ด่วน!! “อธิการบดี มจร” เน้นให้วิทยาลัยเขต วิทยาลัยในสังกัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ตั้งโรงทานช่วยเหลือปชช.อย่างเต็มกำลัง

0
759

พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะสำหรับกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลที่มีมาตรการจาก ศบค.อย่างเข้มงวดในการออกนอกเคหสถานและปิดแคมป์คนงานทำให้ผู้คนหลั่งไหลกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจัดกระจายกันอยู่ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นเหตุให้โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลประจำอำเภอ มีเตียงไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้ เช่น ในจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลสนามอีก 2 แห่งเต็มหมด แต่คนที่ติดเชื้อและยังรอเตียงยังมีอีกเป็นจำนวนมาก

ผู้คนที่ติดเชื้อร้องขอความช่วยเหลือ รอความหวัง รอเตียง กลายเป็นทุกข์ของคนทั้งประเทศ เป็นภาพที่ไม่มีใครอยากเห็น ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัด ต่างวิ่งหาสถานที่เพื่อขอจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกันอลหม่านไปหมด บางที่ก็น่าเห็นใจที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานที่ทางการท้องถิ่น ต่างปฏิเสธไม่ขอเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลสนาม ปฏิเสธด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ทั้งที่หน่วยงานเหล่านั้นล้วนได้รับงบประมาณจากภาครัฐซึ่งเป็นภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ โดยพระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี ได้ตระหนักถึงทุกข์ครั้งใหญ่ของคนในประเทศในครั้งนี้ จึงมีนโยบายให้วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ในสังกัดทั่วประเทศให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังและขอให้ทุกที่ทุกแห่งให้ความร่วมมือกับฝ่ายบ้านเมืองในแก้ปัญหาของประเทศชาติในครั้งนี้ เช่น จัดตั้งโรงทานแจกอาหารกระจายไปในทุกภูมิภาคของประเทศ บริจาคสิ่งของที่จำเป็นและขาดแคลนให้กับโรงพยาบาลสนาม เป็นต้น

“บัดนี้เมื่อทางการขาดแคลนสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยพระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกรรมการวิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด พระครูวาปีจันทคุณ ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าและนิสิตได้ร่วมใจกันเสียสละยกห้องประชุมใหญ่วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ดให้เป็นสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 ของจังหวัดเพื่อช่วยชีวิตประชาชนคนร้อยเอ็ดด้วยกัน” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ พระอุดมปัญญาภรณ์ รักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดยินยอมให้จังหวัดมาเปิดเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและรักษาชีวิตประชาชนชาวศรีสะเกษ

ในส่วนภาคเหนือ ทั้งวิทยาลัยสงฆ์ ปัตตานี สุราษฎร์ธานีและวิทยาเขตนครศรีธรรมราช ต่างก็เร่งทำงานช่วยเหลือประชาชนเท่าที่มีกำลังเพียงพออย่างเต็มกำลัง

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี วิทยาเขตหนองคาย ขอนแก่น อุบลราชธานี สุรินทร์ นครราชสีมา วิทยาลัยสงฆ์เลย ชัยภูมิ นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยินดีให้ความร่วมมือและขณะนี้ทุกแห่งก็ต่างทำโรงหรือบริจาคสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นในทุกที่ทุกแห่ง

ภาคเหนือมีวิทยาเขตเชียงใหม่ แพร่ พะเยา นครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน พุทธชินราช พิษณุโลก น่านเฉลิมพระเกียรติ ลำปาง เชียงราย พ่อขุนผาเมือง เพชรบูรณ์ พิจิตร อุทัยธานี ต่างก็ปฏิบัติกิจในการให้ความช่วยเหลือประชาชนเช่นเดียวกัน

ภาคกลางวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร ฉะเชิงเทรา ราชบุรี พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไร่ขิง สุพรรณบุรี ระยอง เพชรบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี ต่างก็ทำงานหนักในเรื่องนี้ไม่แพ้กัน

    “นี่คือภารกิจของชาวมหาจุฬาฯที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และให้ใช้สถานที่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในคราวที่เพื่อนร่วมชาติมีความทุกข์และวิกฤติอย่างแสนสาหัส” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวทิ้งท้าย