คณะสงฆ์ทำ 4 แผนยุทธศาสตร์เดินหน้าโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ผุดเครือข่ายจิตอาสาในการพัฒนาวัดและชุมชน

0
922

พระเทพรัตนสุธี(สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี  ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (สร้างสัปปายะด้วยวิถี 5 ส) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการโครงการฯ ซึ่งที่ประชุมได้หารือถึงร่างแผนยุทธศาสตร์โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข พ.ศ.2561- 2565 โดยในร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะเน้น 4 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมสนับสนุนให้มีกลไกในการขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาพื้นที่ทางกายภาพและการเรียนรู้เชิงพุทธในรูปแบบที่หลากหลาย ยุทธศาสตร์ที่  3 ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรมของวัดและชุมชน และยุทธศาสตร์ที่ 4 เสริมสร้างเครือข่ายจิตอาสาในการพัฒนาวัดและชุมชน ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นว่า ควรเน้นดำเนินการในยุทธศาสตร์ที่ 1 ก่อนหากดำเนินการพร้อมกันทั้ง 4 ยุทธศาสตร์จะทำให้คณะสงฆ์ต้องทำงานที่หนักมาก ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นว่า ให้คงร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวไว้ทั้งหมด แต่ให้วัดผลเพียงยุทธศาสตร์แรกในระยะปี 2562 ก่อน จากนั้นในปีต่อไปจัดประเมินผลในยุทธศาสตร์ถัดไป

พระเทพรัตนสุธี กล่าวต่อไปว่า สำหรับในยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมสนับสนุน ให้มีกลไกในการขับเคลื่อนโครงการฯ ซึ่งจะเน้นการยกระดับการบริหารจัดการภายในคณะสงฆ์และภาคีที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการประสานงาน การดำเนินการ รูปแบบการทำงาน โดยขอให้เจ้าคณะปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.) ดำเนินการสร้างความเข้าใจต่อเจ้าอาวาสทุกวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ทราบว่า ในหลายพื้นที่ยังไม่ทราบรายละเอียดและแนวทางการทำงานของโครงการดังกล่าว จึงอยากให้พศ.เร่งทำความเข้าใจในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์

“ในปี 2561ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 1,500 วัด และในปี 2562 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5,000 วัด ในยุทธศาสตร์แรก คือ การสร้างความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเห็นความสำคัญของโครงการ รวมทั้งสร้างวัดต้นแบบเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่วัดที่จะเข้าร่วมโครงการในอนาคต หลังจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะนำเสนอร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว ต่อพระพรหมมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการ ของมหาเถรสมาคม(มส.) เพื่อเสนอต่อที่ประชุมมส.ได้รับทราบต่อไป” ประธานอนุกรรมการฯ กล่าว