“สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” ชี้ “วัด ประชา รัฐฯ” สร้างประโยชน์ให้สังคม ช่วยลบข้อครหาต่อพระสงฆ์

0
233

15 องค์กรร่วมลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข สู่การจัดการสิ่งแวดล้อมของวัดและชุมชนอย่างยั่งยืน

วันที่ 22 ก.พ.66 ที่วัดพุทธแสงธรรม อ.หนองแค จ.สระบุรี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมส. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาเสมาราม เป็นประธานการประชุมชี้แจงแผนยุทธศาสตร์โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566 – 2570) พิธีมอบโล่รางวัล พัดเกียรติยศ และเกียรติบัตร วัดต้นแบบ ประจำปี พ.ศ.2565 และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนินโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข โดยคณะสงฆ์ องค์กรภาครัฐ และเอกชนจำนวน 15 องค์กร อาทิ มหาเถรสมาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน บริษัท เนเจอร์กิฟ จำกัด เป็นต้น

สำหรับวัดต้นแบบ โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ประจำปี 2565 ระดับหน ประกอบด้วย คณะสงฆ์หนกลาง ระดับดีเยี่ยม วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับดีเด่น วัดขนอน จ.ราชบุรี วัดบางอ้อยช้าง จ.นนทบุรี ระดับดี วัดนาโคก จ.สมุทรสาคร วัดหนองสังข์ประชาบำรุง จ.ชลบุรี วัดสระเนินพระราม จ.ชัยนาท คณะสงฆ์หนเหนือ ระดับดีเยี่ยม วัดพระธาตุผาเงา จ.เชียงราย ระดับดีเด่น วัดไพรสณฑ์รัตนาราม (ธ) จ.กำแพงเพชร วัดวังสิงห์คำ จ.เชียงใหม่ วัดบ้านใหม่โพธิ์เย็น จ.อุตรดิตถ์ คณะสงฆ์หนตะวันออก ระดับดีเยี่ยม วัดบ้านหนองหว้า จ.อุบลราชธานี วัดดาวเรือง จ.ชัยภูมิ วัดศรีจุฬา จ.นครนายก วัดปิยะมงคล จ.กาฬสินธุ์ วัดมหาพรหมโพธิราช จ.สกลนคร คณะสงฆ์หนใต้ ระดับดีเยี่ยม วัดบางครั่ง จ.พังงา วัดลานแซะ จ.พัทลุง ระดับดีเด่น วัดศรีพิบูลย์ (ธ) จ.นครศรีธรรมราช

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวว่า โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นหนึ่งในงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา มุ่งพัฒนาวัดและชุมชนให้เรียบร้อย เป็นศูนย์การเรียนรู้และการพัฒนาจิตใจของประชาชน มีแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ.2561 หัวใจของโครงการ คือ กลไกการสร้างสายสัมพันธ์ความร่วมแรงร่วมใจกันของวัด ชุมชน และภาคเครือข่ายในท้องถิ่นด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน คือ ศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเจตจำนงให้วัดเป็นสถานที่สัปปายะ เป็นสถานที่พักแก่ผู้เข้ามาพึ่งพาบำบัดทุกข์และเสริมสร้างความสุขทั้งแก่กายและใจ อันจะนำไปสู่ความวัฒนาสถาวรของชาติและสถาบันพระพุทธศาสนา โดยหวังว่า โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข จะนำไปสู่การพัฒนาวัดและชุมชนให้มีการจัดการสิ่งแวดล้อมและการจัดการมรดกวัฒนธรรมของวัดให้มีความเจริญรุ่งเรือง สำหรับการดำเนินการโครงการระยะที่ 2 มีแผนการดำเนินงาน 5 หมวดเป็นนโยบายหลักในการดำเนินงาน คือ 1.การบริหารจัดการโครงการ 2.การพัฒนาพื้นที่ในวัด 3.การส่งเสริมสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมภายในวัด 4.การจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรม 5.การจัดการพื้นที่ทางจิตใจและปัญญา

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวจะนำความเจริญมาในพระพุทธศาสนา และจะสามารถช่วยลบข้อครหาที่มีต่อพระสงฆ์ได้ เพราะสังคมรุ่นใหม่มักมองภาพพระสงฆ์ในทางลบ มองไม่เห็นว่าพระทำประโยชน์ให้สังคมอย่างไรบ้าง ทั้งที่ความจริงแล้วพระสงฆ์ทำประโยชน์ให้สังคมจำนวนมาก ทั้งสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล การดำเนินการโครงการดังกล่าวจะทำให้สังคมเห็นประโยชน์ของพระพุทธศาสนา และนำหลักพระพุทธศาสนาไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และจะส่งผลให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง

พระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี  ประธานอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ส่วนกลาง  กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินการในระยะที่ 1 ระหว่าง พ.ศ.2561 – 2565 มีผลการดำเนินการ ดังนี้ ด้านจำนวนวัดและประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า มีวัดที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 22,574 วัด จาก 42,469 วัดทั่วประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 53.15 แบ่งเป็นวัดที่เข้าสู่มาตรฐานจำนวน 19,632 วัด วัดสร้างมาตรฐานระดับดี 2,117  วัด ระดับสร้างมาตรฐานดีเด่น 679 วัด และระดับดีเยี่ยมจำนวน 146 วัด โดยมีวัดที่ได้รับทุนอุดหนุนกิจกรรมจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจำนวน 2,178 วัด ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดร้อยละ 50 ของวัดทั่วประเทศภายในระยะเวลา 5 ปี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย(มท.)ได้นำหลัก “บวร” มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดพลังในการพัฒนาที่เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่าง บ้าน วัด รัฐ และส่งเสริมให้ผู้นำทางศาสนาทุกศาสนาในพื้นที่นั้นๆ ร่วมเป็นแกนนำในการพัฒนา เพื่อประโยชน์ในการบำบัดทุกข์บำรุงของประชาชน เมื่อคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคม ได้พัฒนาโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ และโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข กระทรวงมหาดไทยจึงให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มที่ สำหรับโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข นับว่าเป็นโครงการสร้างที่สร้างประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในวัดและชุมชนตามหลัก ๕ส และหลักสัปปายะเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้งดงาม การเปิดพื้นที่ให้วัด ประชาชน และรัฐ ได้เรียนรู้และทำงานร่วมกัน

สำหรับโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นหนึ่งในโครงการของแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเพื่อพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา และเป็นรมณียสถานอันเป็นความสงบทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน โครงการนี้มีป้าหมายสำคัญ คือ การส่งเสริมให้มีเกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมและองค์ความรู้ ๕ส ไปสู่การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ การจัดการสิ่งแวดล้อม และรักษาความสะอาดภายในวัดให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ และการพัฒนาการเรียนรู้ทางสังคมวิถีพุทธ รวมทั้งการมีจิตอาสาเพื่อการพัฒนาสังคม โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ และขยายผลสู่ในระยะที่ ๒ พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๐ มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน กรมอนามัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขให้สัมฤทธิผล รวมทั้งมีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมในการนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนา “คุณภาพสิ่งแวดล้อม” ของวัดและชุมชนโดยมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำคัญคือ “วัดสวยด้วยความสุข” และ “การสร้างวัดในใจคน”

*****************************************************************