X

เพจดัง แฉ-แชร์กระหน่ำ “ทัวร์เถื่อน” แสวงบุญอินเดีย ลอยแพ 29 ชีวิต เตือนด้วยปรารถนาดี จะถูกปฏิเสธเข้าเมือง เสียทั้งเงินทั้งเวลา ราวกับหนัง The Terminal

 

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 62 เวลา 18.46 น. เพจดัง Alisa Chinda โพสต์ “อุทาหรณ์การจัดทัวร์กันเอง นิยมทัวร์ถูกเกินจริง และการลอยแพระดับแอดวานซ์ที่อินเดีย” พร้อมระบุว่า วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากบริษัททัวร์ที่อินเดีย แจ้งให้ทราบกรณีผู้แสวงบุญชาวไทย 29 ชีวิต ที่จัดทัวร์ไปกันเอง โดยให้สตรีผู้หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่บริษัททัวร์ จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไปกลับ และ e-visa  India ให้ โดยหัวหน้าคณะจัดการเรื่องที่พักในวัดไทยต่างๆ ในเส้นทางกันเอง หากเสียเงินซื้อทัวร์แล้ว ไปถึงสนามบินวันเดินทาง ปรากฏไม่มีการจัดการเดินทางไปจริง เราเรียกว่า โดนทัวร์ลอยแพ ใช่ไหม? แต่คุณอาจไม่เชื่อว่า เดี๋ยวนี้การลอยแพทำโดยใช้กลยุทธ์ที่แนบเนียนกว่านั้น อย่างที่คนทำทัวร์คุยกัน จึงจะเข้าใจวัตถุประสงค์ที่คนจัดวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น

เริ่มจากวันเช็คอิน คณะทัวร์ทั้งหมดไม่ทราบเลยว่า ตั๋วเครื่องบินขากลับที่เป็นตั๋วกระดาษใบๆ ซึ่งทุกคนถืออยู่ในมือนั้น เป็นตั๋วปลอมทั้งหมด !!

ทำไมจึงปลอมตั๋วขากลับได้ โดยสายการบินแรกที่เดินทางไปอินเดียไม่ทราบ และยอมให้เช็คอินด้วย เพราะโดยปกติเวลาที่เช็คอินหน้าเคาน์เตอร์ สายการบินจะมองเห็นตั๋วขากลับในระบบ ถ้าไม่เห็นตั๋วขากลับ เท่ากับมีตั๋ววันเวย์ขาไปเพียงขาเดียว ถือเป็นการผิดระเบียบการเข้าเมืองของผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว ทางสายการบินจะไม่สามารถเช็คอินให้ได้ จนกว่าจะนำตั๋วขากลับมาแสดง ซึ่งคนที่จัดไปอินเดียน่าจะมีความตั้งใจที่จะแสดงตั๋วขากลับ เป็นตั๋วที่ print กระดาษ A4 1 ใบ และเป็นสายการบินอื่นที่ต่างสายกันกับสายแรกด้วย เพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบ เพื่อให้สายการบินแรกยอมเช็คอินให้ และแน่นอนว่า ตั๋วขากลับทั้งหมดเป็นตั๋วที่ปลอมขึ้นมา คนที่รับจัดทัวร์ไม่เคยจอง ไม่เคยซื้อตั๋วเหล่านั้นเลย

โดยปกติ ไม่ค่อยมีทัวร์ที่จัดไปกลับคนละสายการบิน นอกเสียจากมีความจำเป็นจริงๆในเมืองที่มีตารางบินจำกัด เพราะการซื้อตั๋วอย่างละเที่ยวเดียวมารวมกัน มันจะแพงมาก แต่ผู้จัดน่าจะมีความตั้งใจไม่ซื้อตั๋วสองขาไปกลับตั้งแต่แรก ออกตั๋วเพียงขาไปขาเดียวจากกรุงเทพเท่านั้น ครั้นจะซื้อสายการบินเดียวกันทั้งไปและกลับ สายการบินก็จะตรวจสอบได้ว่าไม่เห็นตั๋วขากลับในระบบ จึงเลือกที่จะปลอมตั๋วขากลับเป็นสายอื่น เพื่อให้ผ่านการเช็คอิน นับเป็นกลยุทธ์การลอยแพขั้นแอดวานซ์ คือแบบปล่อยครึ่งทาง

ผู้โพสต์ระบุด้วยว่า ยังไม่จบแค่นั้น ถ้าลำพังมีตั๋วขาไปแล้ว แต่ไม่มีตั๋วขากลับ คนไปทัวร์ที่ตั้งใจไปถึงอินเดียแล้ว ก็ต้องพยายามไปให้จบทัวร์จนได้ ปัญหาตั๋วขากลับก็ไปแก้เอาทีหลัง เราก็เคยให้คำปรึกษาผู้ที่เคยถูกหลอกซื้อตั๋วกรุงเทพ ไปพุทธคยาแบบถูกเกินจริง ปรากฎว่าไม่มีตั๋วขากลับ เพราะคนจัดทัวร์(เถื่อน) นั้น ไม่ได้ซื้อขากลับ มีแต่ขาไป ต้องให้คนที่เมืองไทยหิ้วเงินไปออกตั๋วขากลับให้ทั้งคณะ คือยังไงต้องกลับบ้านให้ได้ก่อน ต้องออกเงินไปก่อนก็ต้องยอม แล้วมาไล่ฟ้องผู้จัดกันทีหลัง หรือบางคนเหนื่อยที่จะติดตามก็มี

แต่..เรื่องราวอันน่าระทึกใจยังไม่จบง่ายๆ เพราะถ้าแค่ซื้อตั๋วขากลับใหม่ แต่ยังได้ไหว้พระตามที่ตั้งใจก็ยังดี แต่ใครจะเชื่อว่า ผู้จัดทัวร์นั้น จะปลอมกระทั่ง e-visa India เพราะเมื่อทั้งคณะเดินทางไปถึงอินเดีย ปรากฏว่า ตม.ปฏิเสธการเข้าประเทศอินเดีย เนื่องจากไม่พบรายชื่อผู้เดินทางทั้งหมด เว้นแต่ผู้ที่ถือพาสปอร์ตราชการเพียงเล่มเดียวเท่านั้น!

หากระบบรวนหรือขัดข้อง คงไม่แจ็คพอตทั้งคณะ อย่างมากก็คนสองคน แต่นี่เป็นทั้งคณะ ก็เท่ากับว่าทัวร์นั้นไม่เคยสมัครวีซ่าอินเดียออนไลน์ให้กับคณะจริงๆ เลย หากมีหลักฐานเป็นกระดาษใบนึงที่แนบมาในเล่มพาสปอร์ต ก็น่าจะเป็นสลิปวีซ่าปลอมๆ หัวกระดาษปลอมๆ และตัดต่อใส่ชื่อผู้เดินทางจริงเข้าไป

โอ้ มายก็อด มันเหนือชั้นเสียจนคนทำทัวร์ด้วยกันยังอ้าปากค้าง  เอาอะไรคิด คิดได้ยังไง และทำได้ยังไง…ถึงเพียงนี้

ผู้โพสต์เขียนบทสรุป ว่า คณะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองทั้งคณะ เพราะไม่มีวีซ่าเข้าอินเดีย ต้องนอนรอที่สนามบินหนึ่งคืน และต้องซื้อตั๋วขากลับเมืองไทยเอง แบบราคาสูงลิบลิ่ว เพราะเป็นราคาตั๋วแบบ last minute และซื้อสนามบิน ท่ามกลางความเศร้าใจของคนที่ทราบเรื่อง ขนาดเราฟังแล้วก็ยังสลดใจไปด้วย สงสารคนเดินทางที่วางแผนการเดินทาง 8-9 วัน สี่สังเวชนียสถานในอินเดียที่ต้องจบลง เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึกกับผู้จัดทัวร์ที่มีเจตนาไม่สุจริตมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยรับสายลูกทัวร์อีกเลย

ยังดีที่ได้วัดไทยสารนาถ พี่เบิ้มและทีมที่วิ่งส่งอาหาร 3 มื้อสำหรับพระคุณเจ้า และผู้แสวงบุญชาวไทยขณะติดในสนามบินและกำลังประสบปัญหาใหญ่ในต่างแดน ขอแสดงความชื่นชมในไมตรีจิตอย่างยิ่ง

บทส่งท้าย  ทัวร์อินเดียถูกเริ่มต้นที่ 18,888 บาท ยังคงหลั่งไหลในหน้าเฟซบุ๊คดั่งสายน้ำ การเดินทางของคุณ คุณเลือกได้ และโปรดเลือกให้ดี จะเสียเงินทีเดียว หรือเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังต้องร่วมเป็นผู้แสดงหนัง The Terminal อีกด้วย คนที่มั่นใจ ก็ฉันเคยไปมาแล้ว และกลับมาได้ด้วย อย่าเพิ่งมั่นใจ เพราะมันไม่ได้แน่อย่างนั้นเสมอไป มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น

ด้วยความเคารพและปรารถนาดี

ที่มา : เจ้าของบริษัททัวร์ อิรวดี

ขณะเดียวกัน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมืองพาราณสี Varanasi Jagran ได้ลงตีพิมพ์เหตุการณ์ดังกล่าว ว่า่ นักท่องเที่ยวชาวไทย 30 คน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยพระสงฆ์ 12 รูป ฆราวาสชาย 3 คน ฆราวาสหญิง 15 คน ถูกส่งกลับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคณะผู้แสวงบุญได้เดินทางถึงท่าอากาศยานพาราณสีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2562 โดยสายการบินอินดิโก้ เที่ยวบินที่ 6E98 เมื่อถึงพิธีตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ได้บอกว่าคณะผู้เดินทางคณะนี้ใช้วีซ่าปลอม ดังนั้นทำให้คณะไม่สามารถเดินทางออกนอกตัวท่าอากาศยานได้ จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในสนามบินเป็นเวลา 1 คืน พร้อมทั้งแต่ละคนยังต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวน 100,000 รูปี (50,000 บาท) ทางคณะได้เดินทางกลับมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE328 ถึงกรุงเทพฯเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2562 เป็นที่เรียบร้อย

,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,

thairnews: