เผาอีกศพโควิด! “หลวงพี่น้ำฝน” ย้ำกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทัน วันเดียวเข้าเมรุวัดไผ่ล้อม 2 รายรวด

0
437

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลา 12.00 น. ที่ฌาปณสถานวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานฌาปนกิจศพ นางสาย ยงยืน อายุ 92 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี ป่วยตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2564 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ที่โรงพยาบาลนครปฐม รวมเวลา  17 วันในการรักษาตัว และเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อโรคโควิด-19 นับเป็นรายที่ 14 ของวัดไผ่ล้อม โดยมีบุตรหลานร่วมพิธีด้วยความอาลัยเพียง 10 คน และต่อมาในเวลา 17.00น. ก็มีพิธีฌาปนกิจศพ ชายชาวต่างชาติ (กัมพูชา) อายุ 34 ปี เป็นรายที่ 15 เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากโรงพยาบาลบางไผ่ กรุงเทพฯ

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า เหมือนเช่นเดิมทุกๆ วันที่เผาศพโควิด โดยก่อนเริ่มพิธีก็จะให้เจ้าหน้าที่วัดฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อให้ทั่วบริเวณฌาปนสถานเพื่อฆ่าเชื้อโรค ในส่วนของเจ้าหน้าที่เผาศพก็จะใส่ชุด PPE ที่มีลูกศิษย์เห็นว่าวัดไผ่ล้อมทำงานอย่างเต็มที่ จึงได้อนุโมทนถวายมาให้ได้ใช้ โดยญาติผู้เสียชีวิตที่ไม่สามารถมาร่วมพิธีได้ ก็ร่วมส่งใจไว้อาลัย รับชมได้ทางไลฟ์สด  Facebook หลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ส่วนผู้เสียชีวิตที่นำมาเผาที่วัดไผ่ล้อม ทางญาติผู้เสียชีวิตจะต้องนำใบมรณะบัตร รวมทั้งสำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต และผู้ที่มาติดต่อ ต้องระบุด้วยว่าจัดการศพโดยเผาสถานที่ วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเอกสารเหล่านี้สำคัญมากถ้าไม่มีจะไม่สามารถฌาปนกิจศพได้เลย เพราะจะผิดกฎหมาย

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่ออีกว่า ที่เคยบอกไว้ วัดไผ่ล้อมไม่มีการเก็บค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่ว่าญาติโยมอยากจะทำบุญ ก็ร่วมบริจาคเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อ กองทุนสวด เผา ฟรี วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 516-1-01179-9 ซึ่งไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าเผาศพมา 20 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่อาตมาบวชอยู่ที่นี่ ปฏิบัติตามรอยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาส จึงขอยืนยันไม่มีการไปเรียกร้องเก็บเงินญาติโยมเป็นเด็ดขาด ไม่อยากจะทำ แต่มันก็เป็นวัฏจักรที่ต้องมี เกิด แก่ เจ็บและตาย ไม่มีใครพ้นไปได้เลยแม้แต่คนเดียว วัดไผ่ล้อมพร้อมยินดีที่จะให้การช่วยเหลือและสงเคราะห์ อย่างที่ย้ำว่า หลวงพ่อ หลวงพี่ ทั้งหลายที่เป็นเจ้าอาวาส ตามที่มหาเถรสมาคมได้ประชุมมีมติให้วัดช่วยเหลือญาติโยมเผาศพติดเชื้อโควิด  ซึ่งไม่มีอันตรายใดๆ ถ้าเราไม่ได้สัมผัส ในการประกอบพิธีญาติจะต้องนั่งอยู่ด้านล่างที่จัดไว้ให้ และนั่งเว้นระยะห่าง การทำพิธีทอดผ้า สวดพระอภิธรรม ถ้าปกติก็จะสวดพระอภิธรรม 5 วัน 7 วัน แต่พอมีเหตุการณ์สถานการณ์ไวรัสโคโรน่า โควิด-19 ก็จะต้องย่นระยะเวลาให้เหลือน้อยที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างวัดไผ่ล้อมจะเตรียมไว้ให้หมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไตร เครื่องไทยธรรม โดยใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 30 นาที แต่ถ้าเจ้าภาพจะทำบุญเพิ่มเติมก็ได้ และเมื่อศพเคลื่อนเข้ามาถึง เจ้าหน้าที่วัดก็จะฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโดยเจ้าหน้าโรงพยาบาลเขาจะเตรียมพร้อมนำมาแล้วก็จะยกโลงศพขึ้นสู่เตาเผาทันที ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณศิษยานุศิษย์ที่เป็นห่วงอาตมา ถวายอุปกรณ์ป้องกันอย่างดี ใส่ถึงสามชั้นทั้งหน้ากากและเฟสชิว

“ขอย้ำว่า วัดไผ่ล้อมทำให้หมดไม่ว่าท่านจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติ ขอให้มีเอกสารตามที่แจ้งไว้ วัดไผ่ล้อมยินดีดำเนินการให้ทุกอย่าง และก็จะทำแบบนี้ให้เป็นมรณานุสติ เป็นเครื่องเตือนสติให้ญาติโยมว่า กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน เหตุสุดวิสัยมันเกิดกับพวกเราได้ทุกๆ เวลา ชีวิตเรานั้นแขวนอยู่บนเส้นด้าย ป้องกันกันไว้ออกนอกบ้านเมื่อไหร่ให้ใส่หน้ากากสองชั้นเป็นดี ขอเป็นขวัญกำลังใจให้ญาติโยมในการดำเนินชีวิตสืบต่อไป ขอให้โยมมีแต่ความสุขทั้งทางกาย ใจ และมีแต่ความโชคดีตลอดกาลนานเทอญ” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว