จับสึกแล้ว “พระกรันยา” พ้นคณะธรรมยุต แสดงธรรมสอนศิษย์เสพเมถุน ไม่อยู่ในโอวาท-เป็นอันตรายต่อพระธรรมคำสอน

0
710

คณะสงฆ์ธรรมยุตศรีสะเกษ สั่งสึก “พระกรันยา” ประธานที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ แสดงธรรมสอนศิษย์เสพเมถุน- กลั้นหายใจในตุ่มน้ำ ว่าจะบรรลุมรรคผล ชี้ทำหลักคำสอนผิดเพี้ยน เตือนแล้วไม่เชื่อฟัง จึงมีมติให้ลาสิกขาออกจากความเป็นคณะสงฆ์ธรรมยุต และสั่งปิดที่พักสงฆ์ป่าเนื้อนาบุญ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พระกรันยา ถาวรธัมโม อายุ 59 ปี ประธานที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ บ้านกอกหวาน ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ได้แสดงธรรมเกี่ยวกับการเสพเมถุนว่า คุณจะมาจากไหนก็ตาม แต่เมื่อคุณมาทำตามกามเมื่อไหร่จะเกิดอะไร เกิดมรรคผลขึ้นทันที ทั้งมีการฝึกปฏิบัติแบบสะเทินน้ำสะเทินบกดับวิญญาณ โดยล่าสุดพระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัด ศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้สั่งการให้เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบลเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของพระธรรมวินัยแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (29 มี.ค.64) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในฐานะโฆษกพศ. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ (พศจ.ศรีสะเกษ) ว่าผลการดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคณะสงฆ์จ.ศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้ออกแถลงผลการสอบอธิกรณ์ เรื่อง การระงับอธิกรณ์พระกรันยา ถาวรธัมฺโม ที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ สอนผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัย ระบุว่า จากการที่ พระกรันยา ถาวรธัมฺโม สังกัดวัดถ้ำสระพงษ์ ต.ปรือใหญ่ อ.ขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้อบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ ณ ที่พักสงฆ์ป่าเนื้อนาบุญ ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งคำสอนที่ได้สั่งสอนแก่ศิษย์นั้นเป็นคำสอนหรืออุบายธรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมคำสอน พระกรันยาได้อบรมศิษย์ด้วยการกล่าววาจาเทศนาให้น้อมไปในทางเสพกามคุณ และสอนศิษย์ให้เชื่อว่า วิธีการปฏิบัติธรรมสมาธิด้วยการกลั้นลมหายใจดำน้ำในตุ่มเป็นวิธีที่ทำให้ผู้ปฏิบัติตามที่สอนนั้นได้บรรลุมรรคผลได้ในเวลาไม่มาก และการใช้วาจาแนะนำบอกกล่าวอุบายแก่ศิษย์ให้เป็นคูรักกันได้ถ้าตนเองไม่มีคู่รัก และได้นำพาศิษย์ที่เชื่อว่าตนเองได้บรรลุมรรคผลแล้วร่วมกันจัดงานกิจกรรมการบันเทิงรื่นเริงฟ้อนรำ บรรเลงเพลงดนตรี ภายในบริเวณอารามที่ถือว่าเป็นวัด จนเป็นที่กล่าวโจทก์วิพากษ์วิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนว่า พระกรันยาแนะนำสั่งสอนอบรมให้ศิษย์ได้เชื่อถือและปฏิบัติธรรมผิดเพี้ยน และยังได้บันทึกลงไปในสื่อออนไลน์ต่างๆ ด้วย

ส่วนท้ายของเอกสารแถลงการณ์ผลการสอบอธิกรณ์ 

นายสิปป์บวร กล่าวต่อไปว่า แถลงการณ์ดังกล่าวระบุอีกว่า จนเมื่อเกิดเรื่องความสงสัยวิพากษ์วิจารณ์วิธีการสอนของพระกรันยาจากพุทธศาสนิกชนว่า พระกรันยาได้ทำการสอนพระธรรมผิดเพี้ยนไปจากพระปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธอย่างไรบ้าง เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ได้พิจารณาตรวจสอบคำสอนการสอนของพระกรันยา ว่าเป็นการสอนไม่เป็นไปตามหลักพระธรรมคำสอน  จึงได้ลงมาตรวจสอบในสถานที่ที่พระกรันยาตั้งเป็นที่พักสงฆ์ป่าเนื้อนาบุญ และตักเตือนปรับปรุงวิธีอุบายการสอนที่เป็นไปในทางผิดเพี้ยนให้แก้เสียใหม่ให้ถูกต้อง แต่พระกรันยาไม่ยอมปรับปรุงวิธีการสอน ทั้งกลับไปเพิ่มการโพนทะนาอุบายวิธีการอบรมสั่งสอนที่ปฏิบัติติผิดเพี้ยนออกรายการทีวีต่อเนื่องไป ให้เกิดการขยายผลความเสียหายมากยิ่งขึ้นไปอีก และพระกรันยาไม่ยอมรับการอบรมตักเตือนของอาจารย์ เจ้าคณะผู้ปกครองที่ได้มาตักเตือน  อีกทั้งพระกรันยาก็ไม่ยอมรับโอวาทและไม่อาจระลึกได้ การนี้คณะสงฆ์ธรรมยุตจ.ศรีสะเกษ จึงพิจารณาเห็นว่าการอบรมสั่งสอนของพระกรันยาเป็นอันตรายต่อพระธรรมคำสอน และการประพฤติ การปฏิบัติ ในการสอนของพระกรันยา ย่อมชักนำไปสู่การต้องปรับอาบัติในที่ประชุมสงฆ์ตามพระวินัยเป็นที่สุดแล้ว

จึงมีมติสงฆ์เป็นที่สุดให้พระกรันยา ถาวรธัมฺโม ลาสิกขาออกจากความเป็นคณะสงฆ์ธรรมยุต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และสั่งปิดที่พักสงฆ์ป่าเนื้อนาบุญ มิให้เป็นที่พักสงฆ์ในคณะสงฆ์ธรรมยุต ตั้งแต่บัดนี้ โดยได้มีการนำตัวพระกรันยาไปทำการสึกแล้ว