สมค่ามหาเปรียญ “อภิชาต” สำนึกผิดหลังได้สติทบทวน ให้เป็นอุทาหรณ์ข้อเตือนใจ กราบขอโทษสังคม ประเทศชาติ สถาบันสงฆ์ ศาสดามุสลิม

0
1147

(ขอขอบคุณรูปภาพโพสต์ของ นายกรณ์ มีดี)

เมื่อเวลา 20.43 น. วันที่ 24 ก.ย. นายอภิชาต พรมจันทร์ อดีตพระมหาอภิชาต วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพฯ ได้เขียนข้อความโพสต์ส่งถึงผู้มีความห่วงใยทางไอโฟนส่วนตัว มีความข้อความว่า…

กระผม นายอภิชาต พรมจันทร์ หรือที่ทุกท่านรู้จักว่าเป็นอดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท เชื่อว่า ทั้งชื่อ ภาพ เสียง และการกระทำต่างๆ ผ่านโลกสังคมออนไลน์ และในวาระโอกาสต่างๆ ก็ดี ที่ผ่านมา จวบจนกระทั่งภาพและข่าวสุดท้ายที่ออกไปในเรื่องการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และการลาสิกขาบทของกระผม เชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทิ้งคำถามต่างๆ ไว้ ให้สำหรับผู้ติดตาม ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย กับพฤติกรรมต่างๆ ของตัวกระผมขณะที่ยังครองจีวร แห่งสมณเพศบรรพชิตมาอย่างยาวนาน คงมีหลายคนที่คิดว่า การถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ เป็นเรื่องน่าห่วง มีทั้งเห็นด้วย และต่อต้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก่อนที่กระผมจะได้เป็นต้นเหตุแห่งความไม่เข้าใจ และสร้างความขัดแย้ง แตกแยกไปมากกว่านี้ ผมจึงได้ขอพื้นที่ตรงนี้ได้มีโอกาสบอกเล่า ความในใจ ข้อคิดเตือนใจให้กับคนอื่นๆ ต่อไป

1.ก่อนอื่น ผมต้องขอบอกก่อนว่า วันที่โชคดีที่สุดในชีวิตของผมคือวันที่เจ้าหน้าที่ เข้ามาให้สติ ให้เวลา ให้พื้นที่ ให้โอกาสกระผมได้คิดทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ผมได้ทำลงไป อย่างถี่ถ้วน ได้มองย้อนดูตัวเองแล้ว กระผมยอมรับผิดอย่างไม่มีข้อโต้แย้งทุกประการ และขอให้ทุกท่านได้ทราบว่า การลาสิกขาบทของกระผมในครั้งนี้ เป็นไปโดยความสมัครใจของกระผมอย่างแท้จริง และกระผมขอน้อมรับผิด น้อมรับโทษ ด้วยความจริงใจ

2.กระผมกราบขอโทษสังคม ประเทศชาติและประชาชนทุกส่วน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันสงฆ์ของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ได้ให้กระผมย้อนอ่านข้อความและดูคลิปวีดิโอของตนเองกี่ทีก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจ และรู้สึกบาปต่อพระพุทธศาสนา การที่ปากบอกว่า กระผมพูดและทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนานั้น แต่การกระทำของกระผมกลับตรงกันข้าม ทั้งการประพฤติปฏิบัติด้วยกาย วาจา ที่ไม่เหมาะสมต่อการครองสมณสารูปบรรพชิต ทำลายภาพพจน์แห่งสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ควรแก่การสักการบูชา เพราะที่ผ่านมา กระผมหลงผิดไปทั้งหมดและการกระทำที่ไม่สมควรยิ่ง บวชเรียนมามาก ขาดสติ หลงตนเอง โทสะ โมหะ หลงอยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย หรือโลกสังคมออนไลน์ ไม่ต้องพูดถึงวินัยสงฆ์ ทั้งหมดเป็นเพราะกระผมไม่มีวินัยในตัวเอง ทุกอย่างที่เกิดขึ้น หากพิจารณาดูแล้ว การกระทำทั้งปวงนั้น ไม่ว่าจะเป็นการยุยงปลุกปั่น ดูถูก เหยียดหยาม ด่าทอ กิริยาวาจาไม่สมควร ไม่เหมาะสม และทุกอย่างมีส่วนส่งเสริมให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก และยิ่งเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้ไฟยิ่งลุก กระผมจึงกราบขอขมาพี่น้องชาวมุสลิมทุกท่าน และพระศาสดาของศาสนาที่กระผมได้ล่วงเกิน ผมหลงจนมองข้ามไปหมดว่าอันที่จริงการดูแลปกป้อง เผยแผ่ พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์สาวกนั้น คือ การปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และพระพุทธเจ้าก็ไม้ไดทรงสอนให้ กระทำอย่างที่ผมได้ทำลงไป

กระผมขอใช้เวลาและโอกาสในชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ ตั้งมั่นฝึกอบรมตนเสียใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่ และขอกลับคืนสู่สังคมด้วยการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องแท้จริง และจักขอบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม

สุดท้าย กระผมขอให้ทุกท่านได้ฉุกคิด และขอให้เรื่องราวของกระผมได้เป็นเครื่องเตือนสติ เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับอดีตเพื่อนพระสงฆ์ที่เคยคิดเห็นอย่างเดียวกัน และประชาชนทุกท่านที่เห็นด้วยกับการกระทำของกระผมที่ผ่านมาและถ้าเป็นไปได้ กระผมอยากจะขอให้ทุกท่าน ทุกๆ อารมณ์ความรู้สึกขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากตัวกระผมนั้นหยุด ขอให้ทุกอย่างหยุดที่ตัวกระผม และขอให้ทุกคนคิดใหม่ ทำใหม่ และวันนี้ผมขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมโชคดีที่สุดที่ได้เวลาและโอกาส จะมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ดีที่สุด

กระผมขอขอบคุณทุกท่านทุกคนที่ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับผมในครั้งนี้ครับ นายอภิชาต พรมจันทร์