เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ที่เรือนจำกลางนครปฐม จังหวัดนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้แสดงธรรมโปรดผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง โอกาสนี้ได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ผู้ต้องขังด้วย
“หลวงพี่น้ำฝน” ให้เมตตาแสดงธรรมว่า ขอเจริญพรโยมท่าน พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม และคณะเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครปฐมทุกท่าน เจริญพรทุกท่านที่นั่งอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ พูดง่ายๆ ว่าท่านจะได้คืนสู่อิสรภาพโดยการที่ได้รับอภัยโทษหรือว่าถ้าทั่วๆ ไปก็คือว่าเรานั้นเข้าหลัก เข้าเกณฑ์การอภัยโทษแล้ว สำคัญที่สุดกว่าเราจะเข้าเกณฑ์ในการอภัยโทษได้นั้น มันไม่ใช่ง่ายๆ เมื่อสักครู่ได้ฟังท่านผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐมได้ให้ความรู้อาตมภาพ ถึงได้รู้ว่าจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการ ถึงจะได้รับการพิจารณาอภัยโทษได้และผู้ที่เข้าเกณฑ์ก็จะต้องติดหนึ่งในสาม อาตมาเวลาที่จะให้ความรู้ใครจะต้องศึกษาก่อนแล้วก็ถามก่อน แล้วอย่างที่บอกนะ พวกเราอยู่ในนี้แหล่ะศีล 5 ครบหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ออกไปอาตมาภาพก็บอกกับท่านผู้บัญชาการว่าพวกที่ออกไปเนี่ยหายหมดแน่นอน ดูถูกไว้ก่อนนะที่นั่งอยู่ในนี้ 122 คน อาตมภาพดูถูกไว้ก่อนเลย ออกไปก็ทำได้ยาก แต่อยู่ในนี้ทำไมพวกเราทำได้ ตรงนี้นะครับต้องพึ่งสังวรไว้เลยอย่าให้หลวงพี่น้ำฝนดูถูกได้ว่าอยู่ในนี้ทำได้ศีล 5 ครบ แต่อยู่ข้างนอกทั้ง 122 คนที่ออกไปนี่เดี๋ยวหายหมดศีล 5 ไม่ว่าจะเป็นข้อหนึ่งห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต, ข้อสองห้ามลักขโมย, ข้อสามห้ามประพฤติผิดในกาม, ข้อสี่ห้ามพูดปด, ข้อห้าห้ามดื่มสุราเมรัยสิ่งเสพติดทั้งปวง, ห้าข้อนี้หลวงพี่น้ำฝน ค.ว.ย.ห. คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ภายใต้เหตุผลหมดแล้ว อยู่ในนี้พวกเราหน้าตาผ่องใส หน้าตาก็พูดภาษาชาวบ้านก็คือเป็นผู้เป็นคน อยู่ข้างนอกถ้าเราไปทำชั่วทำเลวก่อคดีผิดศีลทั้งห้าข้อ ไม่ว่าข้อไหนก็อาตมภาพมีตัวอย่าง เมื่อก่อนพระรูปนี้ไม่ได้อภัยโทษ ติดเยอะสุดสามปีกว่า จะติดซ้ำซากติดมาตลอดตั้งแต่ปี 2538 แต่ไม่ติดที่ถึงขนาด 20-30 ปี ไม่ใช่ แค่ติดเพราะเสพยาเสพติดและมาเจออาตมภาพมาอยู่ตอนแรกมาตัวผอมเลย สภาพดูไม่ได้เลย แต่พอมาบวชเป็นพระให้ฉันเต็มที่ฉันอะไรฉันไปเลย ดูตัวสิครับสวดมนต์ได้ สวดธรรมจักรได้ ดูตัวอย่างไว้ครับ อันนี้ขอบอกไว้ ไม่มีการกลับเข้ามาแล้วไม่มีจริงๆ แต่ถ้าเข้ามาในฐานะเป็นวิทยากรให้ความรู้และให้การอบรมให้ความรู้ประสบการณ์ที่ดี คือถ้าออกไปแล้วต้องทำให้ได้ อย่างพระรูปนี้อยู่มาเนี่ยทำครบหมดแล้วครับ ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผ่านการอบรมบ่มนิสัยและก็ขัดเกลาในนามคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม ในวัดไผ่ล้อมก็มีสายยานแบบพวกท่านนี่ กลับตัวกลับใจไปขอบวชตอนนี้ก็มาสองที่ได้ออกไป พอพ้นออกไปแล้วก็ไปอยู่วัดและก็บวชเณรไม่มีที่ไป พ่อแม่ตายหมดแล้วไม่มีใครแล้วก็ให้แง่คิดว่าไปอยู่วัดอยู่ได้สบาย บ้านก็ไม่ต้องเช่าข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ปรึกษาหารือไม่ต้องเสียสตางค์ มีอาหารฉันจะครบหมดทุกสิ่งทุกอย่าง นี่คือแง่คิดในการที่พวกเราจะออกไปให้หลวงพี่น้ำฝนดูผิดก็แล้วกัน แต่หลวงพี่น้ำฝนขอดูถูกพวกเราทั้ง 122 คน ออกไปความบริสุทธิ์มันจะค่อยๆ หายไป หายไป เพราะฉะนั้นเก็บคำดูถูกไว้เป็นแรงบันดาลใจให้หลวงพี่น้ำฝนดูผิดให้ได้ แล้วพวกเราก็อาตมภาพยอมผิดว่าดูพวกท่านผิดไปที่สำคัญที่สุด แล้วก็จำไว้หลักในการดำเนินชีวิตพวกเราถือว่าเป็นคนพิเศษ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงอภัยโทษ คือพวกเราเนี่ยพูดง่ายๆ ว่าอยู่ในนี้ทำตัวดีความประพฤติเหมาะสมดีที่สุดแล้ว พระองค์ท่านถึงได้มีการอภัยโทษในวาระต่างๆ และนี่คือหลักที่ๆ พวกเรานั้นถือว่าได้รับพระมหากรุณาธิคุณและไม่มีใครที่จะอภัยโทษเราได้ นอกจากพระองค์ท่านเท่านั้นและมันจะต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนอย่างที่บอกผ่าน การคัดกรองผ่าน การตรวจสอบดีแล้วถึงจะได้อภัยโทษ เพราะฉะนั้นขอให้พวกเรารับปากกับอาตมภาพได้ไหมครับว่า มีแค่ศีล 5 รักษาให้ได้ค่ะ ไม่มีที่ไปก็อย่าไปทำชั่วทำเลว มาอยู่ที่วัดก็ได้นะแต่อย่าไปทำชั่วทำเลวประพฤติผิดจะต้องไม่เข้ามาอยู่ในนี้อีกนะสัญญาได้ไหมครับ
เพราะพลังเสียงที่หนักแน่นทั้งหมดจงเป็นผล พูดได้หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เราพูด 1 วินาทีแต่ว่าการปฏิบัติมันปฏิบัติไปทั้งชีวิต ถ้าตราบใดวันใดท่านกลับไปทำสิ่งไม่ดี ไปประพฤติสิ่งไม่ดีทำเลวทรามพวกท่านก็ต้องเข้ามาอยู่อย่างนี้แหละ ถึงได้บอกว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า คนนอกอยากเข้าเพราะหลงระเริงอิสระแล้วมันหลงระเริงก็ไปทำผิดทำชั่ว แต่คนในขัดเกลาจนดีแล้วก่อนที่จะออกไปสู่โลกภายนอก เพราะฉะนั้นท่านเอาวิชาความรู้ที่เรามาอยู่ในเรือนจำกลางนครปฐมนั้นกลับไปใช้ในชีวิตอย่างแท้จริง เรือนจำกลางนครปฐมสอนให้เราเป็นคนดี ประพฤติดี ปฏิบัติดีก็เปรียบเสมือนท่านผู้คุมทั้งหลายเปรียบเสมือนครูอาจารย์ของเรา อย่าให้เสียชื่อเสียงครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนเรา ทุกวันนี้หลวงพี่เข้าทุกแดน และก็เข้ามาช่วยเพราะว่าอะไร เพราะว่าเห็นพวกเราเป็นคนดี อาจจะผิดพลาดพลั้งไปเพราะฉะนั้นกลับตัวกลับใจในการดำเนินชีวิต เมื่อกี้เข้ามาก็เห็นญาติพี่น้องมารวม มารอรับที่พี่น้อง ญาติพี่น้องของเรากลับไปสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ หลวงพี่น้ำฝนไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีแล้วครับครูบาอาจารย์ก็ไม่มีแล้วหมดแล้วนับประสาอะไรเดี๋ยวเราก็จะไปก็คือตายอีกเช่นกัน แต่ขอตายด้วยความดีอย่างเช่นแบบที่มาให้แง่คิดหลักการดำเนินชีวิต จำไว้เลยครับบุญคุณต้องทดแทน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีบุญคุณอันล้นพ้นเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเลย ขอให้พวกเราทั้งหลายแสดงความกตัญญูต่อพระองค์ท่านก็คือเป็นคนดีละเว้นความชั่ว ท่านขอพวกเราแค่นี้จริงๆ ไม่อยากให้กลับมาอยู่นี่ ไปถามทุกคนๆ ว่าอยากให้พวกท่านกลับเข้ามาอยู่ในนี้หรือครับ ไม่มีใครหรอกครับ และอยากจะให้เจ้าหน้าที่ไม่มีงานทำไปเลยก็คือไม่มีนักโทษแต่บอกไว้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนมีทั้งดี มีทั้งชั่วปะปนกันไป คนชั่วทำเลวทราม มันก็จะกลับไปสู่ความหายนะก็คือเข้าสู่เรือนจำ คนดีไม่สามารถจะกลับเข้ามาอยู่ในเรือนจำได้นอกจากคนชั่วคนทำเลวจะต้องกลับมาอยู่ในเรือนจำ มาขัดเกลานิสัยตัวเองนี่คือสิ่งที่สำคัญ ที่อยากจะบอกพวกท่านไว้ถือว่าพวกเราเป็นผู้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ขอให้พวกท่านทั้งหลายรำลึกนึกถึงพระคุณอันประเสริฐแห่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าท่านอภัยโทษให้กับพวกเราทั้งหลายได้กลับไปสู่อิสรภาพ ไม่ต้องมาอยู่ในสถานกักกันอยู่ในเรือนจำและขอให้แง่คิดกับพวกเราเท่านี้
ขอให้ท่านทั้งหลาย นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเมื่อท่านก้าวออกสู่ประตูได้รับอิสรภาพ ไม่ต้องมีการกักกันแล้วก็ขอให้ท่านนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยความกตัญญูต่อท่าน เพราะท่านไม่ได้มาหวังอะไรกับพวกเราก็ขอให้ 122 คนนี้จงดำเนินชีวิตด้วยความดีมีศีลธรรมประจำใจอยู่ตลอดไป เมื่อท่านทำได้แล้วขอให้มีความเจริญรุ่งเรือง จงบังเกิดแก่ท่านทั้งหลายมีความสุขทั้งครอบครัว ญาติพี่น้องมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ถ้าท่านทำได้อาตมาภาพก็ขอให้ท่านได้รับพรนี้ พรใดที่ประเสริฐ พรใดที่ล้ำเลิศขอจงบังเกิดแก่ท่านทั้งหลายให้มีความสุข มีความเจริญ ในการดำเนินชีวิตต่อไป ทั่วกันทุกท่านเทอญ ขอเจริญพร
ด้านพ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม กล่าวว่า เราได้รับความเมตตาจากหลวงพี่น้ำฝนเข้ามาให้เมตตาแก่พวกเรา นับว่าเป็นโอกาสและเป็นบุญอย่างยิ่งสำหรับพวกเรา อย่างที่หลวงพี่น้ำฝนท่านให้โอวาทแก่พวกเราและใครที่ยังมองหาอนาคต มองหาการงานทำไม่ได้ให้บอกเจ้าหน้าที่เราในวันนี้ก่อนที่จะกลับออกไป หลวงพี่น้ำฝนยินดีต้อนรับที่วัดไผ่ล้อม ยินดีต้อนรับเราไว้ดูแลไปฝึกฝนฝึกอาชีพให้เราเป็นคนดีขึ้นมา และเราจะได้มีอาชีพสร้างตัวเองเลี้ยงตัวเองได้
*****************************************************************
