เครือข่ายงดเหล้า และ สสส. จัดทัวร์นาเมนต์ฟุตซอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย และชิงถ้วยพระราชทานฯ ครอบคลุม 77 จังหวัด

0
160

คาดมีนักกีฬาและโค้ช ร่วมกว่า 13,500 คน จาก 796 ทีม ภายใต้แนวคิด “เพื่อนกันมันส์โนเอล” หวังใช้กีฬาสร้างคนสร้างทัศนคติที่ดีต่อการใช้ชีวิต และห่างไกลปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ยาเพสติดและการพนัน

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับ และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส) พร้อมด้วยกรมพลศึกษา ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงาน ปปส. จัดงานแถลงข่าวโครงการการแข่งขันกีฬาฟุตซอลเยาวชน SDN FUTSAL NO-L CUP 2021 -2022 Inspired by Thai PBS ชิงแชมป์ประเทศไทย และพิเศษปีนี้เป็นการ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราขสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “เพื่อนกันมันส์โนแอล” (ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน) ประเภทเยาวชนชายรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งความร่วมมือจัดกิจกรรมและสนับสนุนในการถ่ายทอดสดมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต

นายศรีสุวรรณ ควรขจร ประธานคณะกรรมการกำกับทิศ กลุ่มแผนงานรณรงค์เพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สสส.) กล่าวว่า สสส.ให้ความสำคัญกับเยาวชนในการสร้างเสริมสุขภาพ และการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยข้อมูลที่น่าห่วงเรายังมีเยาวชนที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ไฟฟ้า การพนันออนไลน์ รวมทั้งกัญชาสินค้าเสพติดตัวใหม่ที่แพร่หลายมากขึ้น โดยผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดปี 2564 พบว่าประเทศไทยมีผู้ดื่มสุราที่เป็นวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ร้อยละ 9.0 และสูบบุหรี่ประมาณร้อยละ 6.2 โดยเริ่มต้นดื่มสุราและสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อยมีผลต่อพัฒนาการของสมองและอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งการแก้ปัญหาโดยการส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกับหน่วยงานหลักในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในความร่วมมือดังกล่าว ทั้งนี้ โครงการจัดการแข่งขันกีฬา ฟุตซอลนี้นอกจากจะให้พื้นที่เด็กเยาวชนแล้ว โครงการยังให้ความสำคัญกับผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็ก ทั้งโค้ช และผู้จัดการทีม รวมทั้งผู้ปกครอง ที่จะให้โอกาสให้ประสบการณ์ที่ดีในการเล่นกีฬาเพื่อสร้างคน สร้างวินัย สร้างทักษะชีวิต หากได้โค้ชที่เข้าใจเด็กสร้างเด็ก เพราะการแข่งขันไม่ใช่อยู่ในสนามฟุตซอลเท่านั้น แต่ที่สำคัญไม่น้อยการแข่งขันนอกสนามคือทักษะการใช้ชีวิต เพราะเด็กๆ ที่มาร่วมแข่งขันหมื่นกว่าคนนี้ จะมีคนที่เป็นแชมป์ไม่กี่คน แต่คนที่ไม่ได้แชมป์เขาจะเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งโดยมีกีฬาและโค้ชที่ช่วยขัดเกลานั่นเอง

ดร.พัฒนพงศ์ พงษ์สกุล ผู้อำนวยการสำนักการกีฬา กรมพลศึกษา กล่าวถึงการสนับสนุนครั้งนี้ว่า กรมพลศึกษา มีพันธกิจขับเคลื่อนนโยบายด้านการออกกำลังกาย กีฬาและนันทนาการ พร้อมกับพัฒนาบุคลากร เผยเเพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม และวิทยาศาสตร์การกีฬา ให้มีมาตรฐาน สำหรับในทัวร์นาเมนต์การแข่งขันนี้ กติกาและระเบียบต่างๆ โดยจะมีคณะกรรมการกลางจากกรมฯ ไปตัดสินในรอบโซนและรอบประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการดูแลพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเยาวชนตั้งแต่เริ่มต้น การดูแลร่างกายการเตรียมตัว และกติกาการแข่งขัน และรู้เทคนิคต่างๆ ทั้งนี้ไม่ได้มุ่งการแข่งขันเพื่อเอาชนะ แต่ให้รู้จักรู้แพ้ลูกชนะรู้อภัย

ด้านนายคริษ อรรคราช รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างสรรค์เนื้อหาไทยพีบีเอส กล่าวว่า ทางไทยพีบีเอสมีแนวทางในการสนับสนุนกิจกรรมและสร้างพื้นที่ การแสดงออกสำหรับเยาวชนอย่างต่อเนื่องตามภารกิจสื่อสาธารณะ โดยเฉพาะด้านกีฬาเพื่อเยาวชน ไทยพีบีเอสเห็นว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานที่ยั่งยืนในการพัฒนากีฬาของประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาคนผ่านปรัชญาแห่งกีฬา เป็นการเตรียมคนที่มีคุณภาพเข้าสู่สังคม ปีนี้ได้เตรียมการถ่ายทอดสดการแข่งขันระดับภูมิภาคจำนวน 5 สนาม และอีก 1 สนามนัดชิงชนะเลิศ ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันในเกือบทุกช่องทางของไทยพีบีเอส เช่น Thai PBS ช่องหมายเลข 3 , ALTV ช่องหมายเลข 4 และ ทาง VIPA ที่เป็น Online Streaming อีกทั้งในปีนี้ทางสถานีจะมีการเพิ่มกิจกรรมการอบรมนักพากษ์กีฬาเยาวชนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มาเรียนรู้จากนักพากษ์กีฬา “น้าติง” อาจารย์สุวัฒน์ กลิ่นเกสร เป็นการส่งเสริมน้องๆ ที่มีใจรักกีฬาอยากเป็นนักพากษ์เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ในขณะที่นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า การแข่งขันแบ่งเป็นระดับจังหวัด 77 จังหวัด ซึ่งเริ่มการแข่งขันมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมนี้ จนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งโปรแกรมการแข่งขันแต่ละจังหวัดสามารถสอบถามได้ทางเพจเฟสบุ๊ค “SDN Futsal No L” หลังจากที่ได้ทีมชนะระดับจังหวัดแล้ว จะดำเนินการแข่งขันในระดับภูมิภาคจำนวน 9 ภูมิภาค (รวมโซนกรุงเทพฯ)ในเดือนมีนาคม เพื่อหาผู้ชนะระดับภูมิภาคมาแข่งขันในระดับประเทศเพื่อชิงแชมป์ ในวันที่ 20-23เมษายน 2566 ณ สนามกีฬานิมิบุตร ซึ่งจะมีทีมที่เข้าชิงแชมป์ทั้งหมด 16 ทีม ทั้งนี้ ทัวร์นาเมนต์นี้มีความพิเศษคือ เป็นการแข่งขันที่เน้นการสร้างประสบการณ์และทัศนคติในการเล่นกีฬาสำหรับเยาวชน คือ เน้นเบสิค เน้นมีน้ำใจ เน้นความเป็นเพื่อนได้รู้จักกันทั้งในสนามและนอกสนาม โดยเฉพาะโค้ชกีฬาเยาวชนที่จะใช้เกมส์แข่งขันในการพัฒนาทักษะต่างๆ ไม่ได้มุ่งเน้นผลการชนะเท่านั้น ซึ่งโครงการมีการจัดอบรมหลักสูตรโค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจ และคลีนิคฟุตซอลด้วย