สำนักพุทธฯ ยืนยันความจำเป็นพระสงฆ์ต้องได้รับเงินเยียวยาโควิด

0
482

นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับพระสงฆ์ ในการระบาดระลอกใหม่นี้ ยอมรับว่าจะต้องเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากในการระบาดระลอกแรกยังไม่พบพระสงฆ์ติดโควิด-19 แต่ในการระบาดระลอกที่สองนี้ พบว่ามีพระสงฆ์วัดในจ.นนทบุรีติดโควิด-19 แล้ว 4 รูป เป็นระดับเจ้าอาวาส 1 รูป และพระลูกวัด 3 รูป ซึ่งพระทั้ง 4 รูป ได้มีการรับกิจนิมนต์ไปในพื้นที่ควบคุมการระบาดสูงสุด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในคณะสงฆ์ พศ.จึงได้มีหนังสือแจ้งไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.) และคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ขอให้งดรับกิจนิมนต์ไปในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุด คือสมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทั้งนี้การระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่สองนี้ ไม่ถึงกับทำให้การปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์ทำไม่ได้ แต่ในการปฏิบัติศาสนกิจจะต้องทำตามมาตรการการควบคุมการระบาดของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อย่างเคร่งครัด  เช่น งดกิจกรรมที่รวมคนจำนวนมาก เป็นต้น ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าพระสงฆ์มีการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ทั้งยังมีหลายวัดในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ที่พร้อมให้เปิดพื้นที่วัดใช้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามด้วย

ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการพศ. ในฐานะโฆษกพศ. กล่าวว่า กรณีเงินเยียวยาพระสงฆ์จากการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลพศ. มีความห่วงใย และสั่งการมายังผอ.พศ.แล้ว และผอ.พศ.ได้มอบตนให้มาดูในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากในการขอรับเงินเยียวยาในการระบาดระลอกแรกจำนวน 60 บาทต่อรูปต่อวันนั้น ยังไม่ได้รับ เพราะทางคณะกรรมการที่พิจารณาในเรื่องนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คณะสงฆ์มีความพร้อมและได้รับปัจจัยต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วมีเพียงไม่กี่วัดที่มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่า พศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเข้าใจความลำบากของพระสงฆ์ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยขณะนี้ทางพศ.ได้ทำรายละเอียดชี้แจงยืนยันถึงความจำเป็นให้กับนายอนุชาแล้ว