สมเด็จพระพุฒาจารย์ เตือนเจ้าคณะภาคปกครองสงฆ์พยายามใช้พระคุณ อย่าใช้แต่ “พระเดช”

0
322

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 ที่พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ วัดไตรมิตรวิทยาราม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานในพิธีมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้งเจ้าคณะภาคในเขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก ประกอบด้วย พระเทพโสภณ (ปรีชา อภิวณฺโณ) วัดราชบุรณราชวรวิหาร เป็นเจ้าคณะภาค 8 พระธรรมรัตนดิลก (สมเกียรติ โกวิโท) วัดอรุณราชวราราม กรรมการมส. เป็นเจ้าคณะภาค 9  พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ วรทสฺสี) วัดโมลีโลกยาราม เป็นเจ้าคณะภาค 10  พระธรรมเจดีย์ (สมคิด เขมจารี) วัดทองนพคุณ เป็นเจ้าคณะภาค 11 และพระราชเวที (สุรพล ชิตญาโณ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นเจ้าคณะภาค 12

สมเด็จพระพุฒาจารย์ กล่าวสัมโมทนียกถา ว่า ขอฝากเจ้าคณะภาคให้เข้มงวด กวดขัน พระภิกษุสามเณรที่อยู่ในการปกครองให้ประพฤติปฏิบัติตามกิจวัตร 10 ของพระสงฆ์ คือ 1. ลงอุโบสถ 2.บิณฑบาต 3.สวดมนต์ไหว้พระ 4.กวาดอาวาสวิหารลานพระเจดีย์ 5.รักษาผ้าครอง 6.อยู่ปริวาสกรรม 7.โกนผมปลงหนวดตัดเล็บ 8.ศึกษาสิกขาบทและปฏิบัติพระอาจารย์ 9.เทศนา 10. พิจารณาปัจจเวกขณะทั้ง 4 (จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช) ซึ่งเป็นหน้าที่ที่พระภิกษุสามเณรควรปฏิบัติ และจะไม่เกิดความวุ่นวาย ทั้งขอฝากเรื่องการศึกษาพระปริยัติธรรมบาลี นักธรรม ซึ่งมีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้เกิดความมั่นคงของพระพุทธศาสนา เพราะเมื่อมีความเข้าใจหลักธรรมถ่องแท้แล้ว ก็จะประพฤติดี ปฏิบัติชอบ พร้อมทั้งจะนำไปถ่ายทอดให้กับญาติโยมด้วย และจะทำให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง และการศึกษาพระปริยัติธรรมยังเป็นเรื่องที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงสนับสนุนมาโดยตลอดด้วย

“ขอฝากเจ้าคณะภาคในการปกครองอย่าใช้พระเดชมาก พยายามใช้พระคุณให้มาก เพราะการใช้พระคุณ จะทำให้เกิดความร่มเย็นของทุกฝ่าย แต่หากมุ่งใช้แต่พระเดช จะมีแต่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกัน” สมเด็จพระพุฒาจารย์ กล่าว