วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ภายหลังมีการยืนยันแล้วว่าทางการของประเทศเยอรมนี สามารถควบคุมตัวได้ที่สนามบิน นครแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อช่วงวันที่ 2 มิ.ย.ผ่านมา ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะกำลังเดินทางไปรับกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยแล้ว โดยความคืบหน้ามีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้เดินทางถึงสนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต พร้อมกับเข้ายืนยันตัวบุคคลอดีตพระพรหมเมธีที่ถูกกักตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งอยู่ภายในบริเวณสนามบิน เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศไทยได้ขอยกเลิกหนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เนื่องจากถูกร้องขอไม่ให้รับตัวอดีตพระพรหมเมธีเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้อดีตพระพรหมเมธีถูกควบคุมตัวเอาไว้และรอนำตัวเข้าสู่กระบวนการส่งตัวกลับประเทศ โดยขณะนี้ตำรวจไทยกำลังเตรียมการประสานข้อมูลเอกสาร รวมทั้งรายละเอียดข้อกฎหมายต่างๆเพื่อที่จะรับตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
ล่าสุดมีรายงานว่า คณะของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับเป็นเที่ยวบินที่ TG 921 วันที่ 6 มิ.ย. จำนวน 14 ที่นั่ง โดยเป็นการจองแบบบล็อกโซนซึ่งเป็นรูปแบบการจองตั๋วเพื่อเตรียมการนำตัวผู้ต้องหากลับประเทศ คาดว่าจะถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 06.25 น. ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวเพียงสั้นๆว่า ความคืบหน้าคดีของพระพรหมเมธีนั้น ตนคงไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ เพราะคงต้องรอให้คณะของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางกลับมาก่อนและจะเป็นผู้ให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 12.45 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามได้เดินทางไปนำตัว พระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯและเลขานุการส่วนตัวอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสฯ มาสอบสวนที่ กก.1 บก.ป. โดยเจ้าหน้าที่นำตัวเจ้าคุณปิงหลบเข้าอาคารทางประตูด้านข้างและได้กันสื่อมวลชนไม่ให้เข้าบันทึกภาพก่อนที่จะสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯได้เข้าค้นในกุฏิที่พักเมื่อวันที่ 24 พ.ค.และได้ให้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ใช้เครื่องมือพิเศษดูดข้อมูลทั้งหมดจากโทรศัพท์มือถือของเจ้าคุณปิง กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา บก.ปอท. ได้ประสานกลับมาว่าพบภาพอนาจารซึ่งเป็นภาพที่เจ้าคุณปิงได้เสพสังวาสกับฆารวาสเพศชาย ซึ่งปรากฎเป็นภาพนิ่งและภาพวีดีโอจำนวนหนึ่ง ชุดสืบสวนของกองปราบฯจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กระทั่งพิจารณาร่วมกันว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯจึงได้ไปนำตัวเจ้าคุณปิงมาสอบสวนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. และชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. ได้นำตัว พระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง เดินทางไปยังวัดสระเกศฯ เพื่อเข้าตรวจค้นภายในกุฏิเพิ่มเติมอีกครั้งและให้เจ้าคุณปิงลาสิกขาหลังจากที่เจ้าตัวแสดงความจำนงยอมสละสมณเพศด้วยตัวเอง เนื่องจากพฤติกรรมตนไม่เหมาะสมขณะอยู่ในเพศบรรพชิต ส่วนคดีอาญานั้นขณะนี้ยังไม่พบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดรวมทั้งในส่วนของคดีเงินทอนวัดด้วย ซึ่งหลังจากสึกแล้วกองปราบฯก็ปล่อยตัวไป
สำหรับเจ้าคุณปิงนั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นพระสงฆ์ที่มีความสนิทสนมกับวงการดารา ผู้จัดละคร และวงการบันเทิงจนมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นคนที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เจ้าคุณปิงยังเป็นผู้สนับสนุนโครงการปลูกต้นกล้ายาตราพุทธภูมิ ซึ่งเป็นโครงการบวชสามเณรของวัดสระเกศฯ ที่มีบรรดาเด็กผู้ชายเข้ามาร่วมบวชจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย ทั้งนี้เจ้าคุณปิงถือเป็นพระดาวรุ่งคนหนึ่งของวัดสระเกศฯ ก่อนหน้าที่จะอุปสมบทจบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากนั้นศึกษาทางธรรมจนจบเปรียญธรรม 3 ประโยค และจบการศึกษาพุทธศาสนามหาบัณฑิตจากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) ควบคู่กันด้วย เจ้าคุณปิงเป็นหนึ่งในพระที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็วเนื่องจากบวชมาเพียงแค่ 16 พรรษาแต่ได้เป็นถึงพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ราชทินนาม พระวิสุทธิศาสนวิเทศ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ครองสมณศักดิ์เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณฯ ทำหน้าที่พระฐานานุกรมในพระพรหมสิทธิ เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น
