เมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 ที่วัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในนามองค์ประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล กองทุนหลวงพ่อพูล กองทุนสวดเผาฟรีวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในพิธีบวงสรวงซ่อมแซมและสร้างเตาเผาศพปลอดมลพิษ ของวัดไผ่ล้อม เริ่มพิธีด้วยการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย โดยมีนายสมชาติ (นายเงี๊ยบ) สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ท่ามกลางคณะศิษยานุศิษย์ร่วมในพิธี
เมื่อเริ่มพิธีการ เวลา 09.09 น. อาจารย์เบ๊นซ์ บัณฑิตศิษย์มีครู เป็นผู้ดำเนินพิธีกล่าวอัญเชิญเทพยดา บูรพาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษา คุ้มครองในเขตสังฆมณฑลวัดไผ่ล้อมเพื่อโปรดเมตตาประทานพรให้คณะศิษยานุศิษย์ และผู้ที่ร่วมบุญกับวัดไผ่ล้อม ตลอดจนผู้สร้างคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ระหว่างนั้นนายเงี๊ยบ ประธานฝ่ายฆราวาส ได้เปิดเครื่องเซ่นสังเวย
ขณะทำพิธีหลวงพี่น้ำฝน ได้จุดธูปมงคล ปรากฏมีเลขขึ้น 205 โดยก่อนหน้านี้ได้มีพิธีเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายที่ 150 มีอายุ 98 ปี ที่วัดไผ่ล้อมได้ทำพิธีฌาปนกิจ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมรุเผาศพวัดไผ่ล้อม ได้เผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) มาอย่างต่อเนื่องวันละหลายศพ ทำให้เกิดความร้อนสะสม อิฐทนไฟต่างๆ รวมทั้งปล่องปูนระบายความร้อนได้แตกร้าวหักตกใส่หลังคาเป็นที่หวาดผวา เมื่อตรวจสอบก็พบว่าปล่องควันเริ่มร้าวมากขึ้นหลังจากไม่ได้หยุดพักกว่า 2 ปี หลวงพี่น้ำฝน จึงได้หารือคณะศิษย์ และเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะต้องมีการซ่อมเตาเผาศพพร้อมจัดสร้างเตาเผาศพปลอดมลพิษให้เป็นแบบคู่มาติดตั้ง เพื่อสามารถรองรับในการเผาศพจากวันละ 3 ศพ ให้สามารถเผาเตาคู่ได้ถึง 6 ศพต่อวัน และสามารถเพิ่มกำลังไปได้ถึงวันละ 8 ศพ โดยมีการวางแผนเพื่อยกระดับอุปกรณ์ ไม่มีการหยุดรับเผาร่างผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยพิธีการก็ยังครบถ้วนคงเดิม และจากสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ทางวัดยังคงมีพระหน้าที่เผาศพช่วยเหลือรวมถึงหน้าที่อื่นๆ ที่ต้องช่วยสังคมในสถานการณ์นี้เพื่อให้เป็นวัดของประชาชนอย่างแท้จริง
สำหรับพิธีการบวงสรวงนั้น ตั้งแต่โบราณกาลมา มนุษย์ให้ความนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดา เป็นผู้ชี้ชะตานำทางชีวิตในทุกๆ การตัดสินใจ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ในชีวิต สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ “การบวงสรวง” เทวดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
“การบวงสรวง” คือการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในลักษณะการอัญเชิญ เพื่อให้เกิดสิริมงคลกับตัวเอง กิจการงานต่างๆ หรือเป็นการขออนุญาตก่อนจะเริ่มทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งอาจเป็นการรบกวนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการแสดงตนว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่จากการกระทำนั้นๆ
หลังเสร็จพิธีการบวงสรวงในช่วงเช้า หลังจากนั้นในเวลา 21.59 น. ได้มีพิธีการไหว้ขอขมาเตาเผาศพที่เผาร่างผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาถึง 16 ปีแล้ว โดยมีหลวงพี่น้ำฝน องค์ประธานในพิธีจุดธูปมงคล เลข 903 และจัดเครื่องเซ่นไหว้ สำรับคาว-หวาน พร้อมคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม และคณะศิษยานุศิษย์วัดไผ่ล้อมสวดมนต์ อธิฐานจิตแผ่เมตตาและบังสุกุล ให้แก่ดวงวิญญาณทั้งหลาย พร้อมกันนี้ อาจารย์เบ๊นซ์ บัณฑิตศิษย์มีครู และคณะได้ดำเนินพิธีการทั้งแบบจีน ด้วยการสวดมนต์จีนและไทย เชิญดวงวิญญาณต่างๆ มารับเครื่องเส้นไหว้ ทั้งคาวและหวาน เพื่อให้ถูกต้องก่อนที่ทำการซ่อมแซมและสร้างเตาเผาใหม่ รวมทั้งเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ได้มาทำการฌาปนกิจที่เมรุวัดไผ่ล้อม ก่อนหน้านี้
การสร้างเมรุเผาศพนั้น เป็นการสงเคราะห์ผู้อื่น การที่จะสร้างเมรุเผาศพไม่ว่าจะเป็นลักษณะใด ราคามากน้อยปานใด ถ้าผู้สละทรัพย์มีจิตหวังในบุญกุศล มิได้หวังผลอย่างใดตอบแทน เป็นกรรมสุจริต ผลิตผลในทางดี อานิสงส์ที่ได้จะแรงกล้า ส่งผลดี ๆ กลับมาหาเราในเรื่องต่าง ๆ ดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า จะทำให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือหากเจ็บป่วยอยู่ก็จะทำให้หายวันหายคืน ทุเลาเบาบางลงได้ ทำให้มีอายุยืน มีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นเคล็ดช่วยต่อดวงชะตา ทำให้วิบากกรรมได้เบาบางลง ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความเจริญในทรัพย์สินไม่มีขาดมือ ทุกชาติที่เกิดนั้นไม่เป็นทุกข์ เพราะผลกรรมชั่ว เพราะการสร้างเชิงตะกอนหรือเมรุนั้นเป็นกุศลกรรม เสมือนเพื่อนที่เตือนคอยสะกิดไม่ให้ทำชั่วนั่นเอง
หลังเสร็จพิธีการ กลุ่มนักเสี่ยงโชคต่างจับกลุ่มคุยเรื่องเลขธูปมงคลในพิธีช่วงเช้า 205 และ เลข 903 ในช่วงค่ำ ต่างนำเลขไปเสี่ยงโชคที่แผงลอตเตอรี่จนเกลี้ยงแผงทุกเลขเลยทีเดียว และในส่วนผู้จะร่วมทำบุญซ่อมและสร้างเตาเผาศพปลอดมลพิษ สามารถร่วมบุญได้ที่ ชื่อบัญชี กองทุน สวดเผา ฟรี วัดไผ่ล้อม นครปฐม เลขบัญชี 516-1-01179-9 ธนาคารกสิกรไทย
