กรมการศาสนา สืบทอดการพระสวดมหาชาติคำหลวง-สวดโอ้เอ้วิหารราย มรดกทางวัฒนธรรม

0
2553

ช่วงเข้าพรรษา พระราชสำนักมีธรรมเนียมอย่างหนึ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ “การสวดพระมหาชาติคำหลวง

การสวดพระมหาชาติคำหลวงนั้น มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้ปฏิบัติสืบต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ด้วย ปัจจุบันการสวดพระมหาชาติคำหลวง จะสวดกันเฉพาะช่วงเข้าพรรษา โดยกำหนดการสวดพระมหาชาติคำหลวงที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวังกำหนดไว้ ดังนี้

ช่วงต้นพรรษา ๓ วัน ตั้งแต่วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ ถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ (หากเป็นปีที่มีอธิกมาส จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ หลังถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ หลัง)ช่วงกลางพรรษา ๓ วัน ตั้งแต่วันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๙ ถึงวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ และช่วงปลายพรรษา ๓ วัน ตั้งแต่วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันแรม ๑ เดือน ๑๑

ปัจจุบันผู้ที่ทำหน้าที่สวดพระมหาชาติคำหลวง คือ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ผู้สวดพระมหาชาติคำหลวงจะต้องแต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาว ขึ้นนั่งเตียงสวดที่ทางสำนักพระราชวังจัดเตรียมไว้ ณ ริมผนังข้างเหนือใกล้ประตูพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีเครื่องนมัสการกระบะมุก จุดธูปเทียนตั้งที่หน้าเตียงสวดด้วย

ผู้สวดพระมหาชาติ ๑ สำรับ มี ๔ คน สวดพระมหาชาติคำหลวงด้วยทำนองหลวง ซึ่งมีการจดบันทึกถ่ายทอดและฝึกสอนต่อๆ กันมา ปัจจุบันคงสวดพระมหาชาติคำหลวงเพียงกัณฑ์เดียว คือ กัณฑ์มหาพน  ซึ่งมีต้นฉบับสมุดไทยบันทึกเครื่องหมายเสียงสวดทำนองหลวงไว้เหลืออยู่เพียงฉบับเดียว การสวดในวันปกติที่ไม่มีพระราชพิธีจะสวดเวลาเช้า ๑ จบ และเวลาบ่าย ๑ จบ แต่ละจบ จะแบ่งออกเป็น ๘ ช่วง เมื่อจบแต่ละช่วงจะพัก ประมาณ ๕ – ๑๐ นาที

ใน พ.ศ. ๒๕๖๒ นี้ มีการสวดพระมหาชาติคำหลวง ดังนี้ ช่วงต้นพรรษา ระหว่างวันที่ ๑๕  – ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ช่วงกลางพรรษา ระหว่าง วันที่ ๒๘ – ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ และช่วงปลายพรรษา ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ ตั้งแต่เช้า ๙ นาฬิกา เป็นต้นไป

สำหรับการสวดโอ้เอ้วิหารรายนั้น มีการสืบทอดมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เริ่มในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงโปรดเกล้าฯให้แต่งมหาชาติคำหลวง เพื่อใช้สวดในเทศกาลเข้าพรรษา ณ วิหารใหญ่ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในการสวดจะคัดเลือกนักสวดที่มีความสามารถในการสวด เข้าไปสวดเฉพาะพระพักตร์ สำหรับผู้ที่ไม่มีความสันทัดในการสวด ก็จะให้สวดตามศาลาที่รายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีสรรเพชญ์ จึงเรียกผู้สวดที่ฝึกสวดอยู่ว่า สวดโอ้เอ้ศาลาราย หรือสวดโอ้เอ้วิหารราย

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ตั้งโรงเรียนสอนหนังสือและให้นักเรียนนำหนังสือที่เรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาเป็นบทสวด ณ ศาลารายรอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จำนวน ๑๒ ศาลา โดยให้สวดตามความถนัด จึงได้มีการนำกาพย์พระไชยสุริยา จากหนังสือมูลบทบรรพกิจที่เป็นตำราเรียนมาใช้เป็นบทสวด ซึ่งแบ่งเป็น ๓ ทำนอง คือ ทำนองกาพย์ยานี ทำนองกาพย์ฉบัง และทำนองกาพย์สุรางคนางค์ ทำให้การฝึกสวดมหาชาติคำหลวงเปลี่ยนมาการสวดกาพย์พระไชยสุริยา ซึ่งสำนักพระราชวังได้แจ้งให้กรมการศาสนาดำเนินการหาผู้ฝึกสอนการสวดคำฉันท์ตามหนังสือมูลบทบรรพกิจและให้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดหานักเรียนมาเข้ารับการฝึกหัดสวด และนำนักเรียนเข้าไปสวดโอ้เอ้วิหารราย พร้อมกับนักสวดพระมหาชาติคำหลวงของกรมการศาสนา นับตั้งแต่เทศกาลเข้าพรรษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นต้นมา จวบจนปัจจุบัน

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการสวดโอ้เอ้วิหารราย ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมทางวัฒนธรรมของไทยที่มีมาอย่างยาวนานควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยได้ดำเนินงานโครงการฝึกหัดสวดโอ้เอ้วิหารราย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นต้นมา

มีการบูรณาการและประสานกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อฝึกหัดและจัดหานักเรียนเข้าไปสวดโอ้เอ้วิหารราย ณ ศาลารายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุก ๆ ปี อันเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งปัจจุบันมีสถานศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นทุกปี

ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ กรมการศาสนา ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการสวดโอ้เอ้วิหารราย ดังนี้ ๑.จัดอบรมโครงการฝึกสวดโอ้เอ้วิหารราย ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๕ มกราคม ๒๕๖๒ ณ วัดศรีสุดาราม เขตบางกอกน้อย ๒.จัดประกวดสวดโอ้เอ้วิหารราย ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา เพื่อเข้ารับโล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แข่งขันรอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๒ และรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ๓.กำหนดโรงเรียนเพื่อเข้าร่วมสวดโอ้เอ้วิหารราย ณ ศาลารายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในเทศกาลเข้าพรรษา ๔.จัดนักเรียนเพื่อเข้าสวดในเทศกาลเข้าพรรษา พุทธศักราช ๒๕๖๒ ณ ศาลารายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ๓ ช่วง ๆ ละ ๓ วัน ๆ ละ ๑๒ โรงเรียน คือ เข้าพรรษา (ตรงกับวันที่ ๑๒ – ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๒) กลางพรรษา (ตรงกับวันที่ ๒๘ – ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒) และออกพรรษา (ตรงกับวันที่ ๑๒ – ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๒)

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการสวดโอ้เอ้วิหารรายและได้มีส่วนร่วมในการสืบสานธรรมเนียมการสวดโอ้เอ้วิหารราย ให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ตลอดจนช่วยให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมไทยสืบไป

เผยแพร่โดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS