บ่ายวันนี้ (22 มกราคม 2562) หลักสูตรสันติศึกษา มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) นำโดยพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส รศ.ดร., ผู้อำนวยการหลักสูตรฯ กับสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช ผู้อำนวยการสถาบันฯ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี พระนักสันติภาพที่อุทิศชีวิตทำงานรับใช้เพื่อนมนุษย์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ในพิธีดังกล่าว พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระสงฆ์ในพื้นที่ภาคใต้ และจังหวัดต่างๆ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนจากจังหวัดต่างๆ มาร่วมพิธีจำนวนมาก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีอาการโศกเศร้า และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้ นอกจากนี้ ได้มีพี่น้องมุสลิมในพื้นที่มาร่วมงานครั้งนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน
ผอ.หลักสูตรสันติศึกษา เผยความรู้สึกเชิงวิชาการต่อกรณีนี้ว่า ฆาตกรรมสันติภาพ!!!
การที่ผู้ก่อการร้ายสังหารพระครูประโชติรัตนาภิรักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ และอดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดีอย่างโหดเหี้ยมโดยใช้อาวุธสงครามกราดยิงสังหารนั้น นับเป็นการ “ฆาตกรรมสันติภาพ” ให้ดิ้นตายลงไปพร้อมๆ กับร่างของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ที่ทรุดลงไปกองกับผืนดินหลังจากการดับลงของเสียงปืน
พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เป็นสัญลักษณ์ของนกพิราบ ที่โบยบินนำเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพไปโปรยปรายและบ่มเพาะจิตใจของชุมชนที่เป็นพี่น้องชาวมุสลิม และชาวพุทธในสามจังหวัดชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่สะท้อนพื้นฐานของท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ที่มุ่งมั่นทำงานด้านนี้ คือ การจบหลักสูตร 4 ส ใต้ 2 หรือหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข ซึ่งสถาบันพระปกเกล้า โดยพลเอกเอกชัย ศรีวิลาส ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล ได้จัดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมสมานและทำงานร่วมกันของพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม
การสังหารพระนักสันติภาพวัย 49 ปี ผู้ได้รับการฟูมฟักและกล่อมเกลาวิธีคิดและทักษะการทำงานด้านสันติภาพ ในช่วงวัยที่กำลังมุ่งมั่นทำงานด้านสันติภาพอย่างเป็นจริงเป็นจัง ย่อมเป็นการสังหารนกพิราบให้จบชีวิตลงอย่างเงียบงัน และนั่นคือการฆาตกรรมสันติภาพที่กำลังเบ่งบานและเติบโตให้เหี่ยวเฉาและมอดม้วยลงไปในเวลาเดียวกัน นับจากนี้ชุมชนในพื้นที่ชายแดนใต้จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสร้อยยิ้ม และน้ำเสียงแห่งการเชื่อมสมานใจระหว่างพี่น้องไทยพุทธกับมุสลิมจากท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อีกแล้ว ร่างที่ไร้จิตวิญญาณอาบเลือดนอนแน่นิ่งอยู่ในโลงคือสิ่งสะท้อนของสภาวะแห่งสันติภาพที่กำลังเดินทางอยู่อย่างต่อเนื่องต้องพลอยหยุดนิ่ง ลมหายใจของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ที่หยุดนิ่ง คือ ลมหายใจแห่งสันติภาพที่หยุดนิ่ง
การฆาตกรรมสันติภาพในครั้งนี้ มิได้ทำให้เกิดความโศกเศร้าแก่พี่น้องไทยพุทธและมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เท่านั้น หากแต่โลกนี้ได้สูญเสียพระนักสันติภาพที่อุทิศชีวิตทำงานรับใช้เพื่อนมนุษย์ เฉกเช่นเดียวกับที่โลกเคยสูญเสียมหาตมะ คานธี และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ จากอาวุธปืนที่ผู้ก่อการกระหน่ำยิงด้วยจิตใจที่คับแคบและมืดบอด
อย่างไรก็ตาม ท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ได้ก่อร้างสร้างอนุสาวรีย์แห่งสันติภาพให้โลกนี้ได้จดจำ แม้จะเป็นอนุสาวรีย์ที่เปื้อนและฉาบทาเลือดผ่านกระบอกปืนที่ผู้ก่อการร้ายหยิบยื่นให้ แต่อนุสาวรีย์แห่งนี้ จะทำหน้าที่คอยเตือนใจมิให้คนทำงานด้านสันติภาพสิ้นหวังและหมดแรงบันดาลใจ
นักสันติภาพตายหนึ่ง จะทำให้นักสันติภาพเป็นหมื่นแสนตื่นขึ้นมาทำงานรับใช้มนุษย์และสังคม ทั้งในระดับชุมชนไปจนถึงระดับประเทศ เลือดที่อาบจีวรและผืนดินจะทำหน้าที่สูบฉีดให้นักสันติภาพอุทิศชีวิตเลือดเนื้อมุ่งมั่นทำงานรับใช้เพื่อนมนุษย์โดยมีพระครูประโชติรัตนาภิรักษ์เป็นแบบอย่างที่ทรงพลังต่อไป ดังคำพูดของท่านที่ว่า “ไม่ตาย!!! ไม่ขอเลิกทำความดี”
ด้วยจิตคารวะในสันติธรรม พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส หลักสูตรสันติศึกษา มหาจุฬาฯ www.ps.mcu.ac.th
