ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ ณ ร้านฯ พุทธมณฑลสาย 4 พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ เปิดโรงทานกินฟรี!! มอบทุนการศึกษานักเรียนยากจน 80 ทุน แจกผ้ายันต์ปลามหาลาภ ตำรับหลวงพ่อพูล แก่ทุกท่านที่ร่วมงาน
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ในทุกๆ ปีคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม ร่วมกับร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ พุทธมณฑล สาย 4 โดยในปีนี้ได้เตรียมจัดงานทำบุญใหญ่ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเชิญประชาชนทุกท่านร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.09 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 11.09 น. ถวายภัตตาหารเพล เวลา 12.09 น. มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน จำนวน 80 ทุน พร้อมเปิดโรงทานเลี้ยงอาหารฟรีตลอดทั้งวัน และที่สำคัญผู้ร่วมงานทุกท่านจะได้รับแจก “ผ้ายันต์ปลามหาลาภ” ตำรับหลวงพ่อพูลอีกด้วย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ เปิดมานานนับ 50 ปี โดยมีคุณโยมสมชาติ สาลีพัฒนา หรือนายเงี๊ยบ เป็นเจ้าของร้าน เปิดร้านครั้งแรกที่ศาลเจ้าพ่อเสือ จากนั้น พ.ศ.2515 เปิดสาขาบางขุนนนท์ และที่พุทธมณฑลสาย 4 เปิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2527 จวบจนปัจจุบัน และบัดนี้ที่พุทธมณฑล 4 ปรับปรุงร้านใหม่เสร็จสมบูรณ์แล้ว บัดนี้ครบ 50 ปีบริบูรณ์ คุณโยมเงี๊ยบจึงสร้างกุศลด้วยการคืนกำไรให้ลูกค้าที่อายุ 85 ปีขึ้นไป ทานฟรี ส่วนพระสงฆ์นั้นถวายฉันฟรีมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน ที่สำคัญทางร้านทำโรงปลูกเพาะถั่วงอกเพื่อใช้กับก๋วยเตี๋ยวด้วยเช่นกัน สำหรับรายได้ที่เป็นกำไรนำไปทำบุญร่วมกับกองทุนหลวงพ่อพูล มอบอุปกรณ์การแพทย์และมอบเตียงให้โรงพยาบาล และงานสาธารณสงเคราะห์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องตลอดมา
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา คุณโยมสมชาติ สาลีพัฒนา หรือนายเงี๊ยบ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมออกร้านในงาน “30 ร้านอาหารในกทม. จากตำนานรุ่นสู่รุ่น มรดกวัฒนธรรมทางอาหาร” ณ KTC POP โดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เฟ้นหาร้านอาหารเก่าแก่ในกทม.ที่มีอายุเกิน 30 ปีไปจนถึง 100 ปี ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เพื่อเผยแพร่ร้านอาหารเก่าแก่ระดับตำนานให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและส่งเสริมให้ร้านอาหารเหล่านี้ยังคงอยู่ และสืบเนื่องจากร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 30 ร้านอาหารที่ทรงคุณค่า ควรแก่การจารึกเป็นตำนาน โดย นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางฐนิวรรณ กุลมงคล รองประธานสภาอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมภัตตาคารไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมภัตตาคารไทย “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ สถานีวิทยุแทรเวล เรดิโอ เอฟเอ็ม 104.5 บุญรอด เทรดดิ้ง ผู้ผลิตน้ำดื่มสิงห์ และบริษัท ณัฐสุรงค์ จำกัด
ด้านนายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นเมืองแห่งอาหารการกิน เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร ในขณะที่กรุงเทพมหานครก็เป็นเมืองที่มีร้านอาหารมากมาย ร้านอาหารและภัตตาคารหลายแห่งมีประวัติอันยาวนาน สืบทอดการปรุงอาหารจากรุ่นสู่รุ่น แทบจะเรียกได้ว่าสูตรการปรุงอาหาร เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ที่ตกทอดจากบรรพบุรุษสู่คนรุ่นหลัง จึงเป็นจุดหมายปลายทางของนักชิมจากทั่วโลก กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจึงได้ร่วมกับพันธมิตร เลือกร้านอาหารเก่าแก่ในกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุเกิน 30 ไปจนถึง 100 ปีขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ร้านอาหารระดับตำนาน ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและส่งเสริมให้ร้านอาหารเหล่านี้ยังคงอยู่ โดยจัดพิมพ์หนังสือและจัดทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถส่งต่อกันในโลกโซเชียล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ร้านอาหารเก่าแก่เหล่านี้ ได้คงอยู่ต่อไป
ขณะที่นางฐนิวรรณ กุลมงคล ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของสมาคมภัตตาคารไทย คือการก่อตั้งมาเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาร้านอาหารไทย ให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ให้เป็นที่ยอมรับสู่ระดับสากล และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อเป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ทางสมาคมจึงมีแนวคิดจัดทำโครงการร้านอาหารในตำนานขึ้น ตลอดเวลา 100 กว่าปีก่อนจนถึงปัจจุบัน จะเห็นถึงการพัฒนาธุรกิจร้านอาหารในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นมากมายแตกต่างกันไปตามยุคสมัย
