สหภาพพระธรรมทูต ประกาศปฏิญญาไครส์ทเชิร์ต เห็นชอบรักษาพระธรรมวินัยยิ่งด้วยชีวิต การออกกฎหมายใด ควรได้รับความเห็นชอบจากองค์กรสงฆ์ก่อน

0
48086

สำนักข่าว Thai R News เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองไครส์ทเชิร์ต ประเทศนิวซีแลนด์ ว่า ที่วัดพุทธสามัคคี เมืองไครส์ทเชิร์ท ประเทศนิวซีแลนด์ พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ในฐานะประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เป็นประธานในการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในโอเซเนีย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ มีนาคม ๒๕๖๐ โดยมีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีพระธรรมทูตและพระสงฆ์จากทั่วโลก ประกอบด้วยผู้แทนสหภาพพระธรรมทูตไทยในโอเชียเนีย ผู้แทนสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้แทนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้แทนสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรปองค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล สมัชชาสงฆ์ไทยในสิงคโปร์ องค์กรสงฆ์สยามมาเลเซีย และองค์กรพระธรรมทูตไทยสายสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยผู้แทนข้าราชไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศนิวซีแลนด์และผู้แทนราชการท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม โดยมี พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการประชุม

ในการนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้ประทานสาส์นแก่ที่ประชุม มีความว่า “ขอให้พระธรรมทูตตั้งใจและอดทนในการปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาและต้องรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม รู้เท่าทันข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ที่มีความรวดเร็วในการสื่อสารไปถึงผู้รับสารอย่างรวดเร็วแต่มักจะเป็นข้อมูลที่ขาดการกลั่นกรอง   ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับรู้และเผยแพร่ต่อไปจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของข้อมูลนั้นๆ”

ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของคณะสงฆ์ไทยที่มีผู้แทนของรัฐบาลระดับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลงานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าร่วมประชุมและรับฟังความคิดเห็นจากพระธรรมทูตเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล ทั้งนี้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่ามีการนำเสนอร่างกฏหมายต่างๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาตามที่ปรากฏนั้น เป็นความจริง แต่ขณะนี้ได้มีการระงับไปแล้ว จึงขอให้พระสงฆ์ทุกรูปอย่าได้กังวลในเรื่องดังกล่าว พร้อมกับย้ำว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าผู้ที่นำเสนอร่าง พ.ร.บ. คณะสงฆ์นี้ เป็นผู้ที่ไม่มีอะไรทำแท้ๆ

ส่วนเนื้อหาสำคัญของการประชุมนั้น พระธรรมทูตจากประเทศต่างๆ ได้เสนอข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง กระทั่ง ได้ลงนามในปฏิญญาไครส์ทเชิร์ต กล่าวคือ ร่วมกันเฉลิมฉลองในโอกาส ๖๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย-นิวซีแลนด์ เพื่อรำลึกถึงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือนประเทศนิวซีแลนด์เมื่อ ปี ๑๙๖๒ (พ.ศ.๒๕๐๕)ร่วมจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อร่วมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  รัชกาลที่ ๑๐ ร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในการสนับสนุนการจัดการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพของพระสงฆ์ไทยและพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ร่วมกันจัดตั้งและสนับสนุนการดำเนินการของสำนักวิปัสสนากรรมฐานรวมทั้งสนับสนุนการจัดกิจกรรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแก่พระสงฆ์และประชาชนทั่วไปร่วมกันจัดงานสัมมนาชาวพุทธนานาชาติและการประชุมองค์กรพระธรรมทูตสายต่างประเทศทั่วโลก สนับสนุนการจัดประชุมของสหภาพพระธรรมทูตในโอเชียเนีย ในปี พ.ศ.๒๕๖๑

นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกันว่า จะรักษาพระธรรมวินัยยิ่งด้วยชีวิต เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนในภูมิภาคโอเชียเนียและชาวโลก ตลอดจนสานสัมพันธ์กับองค์กรสงฆ์ในการทำงานร่วมกันและขอเรียกร้องพุทธบริษัทและหน่วยงานรัฐได้ทำความเข้าใจในพระธรรมวินัยเพื่อจะได้เป็นหลักการและเหตุผลในกรณีจะออกกฎหมายหรือพระราชบัญญัติประการสำคัญ ควรได้รับความเห็นชอบจากองค์กรสูงของสงฆ์ด้วย และยังขอให้อาณาจักรและศาสนจักรช่วยสนับสนุนและยกย่องการเผยแผ่พระธรรมแก่ชาวโลกเพื่อประโยชน์สุขในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข แม้จะมิใช่ชาวพุทธก็ตาม

พร้อมกันนี้ยังได้มีการเสนอให้มีการประชุมพระธรรมทูตทั่วโลกโดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อระดมความคิดเห็นอันจำนำไปสู่การพัฒนาแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนต่อไป