“สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” จี้คณะสงฆ์กทม.เป็นต้นแบบ “วัด ประชา รัฐฯ” ติงสำนักพุทธฯ เริ่มแผ่วสนองงานปฏิรูปพุทธ

0
1617

วันที่ 2 ธ.ค.62 ที่วัดหัวลำโพง เขตบางรัก กรุงเทพฯ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ในฐานะประธานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ฝ่ายสาธารณูปการของมส. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข : สร้างสัปปายะสู่วัด ด้วยวิถี 5 ส ของคณะสงฆ์กรุงเทพฯ โดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็น 1 ใน 14 โครงการของมส. ในการดำเนินงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งกำหนดแผนระยะเวลาดำเนินงานถึงปี 2564 จากนั้นจะสรุปผลของการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาและในการดำเนินงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนานั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ถือว่าเป็นฝ่ายเลขานุการของทั้ง 14 โครงการ ซึ่งในช่วงที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลพศ. ทางพศ.ก็มีการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี แต่พอมาช่วงหลังรู้สึกว่าพศ.จะแผ่วไปหน่อย จึงอยากขอให้ทำงานกระชับมากขึ้น ทั้งช่วยกันติดตามงานด้วย เพราะงานนี้เป็นงานที่พศ.จะปฏิเสธไม่ได้

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการวัด ประชา รัฐฯ นี้ ปัจจุบันนอกจาก จ.ปทุมธานี แล้ว มีหลายจังหวัดที่ขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุดพบว่าคณะสงฆ์จ.ลพบุรี มีการดำเนินงานโครงการนี้อย่างจริงจังมาก จนมีตัวเลขวัดที่เข้าร่วมโครงการอยู่ติด 1 ใน 10 ของประเทศ แต่ในส่วนของคณะสงฆ์กรุงเทพฯนั้น พบว่ายังดำเนินการไม่เป็นไปตามเป้าหมายเท่าที่ควร ยังไม่จริงจังเท่าใด อยากให้คณะสงฆ์กรุงเทพฯ เป็นหลัก เป็นต้นแบบในเรื่องนี้ เพราะคณะสงฆ์กรุงเทพฯ มีบุคลากรที่มีศักยภาพ ซึ่งโครงการวัด ประชา รัฐฯนี้ จะช่วยทำให้วัฒนธรรมเก่าๆของชาวพุทธกลับมาได้ เพราะจะทำให้วัดเป็นศูนย์กลางชุมชน ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาวัด และจะทำให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง

พระธรรมรัตนาภรณ์  (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจ.ปทุมธานี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ฝ่ายสาธารณูปการของมส. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นมติมส. ซึ่งทุกวัดต้องปฏิบัติตาม อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ทำให้เกิดผลดีกับทุกวัด ช่วยให้เจ้าอาวาสแต่ละวัดมีระบบคิดในการพัฒนาวัด ไม่ใช่พัฒนาวัดตามความรู้สึก ซึ่งในส่วนของคณะสงฆ์กรุงเทพฯนั้น มองว่าต้องอาศัยผู้ว่าฯ ผอ.สำนักงานเขต ในแต่ละเขต เข้ามาเป็นแกนหลักในการดำเนินงานโครงการด้วย เพราะจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้โครงการนี้ขับเคลื่อนไปได้