เพจดัง แฉ-แชร์กระหน่ำ “ทัวร์เถื่อน” แสวงบุญอินเดีย ลอยแพ 29 ชีวิต เตือนด้วยปรารถนาดี จะถูกปฏิเสธเข้าเมือง เสียทั้งเงินทั้งเวลา ราวกับหนัง The Terminal

0
3213

 

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 62 เวลา 18.46 น. เพจดัง Alisa Chinda โพสต์ “อุทาหรณ์การจัดทัวร์กันเอง นิยมทัวร์ถูกเกินจริง และการลอยแพระดับแอดวานซ์ที่อินเดีย” พร้อมระบุว่า วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากบริษัททัวร์ที่อินเดีย แจ้งให้ทราบกรณีผู้แสวงบุญชาวไทย 29 ชีวิต ที่จัดทัวร์ไปกันเอง โดยให้สตรีผู้หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่บริษัททัวร์ จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไปกลับ และ e-visa  India ให้ โดยหัวหน้าคณะจัดการเรื่องที่พักในวัดไทยต่างๆ ในเส้นทางกันเอง หากเสียเงินซื้อทัวร์แล้ว ไปถึงสนามบินวันเดินทาง ปรากฏไม่มีการจัดการเดินทางไปจริง เราเรียกว่า โดนทัวร์ลอยแพ ใช่ไหม? แต่คุณอาจไม่เชื่อว่า เดี๋ยวนี้การลอยแพทำโดยใช้กลยุทธ์ที่แนบเนียนกว่านั้น อย่างที่คนทำทัวร์คุยกัน จึงจะเข้าใจวัตถุประสงค์ที่คนจัดวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น

เริ่มจากวันเช็คอิน คณะทัวร์ทั้งหมดไม่ทราบเลยว่า ตั๋วเครื่องบินขากลับที่เป็นตั๋วกระดาษใบๆ ซึ่งทุกคนถืออยู่ในมือนั้น เป็นตั๋วปลอมทั้งหมด !!

ทำไมจึงปลอมตั๋วขากลับได้ โดยสายการบินแรกที่เดินทางไปอินเดียไม่ทราบ และยอมให้เช็คอินด้วย เพราะโดยปกติเวลาที่เช็คอินหน้าเคาน์เตอร์ สายการบินจะมองเห็นตั๋วขากลับในระบบ ถ้าไม่เห็นตั๋วขากลับ เท่ากับมีตั๋ววันเวย์ขาไปเพียงขาเดียว ถือเป็นการผิดระเบียบการเข้าเมืองของผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว ทางสายการบินจะไม่สามารถเช็คอินให้ได้ จนกว่าจะนำตั๋วขากลับมาแสดง ซึ่งคนที่จัดไปอินเดียน่าจะมีความตั้งใจที่จะแสดงตั๋วขากลับ เป็นตั๋วที่ print กระดาษ A4 1 ใบ และเป็นสายการบินอื่นที่ต่างสายกันกับสายแรกด้วย เพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบ เพื่อให้สายการบินแรกยอมเช็คอินให้ และแน่นอนว่า ตั๋วขากลับทั้งหมดเป็นตั๋วที่ปลอมขึ้นมา คนที่รับจัดทัวร์ไม่เคยจอง ไม่เคยซื้อตั๋วเหล่านั้นเลย

โดยปกติ ไม่ค่อยมีทัวร์ที่จัดไปกลับคนละสายการบิน นอกเสียจากมีความจำเป็นจริงๆในเมืองที่มีตารางบินจำกัด เพราะการซื้อตั๋วอย่างละเที่ยวเดียวมารวมกัน มันจะแพงมาก แต่ผู้จัดน่าจะมีความตั้งใจไม่ซื้อตั๋วสองขาไปกลับตั้งแต่แรก ออกตั๋วเพียงขาไปขาเดียวจากกรุงเทพเท่านั้น ครั้นจะซื้อสายการบินเดียวกันทั้งไปและกลับ สายการบินก็จะตรวจสอบได้ว่าไม่เห็นตั๋วขากลับในระบบ จึงเลือกที่จะปลอมตั๋วขากลับเป็นสายอื่น เพื่อให้ผ่านการเช็คอิน นับเป็นกลยุทธ์การลอยแพขั้นแอดวานซ์ คือแบบปล่อยครึ่งทาง

ผู้โพสต์ระบุด้วยว่า ยังไม่จบแค่นั้น ถ้าลำพังมีตั๋วขาไปแล้ว แต่ไม่มีตั๋วขากลับ คนไปทัวร์ที่ตั้งใจไปถึงอินเดียแล้ว ก็ต้องพยายามไปให้จบทัวร์จนได้ ปัญหาตั๋วขากลับก็ไปแก้เอาทีหลัง เราก็เคยให้คำปรึกษาผู้ที่เคยถูกหลอกซื้อตั๋วกรุงเทพ ไปพุทธคยาแบบถูกเกินจริง ปรากฎว่าไม่มีตั๋วขากลับ เพราะคนจัดทัวร์(เถื่อน) นั้น ไม่ได้ซื้อขากลับ มีแต่ขาไป ต้องให้คนที่เมืองไทยหิ้วเงินไปออกตั๋วขากลับให้ทั้งคณะ คือยังไงต้องกลับบ้านให้ได้ก่อน ต้องออกเงินไปก่อนก็ต้องยอม แล้วมาไล่ฟ้องผู้จัดกันทีหลัง หรือบางคนเหนื่อยที่จะติดตามก็มี

แต่..เรื่องราวอันน่าระทึกใจยังไม่จบง่ายๆ เพราะถ้าแค่ซื้อตั๋วขากลับใหม่ แต่ยังได้ไหว้พระตามที่ตั้งใจก็ยังดี แต่ใครจะเชื่อว่า ผู้จัดทัวร์นั้น จะปลอมกระทั่ง e-visa India เพราะเมื่อทั้งคณะเดินทางไปถึงอินเดีย ปรากฏว่า ตม.ปฏิเสธการเข้าประเทศอินเดีย เนื่องจากไม่พบรายชื่อผู้เดินทางทั้งหมด เว้นแต่ผู้ที่ถือพาสปอร์ตราชการเพียงเล่มเดียวเท่านั้น!

หากระบบรวนหรือขัดข้อง คงไม่แจ็คพอตทั้งคณะ อย่างมากก็คนสองคน แต่นี่เป็นทั้งคณะ ก็เท่ากับว่าทัวร์นั้นไม่เคยสมัครวีซ่าอินเดียออนไลน์ให้กับคณะจริงๆ เลย หากมีหลักฐานเป็นกระดาษใบนึงที่แนบมาในเล่มพาสปอร์ต ก็น่าจะเป็นสลิปวีซ่าปลอมๆ หัวกระดาษปลอมๆ และตัดต่อใส่ชื่อผู้เดินทางจริงเข้าไป

โอ้ มายก็อด มันเหนือชั้นเสียจนคนทำทัวร์ด้วยกันยังอ้าปากค้าง  เอาอะไรคิด คิดได้ยังไง และทำได้ยังไง…ถึงเพียงนี้

ผู้โพสต์เขียนบทสรุป ว่า คณะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองทั้งคณะ เพราะไม่มีวีซ่าเข้าอินเดีย ต้องนอนรอที่สนามบินหนึ่งคืน และต้องซื้อตั๋วขากลับเมืองไทยเอง แบบราคาสูงลิบลิ่ว เพราะเป็นราคาตั๋วแบบ last minute และซื้อสนามบิน ท่ามกลางความเศร้าใจของคนที่ทราบเรื่อง ขนาดเราฟังแล้วก็ยังสลดใจไปด้วย สงสารคนเดินทางที่วางแผนการเดินทาง 8-9 วัน สี่สังเวชนียสถานในอินเดียที่ต้องจบลง เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึกกับผู้จัดทัวร์ที่มีเจตนาไม่สุจริตมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยรับสายลูกทัวร์อีกเลย

ยังดีที่ได้วัดไทยสารนาถ พี่เบิ้มและทีมที่วิ่งส่งอาหาร 3 มื้อสำหรับพระคุณเจ้า และผู้แสวงบุญชาวไทยขณะติดในสนามบินและกำลังประสบปัญหาใหญ่ในต่างแดน ขอแสดงความชื่นชมในไมตรีจิตอย่างยิ่ง

บทส่งท้าย  ทัวร์อินเดียถูกเริ่มต้นที่ 18,888 บาท ยังคงหลั่งไหลในหน้าเฟซบุ๊คดั่งสายน้ำ การเดินทางของคุณ คุณเลือกได้ และโปรดเลือกให้ดี จะเสียเงินทีเดียว หรือเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังต้องร่วมเป็นผู้แสดงหนัง The Terminal อีกด้วย คนที่มั่นใจ ก็ฉันเคยไปมาแล้ว และกลับมาได้ด้วย อย่าเพิ่งมั่นใจ เพราะมันไม่ได้แน่อย่างนั้นเสมอไป มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น

ด้วยความเคารพและปรารถนาดี

ที่มา : เจ้าของบริษัททัวร์ อิรวดี

ขณะเดียวกัน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมืองพาราณสี Varanasi Jagran ได้ลงตีพิมพ์เหตุการณ์ดังกล่าว ว่า่ นักท่องเที่ยวชาวไทย 30 คน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยพระสงฆ์ 12 รูป ฆราวาสชาย 3 คน ฆราวาสหญิง 15 คน ถูกส่งกลับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคณะผู้แสวงบุญได้เดินทางถึงท่าอากาศยานพาราณสีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2562 โดยสายการบินอินดิโก้ เที่ยวบินที่ 6E98 เมื่อถึงพิธีตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ได้บอกว่าคณะผู้เดินทางคณะนี้ใช้วีซ่าปลอม ดังนั้นทำให้คณะไม่สามารถเดินทางออกนอกตัวท่าอากาศยานได้ จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในสนามบินเป็นเวลา 1 คืน พร้อมทั้งแต่ละคนยังต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวน 100,000 รูปี (50,000 บาท) ทางคณะได้เดินทางกลับมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE328 ถึงกรุงเทพฯเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2562 เป็นที่เรียบร้อย

,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,