“หลวงพี่น้ำฝน” เวทนาผู้ติดเชื้อโควิด ตกงานไม่มีจะกิน เตือนมิจฉาชีพฉกฉวยโอกาสขอบริจาคเงินสด อย่าตกเป็นเหยื่อ

0
235

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม กล่าวว่า ขณะนี้ได้เริ่มมีกลุ่มมิจฉาชีพหรือพวกเหลือบสังคม ได้พยายามติดต่อเข้ามาเพื่อขอรับบริจาคเงินสดโดยอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งบางรายอาจใจบุญร่วมบริจาคโดยไม่ได้เช็คว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ จึงอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพนี้ได้

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีนี้อาตมาได้ประสบกับตัวเอง โดยมีคนโทรเข้ามาที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือซึ่งได้บอกว่าเป็นแม่ชี อาศัยอยู่ทางภาคอีสานตอนบน จะขอรับเงินสดบริจาค เพื่อจะไปช่วยคนที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเมื่อได้พยายามสอบถามไปว่าจะขออะไรให้ช่วยอย่างไร พวกมิจฉาชีพก็จะเน้นไปทางเงินสด ซึ่งเมื่อให้บอกลายละเอียดทั้งหมดว่าต้องการเป็นสิ่งของอะไรที่ขาดแคลนและมีความต้องการสิ่งใดก็เงียบไป พยายามจะติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้ บางรายก็จะโทรเข้ามาคุยทำตีสนิทว่าเคยเป็นคนที่มาร่วมทอดกฐินที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งจะมาขอเงินบริจาคเช่นกัน ซึ่งก็ได้บอกว่าจำไม่ได้และขอให้มีการส่งภาพใบหน้าหรือมีการลงทะเบียนและแอดไอดีของแอพลิเคชั่นไลน์ เพื่อติดต่อขอดูว่าเป็นคนรู้จักหรือไม่ ก็อ้างว่าไม่สามารถส่งได้เพราะโทรศัพท์เพิ่งหายไป จากนั้นก็วางหูและเงียบหายไปติดต่อกลับก็ติดต่อไม่ได้  นอกจากนี้บางรายมาถึงวัด บอกอยู่ห้องเช่าค้างค่าเช่าหลายเดือนเจ้าของบ้านจะให้ขนของออกทันทีถ้าไม่จ่ายเงิน จะมาขอยืมเงินอาตมาก่อนเพื่อไปจ่ายค่าห้องไม่อย่างนั้นไม่มีที่อยู่  อาตมาจึงบอกขอเบอร์เจ้าของห้อง พวกมิจฉาชีพก็อ้างว่าจำไม่ได้ อาตมาจึงให้ไปขอมา พอไปแล้วไปลับไม่มาเพราะอาตมารู้เท่าทันคนพวกนี้

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้คนกำลังลำบาก ซึ่งวัดต่างๆ หรือคนใจบุญ ญาติโยมก็กำลังย่ำแย่ บางครอบครัวตกงาน บางครอบครัวติดโควิด ไม่มีจะกิน ซึ่งโดยหลักการขอความช่วยเหลือจริงๆ ก็สามารถไปได้หลายแห่งทั้งที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่ละจังหวัด หรือจะเป็นหน่วยงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จังหวัด ซึ่งถ้าจะมาติดต่ออาตมาแบบไม่รู้จักกันมาก่อนก็ดูว่าไม่เป็นเหตุเป็นผล แต่ก็จะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาบ้าง ซึ่งจะต้องมีการระมัดระวัง เราต้องรู้เท่าทันมิจฉาชีพที่กำลังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งอาตมาจะเรียกว่าพวกนี้ว่าเหลือบที่จะเข้ามา และมีในทุกสาขาอาชีพ โดยวัดหรือผู้ใจบุญก่อนที่จะจ่ายเงินให้ไป หากไม่คิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างมีเหตุผลก็จะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพนี้ได้ โดยเฉพาะช่วงนี้กลุ่มคนที่ออกมากระทำเรื่องเหล่านี้ถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะเป็นการทำร้ายคนที่เดือดร้อนและซ้ำเติมความทุกข์ยากให้กับคนไทยด้วยกันเอง