วันนี้ (11 พ.ค.64) มีประกาศจากโรงพยาบาลวังทรายพูน จ.พิจิตร เรื่อง พระครูพิพิธธรรมาทร (หวั่น แพนนท์) มรภาพ โดยระบุว่า สืบเนื่องจากวันที่ 21 มีนาคม 2564 คณะแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี นิมนต์พระครูพิพิธธรรมาทร(หวั่น แพนนท์) มาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวังทรายพูน โดยมีคณะแพทย์ของโรงพยาบาลวังทรายพูนให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
ในวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564 พระครูพิพิธธรรมาทร มีอาการไข้ ความดันโลหิตต่ำ รับอาหารทางสายยางได้น้อยลงและปัสสาวะออกน้อย มีอาการปอดติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ร่วมกับมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอยู่เดิม คณะแพทย์ได้ทำการตรวจเลือดและพบว่ามีภาวะเลือดเป็นกรด สมดุลเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ จึงได้พิจารณาปรับยาปฏิชีวนะ และยาลดความเป็นกรดของเลือด ซึ่งคณะแพทย์ได้ทำการรักษาอาการอาพาธอย่างสุดความสามารถ แต่อาการอาพาธไม่ทุเลาลงและได้ทรุดลงตามลำดับ ถึงวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564 เวลา 17.00 นาฬิกา พระครูพิพิธธรรมาทร มรภาพ ณ โรงพยาบาลวังทรายพูน ด้วยอาการสงบ
ทางโรงพยาบาลวังทรายพูนจึงประกาศให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกันและขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการมรณภาพของพระครูพิพิธธรรมาทร อันเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทุกคน
“พระครูพิพิธธรรมาทร” หรือ หลวงพ่อหวั่น กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดคลองคูณ ต.คลองคูณ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร สิริอายุ 85 ปี พรรษา 65 เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ก.ย. 2478 ที่บ้านคลองคูณ หมู่ 2 ต.คลองคูณ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ชีวิตในช่วงเยาว์วัย เป็นเด็กที่สัมผัสชีวิตอยู่กับธรรมชาติในชนบท มีจิตใจสงบเยือกเย็น ใกล้ชิดกับวัด ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญฟังธรรมอยู่เสมอ ช่วยเหลือประกอบอาชีพเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เท่าที่กำลังจะทำได้ เมื่อเติบโตขึ้นสมควรได้รับการศึกษาเล่าเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดคลองคูณจนจบชั้นประถมปีที่ 4 ภาคบังคับ จากนั้นออกมาช่วยเหลือครอบครัว เลี้ยงวัวควาย และประกอบอาชีพหลักเกษตรกรรม
เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 7 ก.ค.2499 มีพระครูพิเศษธรรมรัตน์ วัดหาดแตงโม อ.ตะพานหิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกานนท์ วัดไผ่หลวง เป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระธรรมธร สง่า วัดไซลงโขน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “กุสลจิตโต” มีความหมายว่า ผู้มีจิตในธรรมอันเป็นกุศล หลังอุปสมบท ท่านตั้งใจแน่วแน่ในการสวดท่องเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานให้ช่ำชองคล่องแคล่ว เมื่อบวชได้ 3 พรรษา ได้รับมอบหมายให้เป็นพระพี่เลี้ยงดูแลอบรมพระนวกะภายในวัด และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส พ.ศ. 2503 เนื่องจากเจ้าอาวาสรูปก่อนมรณภาพ ครั้นบวชได้ 5 พรรษา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองคูณรูปที่ 9 ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ศึกษาพุทธาคม อักขระเลขยันต์จากโยมพ่อหมึก ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่จันทร์ อดีตเจ้าอาวาส ศึกษาตำราเก่าแก่ของหลวงปู่โพธิ์ วัดวังหมาเน่า รวมทั้งพระอาจารย์รอด และหลวงพ่อจันทร์ วัดคลองคูณ พระเกจินามอุโฆษในอดีต
หลวงพ่อหวั่น เป็นพระเกจิที่มีปฏิปทางดงาม เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาว อ.ตะพานหิน และจังหวัดใกล้เคียง กิจวัตรประจำวันท่านจะออกมานั่งรอต้อนรับญาติโยมและลูกศิษย์ ที่เดินทางมากราบนมัสการทุกวัน มีเมตตาสูงกับเหล่าศิษย์อย่างเท่าเทียมกันหมด ชาวบ้านที่เข้ามากราบนมัสการขอความอนุเคราะห์ ในเรื่องต่างๆ เช่น ดูฤกษ์ยาม ดูฤกษ์งานมงคล งานขึ้นบ้านใหม่ ปลูกบ้าน บวช ลาสิกขา และกิจกรรมที่เห็นเป็นประจำทุกวัน คือ อาบน้ำมนต์เสริมดวงชะตาทุกวันหลังเพล ส่วนเจิมกระหม่อม เจิมรถ จะอนุเคราะห์ตั้งแต่เช้าจนถึงเพล พ.ศ. 2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูพิพิธธรรมาทร
ชื่อเสียงของหลวงพ่อหวั่นโด่งดัง เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่ศิษย์ยิ่งนัก ถึงความขลังความศักดิ์สิทธิ์และจริยวัตร ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในพื้นที่ภาคกลางและพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลสำคัญทั่วประเทศ วัตถุมงคลที่สร้าง ล้วนแล้วแต่ทรงพุทธคุณ และเป็นที่เสาะแสวงหา ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาทิ พระบูชา, เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์รุ่นแรก ส่วนเครื่องรางก็สร้าง สีผึ้งเมตตา, ตะกรุดโทน, ตะกรุดมหาอุด ฯลฯ
ที่ผ่านมา หลวงพ่อหวั่น ยังคงเดินหน้าพัฒนาวัดและจิตใจของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง เป็นศูนย์รวมใจของชาวชุมชน ได้รับการยกย่องเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าอีกรูปหนึ่ง
