บอกน่าอนาถใจ พ่อป่วยเป็นมะเร็งอยู่เชียงราย แม่อยู่พื้นที่สีแดง มาไม่ได้ ไม่มีนายจ้าง-เพื่อนร่วมงาน จัดเจ้าหน้าที่เป็นประธานร่วมถวายปัจจัย ทำพิธีส่งสู่ภพภูมิครบกระบวนการ
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมด้วยคณะสงฆ์จัดพิธีฌาปนกิจเร่งด่วนให้กับร่างของนางสาวศิริพร คำมา อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอด ที่โรงพยาบาลนครปฐม เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยไม่มีญาติ เพื่อนร่วมงาน มาร่วมพิธี มีเพียงคณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อมร่วมทำพิธี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย เศร้าสลด แม้แต่ภาพหน้าโลงศพก็ไม่มีการประสานงานเพื่อขอนำมาตั้งให้ดูหน้าเป็นครั้งสุดท้ายได้
ในพิธีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน ให้เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์และดำเนินการจัดการพร้อมกับมีการไลฟ์สดผ่านโซเชียลออนไลน์ ให้กับญาติมิตรและผู้ใจบุญที่ติดตามดูสถานการณ์ของการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดหนักในขณะนี้ ทั้งนี้เมื่อรถของเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลนครปฐม มาถึง ได้นำโลงศพขึ้นสู่เตาเผาทันที ซึ่งในพิธีการหลวงพี่น้ำฝน ได้ให้เจ้าหน้าที่วัดในแผนกต่างๆ มาร่วมเป็นผู้ทอดผ้ายังสุกุลและจัดหาเครื่องสังฆทานและใส่ซองถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ เพื่อส่งบุญกุศลครั้งสุดท้าย เป็นการจัดพิธีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักประเพณี
หลวงพี่น้ำฝน เผยว่า กรณีเผาศพให้นางสางศิริพรครั้งนี้ เป็นที่น่าเวทนาอีกกรณีหนึ่ง เนื่องจากสอบถามจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนครปฐม ทราบว่าไม่มีใครมาร่วมงานได้เลย เนื่องจาก ผู้ตายนั้นเป็นคนงานก่อสร้างที่มาทำงานในพื้นที่จังหวัดนครปฐม แต่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขนาดยังเป็นสาวมีร่างกายแข็งแรงแต่เชื้อบังลงปอดทำให้เสียชีวิต และที่น่าเวทนาคือ ความยากจน ประกอบกับบิดาได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งและพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ส่วนมารดานั้นอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงไม่สามารถมาร่วมงานได้ แม้แต่เพื่อนคนงาน หรือนายจ้างก็ไม่ได้มีใครมาร่วมส่งดวงวิญญาณให้
“อาตมา พร้อมที่จะดูแลเรื่องนี้ซึ่งทางวัดไผ่ล้อม มีกองทุนสวดเผาฟรี ก็ได้ดำเนินการให้อย่างเรียบร้อย ซึ่งวันนี้ญาติๆ ผู้เสียชีวิตก็ไม่มีใครมาร่วมงาน อาตมาได้ให้เจ้าหน้าที่ในแผนกต่างๆ มาช่วยจัดงาน และร่วมพิธี โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการรวบรวมปัจจัยถวายพระสงฆ์ที่สวดพระอภิธรรม บังสุกุลรวมถึงทำบุญกรวดน้ำไปให้ครบตามกระบวนการ จึงนับเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจอีกเรื่องหนึ่ง และขอเตือนให้ประชาชนอย่าการ์ดตก เพราะทราบมาว่ายังมีผู้ป่วยอาการหนักอีกหลายรายที่ยังรักษาตัว โดยช่วงนี้ก็ยังมีการตายรายวัน จึงขอให้ประชาชนตั้งมั่นฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้ ส่วนใครที่เสียชีวิตอนาถา ทางวัดไผ่ล้อมก็ไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว
*****************************************************************
