พระภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว = เปิดประตูก้าวลงไปสู่อบายสถานเดียว
มีคำถามว่า พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ยังมีโอกาสได้บรรลุมรรค ผล นิพพานในชาตินี้ อยู่อีกหรือไม่?
. คำถามนี้ตอบยาก และเป็นที่ถกเถียงกันมาตลอด เพราะการบรรลุมรรค ผล นิพพาน ถือเป็นนิสัยวาสนาของแต่ละบุคคลที่สั่งสมมาไม่เท่าเทียมกัน มีแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าเท่านั้น ที่จะพยากรณ์ปัญหานี้ได้อย่างแจ้งชัด เราเพียงวินิจฉัยไปตามพระธรรมวินัยด้วยเหตุอันควรเท่านั้น ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับเรา
ขอแยกประเด็นคำถามดังนี้ :-
๑. ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว แต่ยังครองผ้าเหลืองดำรงตนเป็นพระภิกษุ ยังร่วมลงอุโบสถสังฆกรรมหลอกลวงคนอื่นอย่างไม่ละอายแก่ใจ ไม่ยอมสละสมณเพศ ประเภทนี้ตายแล้วก็ไปอบายสถานเดียว
๒. ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ยอมรับความผิดสละสมณเพศไปเป็นคฤหัสถ์ดำรงชีวิตเยี่ยงฆราวาสที่ดีทั่วไป...
ปริศนาธรรม “รองเท้าฟองน้ำ” แสนทรหด…..
ปริศนาธรรม “รองเท้าฟองน้ำ” แสนทรหด.....
รองเท้าฟองน้ำคู่นี้ชราภาพมากแล้ว มันเต็มไปด้วยบาดแผล และริ้วรอยแห่งความบอบช้ำ คงจะผ่านการเดินทางสมบุกสมบันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าใครจะสวมใส่แล้วพามันเหยียบย่ำไปในที่หนใดก็ตาม จะเป็นหนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามดินโคลนสกปรก หรือหนทางที่ปูลาดด้วยผืนพรมที่มีลวดลายอันวิจิตรงดงาม รองเท้าก็มิเคยได้รังเกียจรังงอน
แม้ทุกย่างก้าวจะสร้างความบอบช้ำให้กับมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่มันก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างทรหด บางครั้งเหยียบถูกเศษแก้ว หรือเศษหินแหลมคมจนพื้นมันฉีกขาด แต่มันก็ยังพอคงสภาพอยู่ได้ แม้มันจะเก่าชราคร่ำคร่าจนหาความงามมิได้ แต่มันก็ยังทำหน้าที่ปกป้องฝ่าเท้าของผู้ที่เหยียบย่ำอยู่บนตัวมันได้อย่างดีเยี่ยมจนวินาทีสุดท้าย...
วินาทีที่เจ้าของจะโยนมันทิ้งไปอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตสู่สิ่งที่เรียกว่า...ถังขยะ คือที่สุดท้ายของทุกสรรพสิ่งก่อนที่จะถูกย่อยสลายไป
ร่างกายของคนเราก็เปรียบเหมือนรองเท้าฟองน้ำคู่นี้ ใจก็เปรียบเหมือนคนที่เหยียบย่ำลงไปบนรองเท้า ใจนี้ก็อาศัยร่างกายท่องเที่ยวไปกระทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมากมาย ทั้งเรื่องดี...
จากใจพระเมธีธรรมาจารย์ “เจ้าคุณประสาร”
จากใจพระเมธีธรรมาจารย์ “เจ้าคุณประสาร”
ในรอบปีที่ผ่านมา และในรอบหลายๆ ปี ต้องขอขอบคุณ อนุโมทนาขอบคุณทุกท่าน ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเพจ กดไลน์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็นและอื่นๆ
หลายปีมานี้ผม/อาตมาเลือกที่จะอยู่เงียบๆ และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เช่น ทำงานด้านการศึกษา การบริหาร สอนหนังสือ บรรยายและบางครั้งบางคราก็นั่งปรกด้วยตามสมควรแก่ฐานะที่จะพึงทำได้
อะไรจะมี จะเป็น จะเกิด ก็คงต้องดู วิเคราะห์ ใช้วิจารณญาณให้มากขึ้น
ส่วนตัวยังคงรักความยุติธรรม ความถูกต้องและแสวงหาความจริงไม่เคยแปรเปลี่ยน แต่เหตุการณ์ กาล...
ความสำนึกผิด ต้องเริ่มที่ตัวเรา
ความสำนึกผิด ต้องเริ่มที่ตัวเรา
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน จุดไฟในใจคนฉบับที่แล้ว อาตมาได้กล่าวถึงพระองคุลีมาลเถระ อดีตมหาโจรผู้สร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วทั้งชมพูทวีป หากแต่เมื่อพบกับพระบรมศาสดานั้น องคุลีมาลได้กลับใจกลายเป็นสาวกของพระพุทธองค์ และในที่สุดองคุลีมาลก็ได้บวชในสำนักของพระบรมศาสดา จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
ทีนี้หลายคนอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่า คนอย่างองคุลีมาลนั้นหรือจะบวชเป็นพระภิกษุถึงขั้นสำเร็จพระอรหันต์ได้ พระองคุลีมาลไม่ต้องรับกรรมใด ๆ เลยหรือ องคุลีมาลมีความสำนึกต่อกรรมที่ตนได้ก่อไว้จริงหรือ
คำตอบอยู่ใน อังคุลีมาลสูตร
อาตมาจะขอย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่องคุลีมาลมุ่งติดตามพระสมณโคดม หวังจะปลิดชีพพระพุทธองค์เสีย เตรียมดาบและธนูไว้พร้อมสรรพ แต่วิ่งไปเท่าใดก็มิอาจติดตามพระพุทธองค์ได้ทันเลย จนเป็นที่แปลกใจแก่องคุลีมาล องคุลีมาลจึงกล่าวว่า “จงหยุดก่อนสมณะ จงหยุดก่อนสมณะ”
พระพุทธองค์ตรัสกลับมาว่า...
เมื่อวัดเป็นโรงพยาบาล รักษากาย และรักษาใจ
เมื่อวัดเป็นโรงพยาบาล รักษากาย และรักษาใจ
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน จากที่อาตมาได้เล่าเรื่องเด็กวัดไผ่ล้อมถูกหวยด้วยพระองคุลีมาลเป็นเหตุนั้น เด็กวัดที่ถูกหวยเลข 53 จนล้านแตกนั้น ก็ลงขันเงินกัน คนละสี่พันบ้าง ห้าพันบ้าง เป็นทุนสำหรับปิดทองรูปหล่อพระองคุลีมาลที่บัดนี้ได้เชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นแล้ว ก็กลายเป็นองค์พระองคุลีมาลที่มีลักษณะเหลืองผ่องทองอร่าม และเมื่อวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา อาตมาได้นำเหล่าเด็กวัดทั้งหมดนี้ เจริญพระพุทธมนต์เป็นการบูชา และนำกล้วยน้ำว้า 108 เครือ หรือหากนับเป็นลูกก็ราว...
ได้ยินว่า มีคนจะยกเลิกวัฒนธรรมไทย เค้าใหญ่มาจากไหนหรือ ??
ได้ยินว่า มีคนจะยกเลิกวัฒนธรรมไทย เค้าใหญ่มาจากไหนหรือ ??
วัฒนธรรมไทย คือกิริยามารยาทอันสง่างามอย่างที่สุดเท่าที่มนุษย์จะสามารถแสดงออกได้ทางกาย วาจา ทั้งบ่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นผู้มีจิตใจอันสูงส่งดีงามด้วยคุณธรรมจริยธรรมที่ได้รับการอบรมปลูกฝังมาอย่างดีแล้ว สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจากบรรพบุรุษไทยหลายชั่วอายุคน เป็นมรดกธรรมอันล้ำค่าของชาติไทยที่ไม่มีชนชาติใดในโลกเสมอเหมือน
ลำพังลมปากสกปรกที่พ่นออกมาจากปากของ “คนอกตัญญู” ไม่รู้คุณแผ่นดิน ย่อมไม่มีทางที่จะมาลบล้างวัฒนธรรมไทยอันสูงส่งดีงามของคนไทยให้เสื่อมค่าด้อยค่าลงไปได้แม้แต่น้อย แต่ตรงกันข้าม ใครก็ตามที่ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทย แต่กลับกล่าววาจาดูถูกคนไทย เหยียดหยามวัฒนธรรมไทย พูดจาให้ร้ายประเทศไทย ก็เท่ากับประจานตนเอง ให้คนไทยได้เห็นถึงกำพืดความเป็นคนถ่อยคนเลว เป็นคนที่มีจิตใจสกปรกต่ำทรามที่อกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด อันใครๆ ไม่ควรถือเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
เพราะผู้เช่นนั้น ทันทีที่ขาดใจตาย ย่อมมีแต่ทุคติอบายภูมิเป็นที่ไปเบื้องหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย...