ศน.สร้างเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ต่อยอดพัฒนางานด้านการส่งเสริม เผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วประเทศ

0
1094

เมื่อวันที่ 24  พฤษภาคม 2561 เวลา 10.00 น. นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานและบรรยายพิเศษ เรื่อง “นโยบายของกรมการศาสนาในการส่งเสริมเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา” ในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี พ.ศ. 2561 ณ ห้องประชุมศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมีนางศรีนวล ลัภกิตโร ผอ.สำนักพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม กล่าวรายงานการดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ก่อนการบรรยายพิเศษ

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนา(ศน.) ได้ดำเนินโครงการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี 2561 โดยได้พิจารณาคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ประกาศเกียรติคุณให้ทราบโดยแพร่หลาย และเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ จำนวน 160 ราย แบ่งเป็น พระสงฆ์ 92 รูป ฆราวาส 52 คน และหน่วยงาน 15 แห่ง โดยได้เข้ารับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2561 ณ พลับพลาพิธี บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

อธิบดี ศน. กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ สร้างความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน จึงกำหนดให้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาขึ้น ระหว่างวันที่ 24 – 25 พฤษภาคม 2561 โดยได้รับความเมตตาจากพระมหาโพธิวงศาจารย์ ราชบัณฑิต บรรยายพิเศษ เรื่อง “ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา กับการทำนุบำรุงเผยแผ่พระพุทธศาสนา” และการเสวนาสร้างเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาโดย รศ.ดร.สำเนียง  เลื่อมใส  ดร.พิสิฐ  เจริญสุข ดร.สิเรียม  ภักดีดำรงฤทธิ์ และดร.เสนาะ  ผดุงฉัตร เพื่อพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และพัฒนางานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมโดยผ่านเครือข่ายคุณธรรมผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ในการส่งเสริมสนับสนุน กิจกรรม/งาน/โครงการของพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ

“ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เป็นผู้เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์และเวลาอันมีค่าเพื่อทำนุบำรุง สนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งบุคคลที่ดำเนินชีวิตในลักษณะนี้ ย่อมได้ชื่อว่านำเอาคุณธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนได้ประพฤติตามหลักค่านิยมหลัก 12 ประการ โดยเฉพาะในเรื่องการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน การรักษาประเพณีวัฒนธรรมไทย มีศีลธรรม รักษาความสัตย์  มีสติ รู้คิด รู้ทำ รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง นับเป็นทุนที่ดีทางสังคมประการหนึ่ง สมควรยกย่องคุณความดีด้วยการประกาศเกียรติคุณให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนโดยทั่วไป” อธิบดี ศน. กล่าว