เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ม.ค.66 ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นางคมคาย เวกนวล อายุ 43 ปี น.ส.วาสนา เคลือบสูงเนิน อายุ 34 ปี นายธันยาบูรณ์ จิตรเฉย อายุ 28 ปี พร้อมด้วย น.ส.ณิชารีย์ พูนศรี ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง วรรณภา พรมบัญชา รอง.สว.สส.กก.3.บก.ป. เพื่อร้องขอให้ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน ครูบาไก่ หรือ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร นอกจากนี้ยังนำหลักฐานแชทข้อความระหว่างครูบาไก่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะการส่งรูปอวัยวะเพศให้เพื่อขอแลกเงินมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
น.ส.คมคาย กล่าวว่า วันนี้เข้ามาร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดี และตรวจสอบเส้นทางการเงินของครูบาไก่ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใช้เงินตรงตามวัตถุประสงค์ที่ประการแจ้งต้องศิษยานุศิษย์หรือไม่ หลังพบหลักฐานบางอย่างว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลภายนอก เพื่อใช้จ่ายในการส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการของวัด ซึ่งมีหลักฐานแชทการพูดคุยระหว่างครูบาไก่ กับชายผู้รับโอนเงินคนดังกล่าว นอกจากนี้อยากให้ตำรวจตรวจสอบทองคำน้ำหนัก 188 บาท ที่รับบริจาคยังอยู่ครบหรือไม่
น.ส.คมคาย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนเองพยายามถอนตัวออกไปอย่างเงียบๆ แต่ครูบาไก่กลับออกมาระบุว่า กลุ่มตนขโมยยอดเงินกระถินของวัดไป ซึ่งยืนยันไม่เป็นความจริง และยังปฏิเสธว่าไม่รู้จักพวกตนมาก่อน ทั้งๆ ที่ตนเคยนำเงินจำนวน 3 แสนบาทไปถวายให้ครูบาด้วยตัวเอง รวมถึงตนยังเป็นคนไปซื้อทองที่ร้านทองใน จ.ขอนแก่น ซึ่งในวันดังกล่าวครูบามีเงินไม่พอที่จะซื้อทองไปสร้างพระ ตนจึงถอดสร้อยคอทองคำหนัก 20 บาท จำนำกับร้านทองเพื่อนำเงินไปซื้อทองให้ครูบานำไปทำพิธี โดยระบุชัดเจนว่าหลังทำพิธีเสร็จให้ถอนเงินมาไถ่ทองให้ตนเอง
ส่วนสาเหตุที่ต้องมาแจ้งความกับกองปราบปรามเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ สำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นมาแล้วแต่ทางสำนักพุทธฯ ได้ยุติการตรวจสอบโดยอ้างว่าเนื่องจากทางครูบาไก่แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตนจึงต้องยุติการตรวจสอบชั่วคราวตนเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไปทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องร้องต่อตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้แทน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าสิ่งที่พูดมาเป็นความจริงทั้งหมด เพราะตนมีหลักฐานชัดเจน อย่างไรก็ตามตนจะดำเนินคดีกับครูบาไก่ให้ถึงที่สุด และจะจัดหนักในทุกข้อหาที่สามารถทำได้ พร้อมฝากถึงทนายความของครูบาไก่ว่า ตนไม่ได้ล่วงเกินพระพุทธสาสนา ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ตนมีปัญหาเฉพาะบุคคลเท่านั้น เพราะกระทำการไม่ถูกต้อง
ด้าน นายธันยาบูรณ์ กล่าวว่า เคยเป็นอดีตลูกศิษย์ที่เคยอยู่ในกุฏิร่วมกับครูบาไก่ ซึ่งมักพบเห็นพฤติกรรมของครูบาไก่ชอบดูรูปเด็กหนุ่มและเรียกเด็กหนุ่มมาหาเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้มีหลักฐานว่าครูบาไก่มีพฤติกรรมกับเด็กหนุ่มนอกจากกับบุคคลที่เป็นข่าว รวมถึงพระในวัดที่เป็นเพื่อนสนิทของพยานที่มาพบตำรวจวันนี้ด้วย ซึ่งปัจจุบันพระรูปนี้ ได้หลบหนีไปอยู่วัดอื่น หลังครูบาไก่เป็นข่าว
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ก่อนประสานส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตอไป
*****************************************************************
