“บิ๊กโจ๊ก” พร้อม ผอ.สำนักพุทธ เจ้าพนักงานบังคับคดี เข้าบังคับคดีร่วมเป็นสักขีพยานส่งมอบทรัพย์สินวัดหิรัญญาราม (บางคลาน)

0
193

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 เวลา 11.00น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แทน ผบ.ตร., นายสมบัติ พิมพ์สอน ผู้ตรวจราชการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) แทนผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายมานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สป.มท. แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย, นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี แทน อธิบดีกรมบังคับคดี ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินตำรวจ มายังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว หน้าที่ว่าการอำเภอโพทะเล เพื่อเปิดตรวจสอบและส่งมอบทรัพย์สินวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) บนกุฏิไม้อดีตเจ้าอาวาส ให้แก่ พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาส ตามตำสั่งศาล

พร้อมกันนี้ได้ประชุมเพื่อกำหนดวิธีการโดยเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการอนุญาตให้มีสักขีพยานในการตรวจนับและส่งมอบ โดยมีผู้ที่จะขึ้นไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าพนักงานบังคับคดี ได้แก่ พระครูสุทธิวรากร โจทก์, นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกร, ทนายโจทก์, ทนายจำเลย, ผู้แทนจำเลย และสักขีพยาน ได้แก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แทน ผบ.ตร., นายสมบัติ พิมพ์สอน ผู้ตรวจราชการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แทนผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายมานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สป.มท. แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย, นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี แทน อธิบดีกรมบังคับคดี

คณะของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เดินทางถึงวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) โดยมีมวลชนกลุ่มชุมชนคนรักษ์วัดหิรัญญาราม(บางคลาน) (อดีตเจ้าอาวาส) ใส่เสื้อเหลืองรออยู่ในวัดประมาณ 100 คน ประตูวัดปิดทุกด้าน ภายในวัดมีนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา และ น.ส.สุภา อยู่ยืด ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญญาราม (บางคลาน) รออยู่ในวัด เจ้าพนักงานบังคับคดี พร้อมด้วยโจทก์ จำเลย และสักขีพยานขึ้นตรวจนับ รายการสิ่งของที่เคยตรวจนับไว้แล้วเมื่อปี 2561 จำนวน 161 รายการ(ตรวจนับในการบังคับคดีครั้งที่ 2 แต่ไม่ได้ส่งมอบแก่โจทก์เพราะมีการขัดขวาง) พบว่า ทรัพย์สินบนกุฏิไม้อดีตเจ้าอาวาสจำนวน 161 รายการอยู่ครบถ้วนและพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาส ลงชื่อรับมอบทรัพย์สิน

ต่อมาเวลา 15.10 -15.50 น. คณะฯ พร้อมทุกฝ่าย เปิดตรวจสอบทรัพย์สินกุฏิเจ้าอาวาสปัจจุบัน, ที่ทำการเจ้าอาวาสประตูทางเข้าวัด, โบสถ์, พิพิธภัณฑ์ เนื่องจากกลุ่มชมชุนคนรักษ์วัดหิรัญญาราม(บางคลาน)ได้ยึดครองวัดไว้ตั้งแต่ 6 เม.ย.66 จึงเกรงว่าทรัพย์สินต่างๆ จะสูญหายและมีปัญหา จึงมีการเปิดพิสูจน์ว่ายังอยู่ครบหรือไม่ ซึ่งฝ่ายองค์กรชุมชนฯ เห็นว่า พระเครื่องทองคำในพิพิธภัณฑ์ หนัก 5 บาท จำนวน 9 องค์ อยู่ไม่ครบ ซึ่งทางตำรวจรับว่าจะได้ดำเนินคดีต่อไป

คณะฯได้คุยกับมวลชนที่อยู่ภายในวัด พร้อมแจ้งข้อสรุป ดังนี้

1.วันนี้นับตรวจสอบรายการที่ต้องยึดทรัพย์ตามคำสั่งศาลแล้ว ครบทั้ง 161 รายการ และเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันลงชื่อรับมอบแล้ว และจะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหน

2.ให้เจ้าอาวาสอยู่ในวัดพร้อมทั้งประกอบศาสนกิจได้

3.ช่วงเปลี่ยนผ่าน จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบเรียบร้อยในวัดและหลังจากนั้น จะมีตำรวจมาประจำวัดวันละ 1 นาย

4.กุญแจประตูวัดและทุกสถานที่ภายในวัดให้เจ้าอาวาสเก็บรักษาไว้

5.การที่เจ้าอาวาส จะเปิดสถานที่ต่างๆจะต้องเปิดพร้อมกับบุคคลของกลุ่มชุมชนคนรักษ์วัดหิรัญญาราม(บางคลาน) และตำรวจประจำวัด

6.เจ้าอาวาสอนุญาตให้กลุ่มมวลชนฯ มานอนที่วัดได้โดยนอนที่ศาลาประตูหน้าวัดได้จำนวนวันละ 10 คน โดยให้จดชื่อคนที่มานอนส่งที่ผู้กำกับ สภ.โพทะเล ต่อไป

7.สำหรับการที่มวลชนต้องการเปลี่ยนเจ้าอาวาสนั้น เป็นเรื่องทางสงฆ์ ซึ่ง รอง ผบ.ตร.จะปรึกษาหารือกับทาง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป

8.เปิดวัดให้ประชาชนเข้ามาสักการะหลวงพ่อเงิน และกุฏิไม้ของอดีตเจ้าอาวาสได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาและบังคับใช้กฎหมายของกรณีวัดบางคลานไปแล้วนั้น ในวันนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลาง ได้เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจสอบและส่งมอบทรัพย์สินของวัดบางคลาน เพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเรียบร้อย ซึ่งในวันนี้ พี่น้องประชาชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตรวจสอบทรัพย์สินของวัดอยู่ครบทั้ง 161 รายการตามบัญชีที่ปรากฏของศาลฎีกา สามารถยุติความขัดแย้งในเรื่องการส่งมอบทรัพย์สินได้เรียบร้อยในเบื้องต้น ต่อจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานท้องถิ่น จะร่วมกันดูแลรักษาความเรียบร้อยของพื้นที่บริเวณวัดบางคลาน เพื่อคืนความสงบสุขให้กับพี่น้องในพื้นที่ต่อไป

*****************************************************************