วันที่ 22 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้เบาะแสจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครนครปฐม ซึ่งติงถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุสงฆ์เกี่ยวกับการออกรับบิณฑบาตในช่วงเช้า เนื่องจากพระภิกษุสงฆ์มักจะยืนรอเป็นเวลานานที่หน้าร้านจำหน่ายแกงถุงสำเร็จรูป หรือหน้าร้านขายของใส่บาตรอาหารทำบุญ โดยยืนปักหลักอยู่กับที่ บางรายมีเก้าอี้มานั่งรับบิณฑบาตพร้อมกับมีรถเข็นขนาดเล็กสำหรับใส่สิ่งของสัมภาระต่างๆ ซึ่งพุทธศาสนิกชนเห็นแล้วเกิดความไม่พอใจและไม่สบายใจกับพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากยังมองว่าเป็นเรื่องของธุรกิจระหว่างพระสงฆ์กับพ่อค้าแม่ค้าที่วนเวียนนำของใส่บาตรแล้วกลับมาขายใหม่
โดยเมื่อช่วงเช้า(22 เม.ย.) ที่ผ่านมา นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม ร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 (ประธานคณะพระวินยาธิการ) พร้อมพระวินยาธิการในพื้นที่ มีพระครูทักษิณานุกิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้ เจ้าคณะตำบลพระปฐมเจดีย์ เข้าร่วม เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สังคม จึงร่วมกันตรวจสอบพระภิกษุสงฆ์ที่ออกบิณฑบาตในช่วงเช้า เมื่อไปถึงพบว่าตรงตามกับที่ได้รับแจ้งจริง โดยจุดแรกเป็นที่ตลาดเช้าซอย 2 เขตเทศบาลนครนครปฐม พบเห็นพระสงฆ์ยืนรอรับบิณฑบาตโดยไม่มีการเดิน ยืนปักหลักอยู่กับที่ ในจุดที่สองบริเวณด้านหน้าประตูองค์พระปฐมเจดีย์ พระสงฆ์ยืนรอรับบิณฑบาต เมื่อสอบถามทราบว่าเป็นพระลูกวัดของวัดห้วยจรเข้ และวัดทุ่งน้อยสามัคคี ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม โดยจะยืนไปจนถึงเวลา 8 นาฬิกาเศษ และมีการซ้อนท้ายรถ จยย.ออกมาทั้งไปและกลับ เมื่อหลวงพี่น้ำฝน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ไปถึง ได้ไปเข้าตักเตือน โดยพระบางรูปแสดงอาการมาพอใจ อ้างว่าไม่ได้ทำอะไรผิด หรือผิดวินัยสงฆ์
หลวงพี่น้ำฝน เปิดเผยว่า สำหรับในวันนี้ได้มาตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เนื่องจากอาตมาเป็นประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ที่แต่งตั้งโดย พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้ออกคำสั่งและเชิญคณะสงฆ์ในสังกัดจัดตั้งคณะทำงาน รูปแบบคณะทำงานเฉพาะกิจ เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สังคม บ่อยครั้งซึ่งการบริหารงานจึงจำเป็นต้องก้าวทันโลกและก้าวให้ทันข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีทั้งสื่อหลักและข่าวสารในรูปแบบต่างๆ โดยได้กำหนดให้มีการทำงานภายใต้อำนาจของเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด โดยมีจุดประสงค์ ดำเนินการช่วยวินิจฉัย แก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุและแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียน ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า วันนี้คณะทำงาน ร่วมกับนายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม(พศจ.นครปฐม) เพื่อร่วมมือกันปรับปรุงแก้ไข ซึ่งในตอนเช้าจะมีญาติโยมมาทำบุญใส่บาตรมาก แต่ไม่เหมาะสมหากพระมายืนปักหลัก เนื่องจากมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ มีสาธุชนตำหนิติเตียน จึงต้องมีการตรวจสอบดูแล สำหรับวันนี้ก็มีบทลงโทษโดยการว่ากล่าวตักเตือนและจะแจ้งไปยังเจ้าอาวาสในแต่ละวัด ว่าควรดำเนินการแก้ไขอย่างไร เนื่องจากมีประชาชนแจ้งเข้ามามาก ว่าพระบางรายมีการรับจ้างให้มายืนรับบิณฑบาต และนำสิ่งของทำบุญมาวนเวียนขายใหม่ เวียนกันไปขายกันมา นี่คือข้อร้องเรียน ที่ได้รับการร้องเรียนกันเป็นประจำ เกี่ยวกับเรื่องของพระบิณฑบาต
ด้านนายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม กล่าวว่า ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบหลังจากที่ได้รับการร้องเรียนว่าพระไม่ได้เดินบิณฑบาตแต่เป็นการยืนปักหลักรับของอยู่กับที่ และของทำบุญถูกหมุนเวียนกลับไปขายต่อ เป็นข้อร้องเรียนที่มีการร้องเรียนมาโดยตลอด เป็นเรื่องราวที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ วันนี้ก็ออกมาตรวจสภาพโดยทั่วไป
หนึ่งในพระสงฆ์ที่ออกมาบิณฑบาต เปิดเผยว่า อาตมาออกมาบิณฑบาตแล้วกลับวัดประมาณ 8.10 น. ซึ่งสิ่งของทำบุญเหล่านี้ที่ได้มาก็จะนำไปกลับวัด เพราะวัดอยู่อย่างยากลำบาก มีพระพิการ พระอาพาธและบางรูปก็มองไม่เห็น อาศัยอยู่ ส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครเข้ามาช่วยดูแล จะมีแต่คนเข้ามาจับผิดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับพระสงฆ์ที่ออกมาบิณฑบาตเป็นอย่างยิ่ง และมีอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้มีเหตุรุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก่อนพระทั้งหมดจะนั่งรถจักรยานยนต์เดินทางกลับวัด
*****************************************************************
