาสต่อไป
“น้องแพร” นางสาวเกณิกา ภุวดลรุ่งเรือง หนึ่งนักร้องนำ วง DSRU BAND จากโรงเรียนสาธิตรามคำแหง ผู้ชนะเลิศการประกวดวงดนตรีและนักรณรงค์เพื่อการไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ Stop drink Music Awards 2019 รับ 3 รางวัลในการประกวดครั้งนี้ 1) รางวัลชนะเลิศ 2) รางวัลเพลงรณรงค์ยอดเยี่ยม 3) รางวัลนักร้องยอดเยี่ยม เปิดใจเล่าให้ฟังพร้อมกับรอยยิ้มว่า วงของเราก็ซ้อมกันมาเยอะมาก เราตั้งใจว่าเราจะออกมาแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์ให้กับน้องๆ เพราะในวงของเราก็เป็นวงที่มีน้องๆ ตั้งแต่ม.2- ม.6 ในครั้งนี้เราได้ช่วยกันแต่งเนื้อเพลงรณรงค์ ใช้แนวคิดว่า “ไม่ดื่มเหล้า ชวนกันหันมาดื่มนมดีกว่า” รางวัลจากการประกวดทั้ง 3 ประเภทในครั้งนี้ นำความภาคภูมิใจมาสู่วงของพวกเรา ในขณะเราเป็นนักดนตรีเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสังคมได้ การไปดื่มแอลกอฮอล์มันมีภัยอันตรายกับเราไม่ว่าจะด้านสุขภาพร่างกาย ทางด้านจิดใจ และอาจมีผลทำให้ไปก่อกวนทะเลาะวิวาททำร้ายผู้อื่นได้ เพราะสังคมบ้านเราก็มีเรื่องแบบนี้ให้เห็นเยอะมาก ถึงพวกเราจะเป็นเพียงนักดนตรีเราไม่สามารถจะไปควบคุมอะไรๆ ได้เช่นคุณตำรวจ แต่เราสามารถทำเพลงเพื่อเป็นสื่อในการช่วยรณรงค์ เราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะขอเชิญชวนโดยใช้เสียงเพลง ถ้าคุณสามารถที่จะ ลด ละ เลิกได้ก็ควรที่จะทำค่ะ
นางสาวปานชีวา ชูศิลป์ นักร้องนำวง Taratula Band จากโรงเรียนหอพระ จังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า นำทีมมาจากแดนไกล ใช้เวลาซ้อมนานเกือบเดือน พวกเรากินนอนอยู่ด้วยกันที่โรงเรียนเลยค่ะ จริงๆ แล้วพวกเราก็ทุมเทในเรื่องของดนตรีมาก เป็นวงของโรงเรียนด้วย สำหรับเพลงรณรงค์ให้ไม่ดื่มเหล้าครั้งนี้ เราทำเป็นแนว Musical ละครเพลงอะไรแบบนี้ค่ะ เป็นเรื่องราวของความรักกับวัยรุ่นที่อกหักก็จะต้องดื่มเหล้า พวกเราจึงทำเพลงรณรงค์กับกลุ่มวัยรุ่นว่า อกหักก็อย่าไปดื่มเหล้าให้ไปทำในสิ่งที่มีประโยชน์ดีกว่า หลังจากรับรางวัลรองชนะเลิศครั้งนี้ไปแล้วก็จะกลับไปฝึกเพิ่มเติมอีกเยอะ และจะนำดนตรีที่พวกเรารักไปเป็นส่วนหนึ่งเพื่อนำไปเผยแพร่ชวยในการรณรงค์ต่อไป และอยากฝากบอกกับวัยรุ่นว่าอย่าสียเวลากับการไปดื่มเหล้าเที่ยวเตร่ เอาเวลาไปทำอะไรในสิ่งที่มีประโยชน์ อย่างเช่นเล่นดนตรีแบบพวกเราค่ะ
นางสาวณัฐธิดา จินตเพชร มือกลอง/รางวัลนักดนตรียอดเยี่ยมแห่งวงตะโพนไทย และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 อีกทั้งรับรางวัลเพลงรณรงยอดเยี่ยม รวม 3 รางวัล จากโรงเรียนโนนคร้อวิทยา จังหวัดชัยภูมิ เล่าให้ฟังว่า พวกเรามาในแนวดนตรี เมทัล แบบชาวร๊อก ส่วนเพลงรณรงค์เป็นแนวเรื่องราวชีวิต ที่นำเสนอว่า ถ้าดื่มแล้วจะส่งผลเสียกับตัวเองและครอบครัวอย่างไร การเล่นดนตรีเป็นสิ่งที่พวกเรารัก คิดว่าพวกเราเป็นเด็กบ้านนอกแค่อยากเล่นดนตรี จึงรวมตัวกัน หลังเลิกเรียนพวกเราจะรวมตัวกันซ้อมทุกวัน มาแข่งครั้งนี้ซ้อมกันเกือบหนึ่งเดือน พวกเราเรามีความตั้งใจเราทุมเทมาก พวกเราออกเปิดหมวกหาทุนมาเป็นค่าเดินทาง ค่าที่พักเพื่อจะมาแข่งขันครั้งนี้ คิดว่าต้องการหาประสบการณ์ให้มาก การทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วมันจะไม่เหนื่อยเลย และอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีไม่เคยทำร้ายใคร ครั้งนี้มาคว้า 3 รางวัล พวกเราภูมิใจมากๆค่ะ อยากฝากกับวัยรุ่นไทยว่า เราต้องค้นหาตัวเองอย่ารีๆรอๆ เพราะเมื่อเราเติบโตไป มันอาจจะสายเกินไป ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่าทำให้พ่อ-แม่เสียใจ ขอให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้อยากแต่เพลงรณรงค์สร้างผลงานไปเรื่อยๆ เป็นโอกาสที่จะใช้ดนตรีให้เกิดประโยชน์กับสังคมต่อไป
คุณวิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันดนตรีครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับน้องๆ อีกหลายคนในวงการดนตรี ในการก้าวต่อไปเพื่อตามหาความฝัน หัวใจสำคัญคือการมีชัยชนะก้าวข้ามในข้อจำกัดของตนเอง หลายวงเริ่มแต่งเพลงในแบบฉบับและแนวทางดนตรีของตนเองเป็นครั้งแรก หลายวงเรียนแม้จะเรียนอยู่ในระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย แต่ฝีไม้ลายมือกลับจัดจ้าน ชัดเจน และเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์เกินคนในวัยเดียวกัน ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นทุ่มในการทำใช้เวลาไปกับการฝึกซ้อมดนตรี แทนที่จะไปเสียเวลาอยู่ในวงเหล้า งาน Stopdrink Music Awards ซึ่งริเริ่มและจัดโดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและสสส. ขอเป็นอีกหนึ่งแรงในการสนับสนุนน้องๆ ด้วยการเปิดพื้นที่กิจกรรมสร้างสรรค์ พื้นที่ดนตรี เพื่อก้าวไปสู่ความฝันของน้องๆ แล้วพบกันในปีต่อไปครับ
