สะเทือนลั่นวงการสงฆ์ !! เจ้าคุณชั้นราช ป.ธ.9 รองเจ้าคณะจังหวัด อายุกว่า 72 แอบลาสิกขา หายตัวออกจากพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

0
3373

“พระราชธรรมสารสุธี” รองเจ้าคณะจ.ศรีสะเกษ  น้อยใจถูกกล่าวหาสร้างความเสื่อมเสียให้ร.ร.วัดมหาพุทธาราม ที่ตนเองเป็นผู้ขอใบอนุญาตจัดตั้ง แอบลาสิกขาเงียบ ทั้งที่อายุว่า 72 ปีแล้ว ทิ้งจดหมายคำชี้แจงตัดพ้อ ถูกกล่าวหาว่าตั้งสีกาเป็นที่ปรึกษา นำมาซึ่งความเสื่อมเสียให้โรงเรียน ทั้งที่ตั้งใจพัฒนาโรงเรียน ยอมยุติบทบาททุกอย่าง

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการส่งต่อหนังสือชี้แจงของพระราชธรรมสารสุธี (ธีรังกูร ธีรงฺกุโร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดมหาพุทธาราม รองเจ้าคณะจ.ศรีสะเกษ ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ และผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนวัดมหาพุทธาราม พร้อมทั้งข้อความระบุว่า พระราชธรรมสารสุธี ได้ลาสิกขาแล้ว โดยไม่ทราบสาเหตุ ผ่านทางไลน์กลุ่มของทางคณะสงฆ์ ซึ่งหนังสือชี้แจง มีใจความสำคัญ ระบุว่า ตามที่ผู้รับใบอนุญาตฯ ได้แต่งตั้งให้นางณัฐสวิตตา ธนาภัคฉัตรสิริ เป็นที่ปรึกษา พร้อมทั้งได้มีการปรับปรุงบุคลากร จัดระบบรถรับส่งนักเรียนให้เหมาะสม และปลอดภัย โดยแต่งตั้งคณะครูเป็นกรรมการตรวจนับจำนวนนักเรียนที่ขึ้นรถ ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อาจเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และอีกสาเหตุมาจากสถานะทางการเงินที่ไม่โปร่งใสจึงเป็นเหตุให้มีครูหลายคนมาร้องเรียนผู้รับใบอนุญาตฯ ขณะเดียวกันตนก็ได้มีคำสั่งให้ครูที่บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่บางคนพ้นจากตำแหน่งไป แต่กลับมีผู้บริหารโรงเรียนบางคนระแวง สงสัย ปลุกระดม ครูผู้ปกครอง นักเรียน ว่าที่โรงเรียนวุ่นวายเพราะนางณัฐสวิตตา เข้ามาคุมระบบการเงินของโรงเรียน ซึ่งขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ทางผู้จัดการโรงเรียน ผอ.โรงเรียน รองผอ.โรงเรียน กลับทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้เจ้าคณะจ.ศรีสะเกษ ผู้ว่าราชการจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ นัดหารือกับตน และสอบถามข้อเท็จจริง และขอให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างความเข้าใจเพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์ พร้อมตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาดังกล่าวขึ้นมาหนึ่งชุด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะการเสียผลประโยชน์จากกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม กล่าวหาให้ตน และนางณัฐสวิตตา เสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งที่เวลาตนเดินทางไปไหนและมีนางณัฐสวิตตา เดินทางไปด้วย จะมีพระ เณร 3-4 รูป ติดตามไปด้วยทุกครั้ง ไม่เคยมีเรื่องผิดพระธรรมวินัย แต่สังคมกลับมองว่าเป็นเรื่องเสียหาย มีทัศนคติเชิงลบโดยไม่พิจารณาสิ่งที่กระทำ ยอมรับความถูกใจมากกว่าความถูกต้อง คนที่ตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก็หมดกำลังใจ คนที่ทำงานอย่างโปร่งใสกลับถูกมองกลายเป็นคนเลว ช่วงระยะเวลาในการทำงานมากว่า 50 ปี ตนได้พิจารณาแล้วว่าในวันข้างหน้า ไม่ว่าจะทำงานประเภทใด ทั้งทางคณะสงฆ์ หรือส่วนอื่นๆ หากไปขัดผลประโยชน์ ก็จะถูกหยิบยกเอาเรื่องเดิมๆ ระหว่างตนกับนางณัฐสวิตตา ขึ้นเป็นข้ออ้างทำลาย เมื่อคณะสงฆ์ สังคม ชุมชน  เห็นว่าเราทำผิด ไม่เหมาะสมในสถานะเช่นนี้ ตนก็พร้อมจะยุติบทบาททุกอย่าง ทั้งทางคณะสงฆ์ และส่วนต่างๆ พร้อมกำหนดเส้นทางเดินของตัวเอง โดยไม่ต้องถูกบีบคั้นจากอิทธิพลภายนอก โดยหนังสือดังกล่าวลงวันที่  28 มิ.ย. 2562

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ้ค พระมหาพงษ์ศักดิ์ ญาณวีโร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอยางชุมน้อย ได้โพสต์ลงเฟสต์บุ้ค ส่วนตัวว่า พระราชธรรมสารสุธี ได้ลาสิกขาแล้ว เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจ.ศรีสะเกษ จะทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดมหาพุทธาราม ต่อไป

ทั้งนี้พระราชธรรมสารสุธี ปัจจุบันอายุ 72 ปีแล้ว และมีชื่อเสียงในด้านการจัดการศึกษาคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก โดยเป็นผู้ขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนวัดมหาพุทธาราม ซึ่งเป็นโรงเรียนของวัดในพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นผอ.วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษด้วย การลาสิกขาของพระราชธรรมสารสุธี สร้างความแปลกใจให้กับแวดวงการศึกษาคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าหลังจากลาสิกขาแล้ว พระราชธรรมสารสุธี ได้ออกจากพื้นที่จ.ศรีสะเกษไปแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานว่าไปอยู่ที่จังหวัดใด