ชุมชนตำบลบางเตย น้อมนำวิถีพอเพียงหล่อเลี้ยงชีวิตตามแนวพระราชดำริของในหลวง ร.9 สู้สภาวะวิกฤตโควิด-19

0
1299

ขณะที่ทุกประเทศทั่วโลก มีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด -19)  โดยที่รัฐบาลไทยเร่งหามาตรการสกัดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ และยังเร่งหามาตรการสำหรับการให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องวิธีป้องกัน เพื่อการดูแลตัวเอง สำหรับผู้ใช้แรงงานในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็อพยพเดินทางหนีวิกฤตเศรษฐกิจกลับบ้านเกิดของตนเอง แต่ก็ยังมีชาวบ้านชุมชน ตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี โดยพระครูโฆสิตปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดบางเตย ซึ่งเป็นผู้นำ ร่วมกับ รพสต.บางเตย และแกนนำชุมชนคนเลิกเหล้าตลอดชีวิต รณรงค์สื่อสารให้ความรู้เพื่อป้องกันและทำความเข้าใจในการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ การสวดมนต์ ละเว้นเหล้า-บุหรี่ ลดเสี่ยงในสภาวะวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้

พระครูโฆสิตปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดบางเตย กล่าวว่า การกระจายข่าวสารผ่านหอกระจายเสียงของทางวัด จากเดิมที่ใช้สื่อสารเรื่องธรรมะ สวดมนต์ให้ชาวบ้านในชุมชนรู้สึกสงบแล้ว ขณะนี้จะต้องใช้เพื่อนำข้อมูลข่าวสารจากทางสาธารณสุขเข้ามาร่วมสื่อสารด้วย เพื่อสร้างการรับรู้ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมของชาวบ้านให้ตื่นตัว เป็นการป้องกัน และให้ช่วยกันสังเกตคนและเตือนในชุมชนให้อยู่บ้านเป็นหลัก ไม่ออกไปข้างนอกโดยไม่จำเป็น ที่สำคัญคือ “กินร้อน ช้อนฉัน ห่างกัน 2 เมตร” งดงานรื่นเริง การรวมกลุ่มสังสรรค์ รวมถึงดูแลเรื่องจิตใจของชาวบ้านทุกวัน นอกจากการใช้เสียงตามสายเพื่อแจ้งข่าวสารแล้วยังช่วยบอกกล่าวเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวล ซึ่งในการกระจายข่าวสารจะสามารถส่งข่าวได้ระยะไกลถึง 6 หมู่บ้าน และได้ยินไปไกลรวมถึงในละแวกตำบลอื่นๆ อีกด้วย

ด้านคุณชัยวัฒน์ ภูทอง ผอ.รพ.สต.บางเตย เปิดเผยว่า มีการประสานความร่วมมือกับท่านพระครูฯ โดยใช้ช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวสาร การป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 ที่หน่วยงานภาครัฐ และภาคีภาคประชาสังคม เครือข่ายงดเหล้าภาคตะวันออกได้ร่วมกันรณรงค์อยู่ในขณะนี้ คือประเด็นการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ อันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ลดภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ง่ายขึ้น

คุณแม่สมทรง หัสดิน แกนนำคนเลิกเหล้าตลอดชีวิตบ้านหมู่ 3 กล่าวว่า เป็นการทำงานจากฐานราก คือ ลงติดตามถามเยี่ยมตามบ้าน สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการป้องกัน พร้อมแนะให้น้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ รวมถึงการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นไม่ฟุ่มเฟือยในขณะที่ต้องอยู่บ้าน ตามแนวทางของภาครัฐที่ได้รณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งผู้คนควรจะได้ตระหนัก ตื่นรู้ และเข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้นับว่าเป็นการได้ลงสำรวจซ้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับชาวบ้านในชุมชนอีกทางด้วย

ในขณะที่ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ที่ได้น้อมนำวิถีความเป็นอยู่ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในวิถีชีวิต โดย พ่อสมบุญ-แม่สมร สมศรี และแม่อิ่ม ยิ่งยง เล่าว่า ได้น้อมนำสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่9 ทรงสอนให้รู้จักประมาณตนเอง ใช้ชีวิตพออยู่ พอกิน ในบ่อมีปลานิล ในนาก็มีข้าว เลี้ยงไก่เก็บไข่ได้ในเล้า ในสวนมีกล้วย มีไม้ผลให้กินตลอดปี การที่เรารู้จักพึ่งพาตนเองตามแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ก็สามารถหาเลี้ยงชีพได้โดยไม่ลำบากแล้ว

อย่างไรก็ตาม วิกฤตภัยแล้ง ปัญหาน้ำกร่อยน้ำเค็ม และปัญหาน้ำจืดที่ไม่เพียงพอ อาจจะเป็นปัญหาของคนในชุมชนบางเตยเสียมากกว่า เพราะยังต้องขายของในสวนเพื่อนำเงินมาซื้อน้ำจืดเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังดีที่มีสระน้ำจืดที่รองรับน้ำฝนตามฤดูกาลเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นได้ แต่ในสถานการณ์โรคระบาดที่ยังไม่รู้จุดจบของไวรัสร้าย โควิด-19 ชุมชนคงต้องลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันก่อน ส่วนภาครัฐ ภาคประชาสังคมต้องร่วมมือประสานพลังในการช่วยเหลือทุกรูปแบบ เพื่อจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้