“แอลกอฮอล์วอช” จี้ตำรวจปรับหนักแก๊งดื่มเหล้าบนรถสายตรวจ มีตำรวจขับให้ในขบวนแห่งานบวช ชี้ความผิดสำเร็จไม่ใช่แค่ตักเตือน

0
340

จากกรณีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เต้นรำอยู่บนท้ายรถกระบะ ซึ่งเป็นรถสายตรวจสถานีตำรวจภูธรแม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์  โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในขบวนแห่งานบวช มี ส.ต.ท.ภาณุพงศ์ ผาดี ผบ.หมู่ ป.ปฏิบัติหน้าที่จราจร สภ.แม่เปิน และ ส.ต.ต.วัฒนา ปัญญาแดง ผบ.หมู่ ป.สภ.แม่เปิน เป็นพลขับรถยนต์นำขบวน  จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งในแง่ความผิดตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  การใช้ทรัพย์สินส่วนราชการมามีส่วนให้เกิดการกระทำความผิด รวมไปถึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายคำรณ  ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า แม้เรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว  ทางเครือข่ายฯเห็นว่าเรื่องนี้ถือเป็นการเย้ยหยันการบังคับใช้กฎหมายอย่างมาก ภาพคนดื่ม เมาสุรากันในท้ายกระบะรถสายตรวจของตำรวจ ซึ่งคือผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย มันน่าอนาถใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เป็นความผิดซึ่งหน้าด้วย ในภาพมีคลิปบุคคลที่ทำความผิดชัดเจน ดังนั้นทุกคนที่ดื่มสุราบนรถ ขณะอยู่บนทาง ไม่ว่ารถคันนั้นจะวิ่งหรือจอด เป็นความผิดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. 2558 ออกตามความในพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551มาตรา 4 มาตรา 27  มีโทษจำคุกไม่เกิน 6เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

“บุคคลที่อยู่ในภาพต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด แต่ที่ปรากฏในข่าวว่ามีหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก สภ. แม่เปิน ระบุว่าได้มีการว่ากล่าวตักเตือนเพียงเท่านั้น  ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้า เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วย  จึงอยากให้กฎหมายศักดิ์สิทธิไม่ใช่ใครจะละเมิดอะไรก็ได้  ยิ่งผู้บังคับใช้กฎหมายอยู่ในเหตุการณ์ซึ่งหน้าด้วย สะท้อนว่าผู้กระทำมิได้ยำเกรงเจ้าพนักงานแต่อย่างใด และเราจะติดตามต่อไปว่ากรณีนี้จะมีการบังคับใช้กฎหมายแค่ไหน  และผลการตั้งกรรมการสอบตำรวจในเหตุการณ์จะจบแบบไหน  หากพบว่ามีการช่วยเหลือ หรือหย่อนยานเราจะยื่นเรื่องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติแน่นอน” นายคำรณ กล่าว

ด้านเภสัชกรสงกรานต์  ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ภาคีเครือข่ายพยายามรณรงค์งานบวช  งานประเพณีที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากการไม่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายแล้ว ยังถือเป็นการให้เกียรติเจ้าของงาน เจ้าภาพด้วย เพราะทั้งหมดทั้งปวงที่ท่านจัดนี้คืองานบุญ เหตุใดจึงจะเอาความสนุกสนานรื่นเริงเฉลิมฉลองกันเกินขอบเขต ขาดสติเพราะน้ำเมา มาทำลายเจตนารมณ์ที่ดีของผู้จัดงาน ปัจจุบันยังพบงานบวชงานประเพณีที่มีการกินดื่มน้ำเมากันไม่น้อย  โดยเฉพาะงานบวชที่เริ่มตั้งแต่ในขบวนแห่ยันเข้าวัด หลายแห่งแอบเข้าไปกินในวัด ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมายชัดเจน ในเรื่องความผิดตามกฎหมายนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ เริ่มตั้งแต่แอบไปซื้อขายกันนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด การกินดื่มบนรถขณะอยู่บนทาง การเข้าไปกินดื่มในวัด ซึ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้น ส่วนในเรื่องความเหมาะสม กาลเทศะ ความถูกต้องแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ไม่นับรวมที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ต่อเนื่องเรื่องการเมาแล้วทะเลาะกันยิงกัน ฆ่ากันในงานบุญประเพณีที่เปื้อนน้ำเมาแบบนี้  จึงอยากเชิญชวนเจ้าของงาน เจ้าภาพงานบวช งานบุญประเพณีต่างร่วมกันจัดงานที่ปลอดจากน้ำเมากันเถอะ ได้บุญกว่า ไม่เดือดร้อนใคร พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่เดือดร้อน ประหยัดเงินด้วย และที่สำคัญในช่วงเวลานี้ อย่าปล่อยให้งานบวช กลายเป็นแหล่งสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19  ซ้ำเติมความทุกข์ยากลำบากของผู้คน