เครือข่ายเยาวชน จี้บังคับใช้กฎหมายสถานหนัก กรณีคนเมายิงตำรวจเสียชีวิต หลังเตือนห้ามดื่มเหล้าในปั๊มน้ำมัน

0
280

วอนประชาชนช่วยเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสก่อนสถานการณ์บานปลาย ด้านเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับและเครือข่ายเยาวชนมอบเงินจากการระดมทุน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต

วันนี้ (16กุมภาพันธ์ 2563) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง พร้อมด้วย นายเจษฎา แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ กรุงเทพฯ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กว่า10 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้ ดำเนินคดีสถานหนักกับผู้ก่อเหตุและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กรณีวัยรุ่นชักปืนยิงตำรวจเสียชีวิต ในปั๊มน้ำมัน จังหวัดสุพรรณบุรี เหตุเข้าไปตักเตือน ห้ามปรามกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังตั้งวงดื่มเหล้า และเปิดเพลงเสียงดัง

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวของ ร.ต.ต.ชาญวิทย์ ดิษฐ์เจริญ อายุ 53 ปี หรือ หมวดโย่ง รอง สว.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี เข้าไปตักเตือนห้ามปรามกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนทั้งชายและหญิง กำลังตั้งวงดื่มเหล้า และเปิดเพลงเสียงดังอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จึงชักปืนออกมายิงตำรวจจนเสียชีวิต ข่าวนี้สร้างความสะเทือนใจและอยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชน เป็นการกระทำที่อุกอาจ และส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดความหวาดกลัว ด้วยคนที่มึนเมาครองสติไม้ได้อาจก่อเหตุอาละวาดทำร้ายร่างกาย และทรัพย์สินเกิดความสูญเสียได้  เพราะตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ระบุไว้ชัดเจนเรื่องสถานที่ห้ามขายห้ามดื่ม  อาทิ วัด สถานศึกษา สถานที่ราชการ รวมถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง  กำหนดวันเวลาขาย  การห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายให้คนเมาครองสติไม่ได้ ฯลฯ  คนเมาที่ขาดสติเหล่านั้นอาจเกิดความไม่พอใจ กลายเป็นปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชน  อีกทั้งในกรณีนี้ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอีกหลายมาตราเพราะเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานเสียชีวิตด้วย

สำหรับ ข้อเสนอเครือข่ายฯ ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีดังนี้ 1.เครือข่ายฯ ขอแสดงความเสียใจและขอให้กำลังใจกับครอบครัวของนายตำรวจที่เสียชีวิต และขอมอบเงินจำนวน 15,000 บาท ซึ่งมาจากการระดมของภาคีเครือข่ายที่ทำงานลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อมอบให้กับทางครอบครัวผู้สูญเสียผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2. ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีสถานหนักกับผู้ก่อเหตุ และผู้ที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ทุกราย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง  เฝ้าระวังและป้องกันปัญหาที่เกิดจากการที่คนเมาออกมาอาละวาด หรือการขายเหล้าให้กับคนเมาครองสติไม่ได้ จนทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เสียชีวิต ให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในสังคม 3.เครือข่ายฯสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ลดผลกระทบทางสังคมและคุ้มครองสุขภาพประชาชน และขอให้กำลังใจตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายรวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.ที่ผ่านมามีข่าวคนเมาครองสติไม่ได้  ก่อเหตุแทบทุกวัน ทั้งอาละวาดทำร้ายร่างกายพนักงานร้านค้าร้านสะดวกซื้อ ทำลายข้าวของ เพราะไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้นอกเวลาขาย ไม่ขายให้คนเมาครองสติไม่ได้ หรือกินดื่มในสถานที่ห้าม เมาแล้วอาละวาด จึงใคร่ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างกลไกในการดูแลรับแจ้งเหตุช่วยเหลืออย่างทันเวลา จากพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายดังกล่าวมิใช่แค่การว่ากล่าวตักเตือน และขอให้ประชาชนที่พบเห็นอย่าเพิกเฉย ช่วยกันแจ้งระงับแหตุก่อนเหตุการณ์บานปลาย

ด้าน นายเจษฎา กล่าวว่า ดื่มแล้วก่อเหตุถือเป็นอาญากร ถือเป็นพฤติกรรมที่อันตราย นี่ขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเตือนยังอุกอาจไม่เกรงกลัว แล้วถ้าประชาชนเข้าไปเตือนจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งถ้าเมาแล้วไปขับรถบนท้องถนนด้วย ความสูญเสียต่อผู้ร่วมทางจะมากมายขนาดไหน อย่าลืมว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มาจากอาการเมาของคนดื่ม ทั้งอุบัติเหตุเจ็บตาย อาชญากรรม ละเมิดทางเพศ ยิ่งในปั๊มน้ำมันห้ามขายห้ามดื่ม แต่พฤติกรรมสวนทางกับกฎหมายที่มีอยู่ พอสร่างเมาอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้ากฎหมายจะแรงขึ้น คุณจะมาโทษไม่ได้ เพราะคุณเองที่ทำให้กฎหมายต้องแรงขึ้น ฝากวิงวอนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยเป็นเกราะป้องกันประชาชน สุจริตชนให้ปลอดภัยจากน้ำเมา สุดท้ายนี้เครือข่ายขอให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย พวกเราเป็นหัวอกเดียวกันที่ความเมาขาดสติเข้ามาทำลายทำร้าย เงินที่พวกเราระดมกันได้แม้จะไม่มากมาย แต่นี่คือกำลังใจและการแสดงออกของกลุ่มคนที่คลุกคลีอยู่กับความสูญเสียเพราะฤทธิ์สุรา