เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม คณะสงฆ์ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการยกระดับโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำปี 2561 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ประธานกรรมการอำนวยการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 กล่าวสัมโมทนียกถาว่า รัฐบาลได้ร่วมมือกับมส.และคณะสงฆ์ ดำเนินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 บรรจุอยู่ในแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่า สถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมามีปัญหา คนขาดความรับผิดชอบ ขาดศีลธรรม เกิดความขัดแย้งแตกแยกขึ้น การส่งเสริมให้นำศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติ จะเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุข ปรองดองสมานฉันท์ขึ้นมาได้
สมเด็จพระพุฒาจารย์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯส่วนกลาง และระดับภาค รวมถึงพศ. ขอให้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ โดยยึดหลัก 4 ประการ คือ 1.ทำตามหน้าที่ 2. ไม่ประมาท 3. รู้กว้าง และ 4. จัดการงานดี ในการยกระดับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ให้ครอบคลุมตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงประเทศชาติ หากชาวพุทธรักษาศีล 5 ทั่วประเทศ จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข และเกิดความมั่นคงต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยจากนี้ไปคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการทุกระดับและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอให้รู้จักทำหน้าที่ ไม่เบียดเบียนหน้าที่ หากก้าวก่ายหน้าที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า ล้วงลูกกัน จะทำให้องค์กรเกิดปัญหาได้
พระพรหมเสนาบดี(พิมพ์ ญาณวีโร) เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เจ้าคณะภาค 7 ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 กล่าวว่า การยกระดับโครงการรักษาศีล 5 ประจำปี 2561 นั้นได้บรรจุอยู่ใน 14 โครงการเร่งด่วนในแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งขณะนี้แผนขับเคลื่อนระยะปี 2561-2565 ได้จัดทำเสร็จแล้ว โดยมีแนวทางดำเนินการ ดังนี้ แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ในระดับจังหวัด 1 ชุด รวมทั้งตั้งศูนย์ประสานงานในระดับจังหวัด 1 ศูนย์ พร้อมจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับบุคคล หมู่บ้าน และชุมชนในระดับจังหวัด และส่งข้อมูลสารสนเทศให้สำนักงานโครงการฯและคณะสงฆ์ อีกทั้งอำนวยการติดตามประเมินผลโครงการในระดับจังหวัด ซึ่งให้ดำเนินการ