สุดสลด! สาวสามพรานท้อง 7 เดือนเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 “หลวงพี่น้ำฝน” เมตตาอนุเคราะห์สวดเผาฟรี

0
306

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 มีเพื่อนๆ ของหญิงสาววัย 21 ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ขณะตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน จำนวน 6 คน ได้มารอรับศพ ณ ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ด้วยความโศกเศร้า  เมื่อรถโรงพยาบาลนครปฐม นำร่างไร้วิญญาณ ของน้องเก๋ (นามสมมุติ) วัย 21 ปี มาถึงซึ่งนับเป็นศพที่ 29 และ 30 ที่ทางวัดไผ่ล้อมได้อนุเคราะห์ทำการฌาปนกิจ โดยมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์  หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธาน

ทั้งนี้วัดไผ่ล้อม ถือเป็นวัดต้นแบบ ที่ให้ความอนุเคราะห์รับทำพิธีฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดและมีการเสียชีวิต จะเห็นได้ว่าวัดแห่งนี้มีมาตรการเข้มในการป้องกัน มีการฆ่าเชื้อโรคตั้งแต่เริ่มกระบวนการเปิดเตาเผาศพ เจ้าหน้าที่วัดจะสวมใส่ชุด PPE ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคทั่วบริเวณฌาปนสถาน และเมื่อรถขนศพเคลื่อนมาถึงเจ้าหน้าที่วัดก็จะทำการฉีดพ่นผู้ที่มากับรถและฉีดพ่นรอบโลงศพ ก่อนที่จะทำการยกขึ้นเมรุเข้าเตาเผาในทันที

สำหรับศพ น้องเก๋ รายนี้มีอายุ 21 ปี เสียชีวิตพร้อมทารกในท้องขณะอายุครรภ์ได้ 7 เดือน โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐม วันที่ 20 พ.ค.เชื้อโรคได้ลงปอดทำให้เสียชีวิตอย่างน่าสลด และเป็นเรื่องเศร้าแก่ญาติพี่น้องและผู้ทราบข่าว ซึ่งเชื้อโควิด-19 ระลอกนี้ถือเป็นอันตรายร้ายแรงที่คร่าชีวิตไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนหนุ่มสาว หรือคนสูงอายุ ดังนั้น การฉีดวัคซีนถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเวลาที่หลวงพี่น้ำฝน ได้ขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์เป็นประธานจุดศพพร้อมกับกดปุ่มปิดเตาเผา ปรากฏว่าปุ่มกดดังกล่าวไม่ทำงาน หลวงพี่น้ำฝนพยายามกดปุ่มหลายครั้งแต่ประตูเตาเผาก็ไม่ยอมปิด จนกระทั่งหลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า “ลูกเอ๋ยไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ขอให้ไปพบดวงแก้ว ให้คลาดแคล้วบ่วงมาร ไปพบซึ่งพระนิพพาน นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ”  จู่ๆ ระบบไฟฟ้าปุ่มกดก็กลับมาทำงาน และปิดประตูเตาเผาได้ตามปกติ

จากสอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนที่น้องเก๋ จะมาเสียชีวิต มีอาชีพขายไก่ตามตลาดนัดซึ่งออกขายกับสามี และคาดว่าน่าจะติดเชื้อมาจากพื้นที่ที่ไปขายของหลายแห่ง ซึ่งน้องเก๋นั้นมีบุตรสาว 1 คนอายุประมาณ 2 -3 ขวบ และยังมีน้องในครรภ์ 7 เดือน  น้องเก๋มีอาการป่วยมาหลายวันแล้วในช่วงตั้งท้อง กระทั่งปากเริ่มเปลี่ยนสี สามีจึงพามาตรวจและพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม จนมีอาการทรุดหนักก่อนจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ประกอบกับน้องเก๋ มีน้ำหนักมากอยู่แล้วด้วย โดยตอนนี้สามีของน้องเก๋ ได้ไปตรวจเชื้อและพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ส่วนยายของน้องเก๋ ที่อยู่บ้านเดียวกัน ก็ติดเชื้อด้วย ซึ่งบ้านพักอยู่ในอำเภอสามพราน มีคนอาศัยอยู่ 9  คน ติดเชื้อ 5 คนและเสียชีวิตแล้ว 1 คน คือน้องเก๋ โดยยายของน้องเก๋ ที่ยังนอนรักษาตัวยังไม่ทราบว่าหลานสาวได้เสียชีวิตพร้อมเหลนไปแล้ว ซึ่งทางญาติยังคงปกปิดเรื่องดังกล่าว เนื่องจากกลัวจะเกิดอาการช็อกในช่วงรักษาตัว

ด้านหลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับกรณีน้องเก๋ ผู้เสียชีวิตรายนี้ทราบข่าวว่า นับถือศาสนาคริสต์ ไม่สามารถทำพิธีฝังได้ตามปกติ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงได้ประสานมาให้ทางวัดไผ่ล้อมดำเนินการให้ และทางวัดไผ่ล้อมก็พร้อมที่จะรับ หากมีเอกสารครบถ้วน โดยไม่มีการแบ่งแยกทางความเชื่อใดๆ และสำหรับกรณีน้องเก๋นี้น่าสลดหดหู่ใจ เพราะทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอายุเพียง 21 ปี ถือว่าน้อยที่สุดที่วัดไผ่ล้อมเคยจัดพิธีเผาศพโควิดให้ และเป็นการเผาผู้เสียชีวิตถึง 2 รายในเวลาเดียวกันทั้งแม่และลูกในท้อง  นับเป็นรายที่ 29 และ 30 ที่ฌาปนสถานแห่งนี้ได้เผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19

“กรณีนี้ทางเพื่อนของผู้ตายก็ขออนุเคราะห์จัดงานแบบสวดเผาฟรี ซึ่งทางวัดก็จัดให้และวัดไผ่ล้อมไม่มีนโยบายเรียกรับหรือเก็บเงิน โดยมีกองทุนสวดเผาฟรีอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังหนักหน่วง มีผู้เสียชีวิตทุกวัน ก็ขอให้ญาติโยมตั้งการ์ดให้สูง การสวมแมสคือสิ่งสำคัญ และวัคซีนที่ดีที่สุดคือตัวเรา ที่จะเป็นการป้องกันตัวเองและผู้อื่น อยู่กัน 2 คนไม่ว่ากับใครก็ต้องสวมแมสเอาไว้ นี่คือการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวเตือน