“วัดไผ่ล้อม” เปิดให้สักการะท้าวเวสสุวรรณ ท้าวกุเวรมมหาราช ไม้ตะเคียนอายุร้อยปี

0
1181

ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวกุเวรมหาราช  วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้แกะจากไม้ตะเคียนโบราณต้นใหญ่ โดยมีนายแพทย์พิบูลย์ เลาหทัย โรงพยาบาลสมิติเวช  ถวายไม้ตะเคียนต้นใหญ่  ที่ได้มีการค้นพบจมอยู่ใต้แม่น้ำยม ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่  จ.แพร่  จึงนิมนต์พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ทำพิธีอัญเชิญขึ้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์  พ.ศ.2549   ซึ่งนายแพทย์พิบูลย์ เลาหทัย ผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระเดชพระคุณ พระมงคลสิทธิการ (หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข) ซึ่งต่อมาพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ ได้มีดำริให้สร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณ จาตุมมหาราชิกา ท้าวกุเวรมหาราช จาตุมมหาราชิกา เทพเจ้าแห่งเงินตรา ราชาแห่งโชคลาภ องค์ใหญ่ประดิษฐานไว้ ณ วัดไผ่ล้อม  เพื่อให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ  ที่มีความเคารพศรัทธา มาสักการบูชาขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจ

โดยช่างที่แกะสลักองค์ท้าวเวสสุวรรณนี้  แกะด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน นำโดยกำนันรัฐกานต์ จันทนู (กำนันอรรถ) กำนันตำบลวังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่  พร้อมทั้งกลุ่มชาวบ้าน ทำการแกะสลักจากไม้ตะเคียนโบราณ มีความสูง 4-5 เมตร  นำขึ้นประดิษฐาน ณ วัดไผ่ล้อม เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2550 ตรงกับวันแม่แห่งชาติ ซึ่งถือเป็นฤกษ์งามยามดี เป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนสืบไป

ประวัติ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักข์ และท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ประจำทิศต่างๆ ทั้งสี่ทิศโดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือ ว่ากันว่าอาณาเขตที่ท้าวเธอดูแลปกครองรับผิดชอบมีอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่ (หัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4) กว่าท้าวมหาราชองค์อื่นๆ

ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ เป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง ( ในคัมภีร์เทวภูมิกล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจากพระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ) นอกจากนี้หน้าที่ของท้าวเธอมีมากมาย เช่น การดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา , ปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน เป็นต้น

ในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร

ท่านท้าวเวสสุวรรณ 1ใน 4 ท้าวจตุโลกบาล โดยมีท้าวธตรฐดูแลพื้นที่อยู่ทางทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหกดูแลรักษาพื้นที่อยู่ทางทิศใต้ ท้าววิรูปักข์ดูแลรักษาพื้นที่อยู่ทิศตะวันตก และท้าวเวสสุวรรณรักษาพื้นที่อยู่ทางทิศเหนือ โดยทั้ง 4 ท่าน มีหน้าที่แบ่งกันปกครองทั้งเหล่าคนธรรพ์ กินรี กินนร กุมภัณฑ์ นาค เทวดา และยักษ์ อยู่บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา ในส่วนของท้าวเวสสุวรรณ ท่านจะปกครองเหล่าอสูร และยักษ์ ตลอดจนภูติผีปีศาจทั้งหลาย ตามตำนานกล่าวว่าเริ่มแรก ท่านท้าวเวสสุวรรณปกครองอยู่ เมืองลงกา ต่อมาได้ถูกทศกัณฑ์มายึด และขับไล่ให้ท่านไปอยู่ที่อื่นพร้อมทั้งแย่งบุษบก (ของวิเศษที่พระพรหมมอบให้ ) ไปครอบครองอีก ท้าวเวสสุวรรณจึงได้มาสร้างเมืองใหม่อยู่บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา โดยท่านมีหน้าที่ดูแลปกครองเหล่าอสูร ยักษ์ ตลอดจนเหล่าภูตผีปีศาจทั้งหมด และยังเป็นเจ้าบัญชีพระกาฬใหญ่ ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นยักษ์ที่ใจบุญ อีกทั้งยังให้ความเคารพนับถือในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ในสมัยพุทธกาลกล่าวว่า มีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่ออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาโมกขธรรม มีพระภิกษุสงฆ์บางรูปที่ยังไม่ได้สำเร็จอภิญญา มักจะโดนบรรดาภูตผีปีศาจ หลอกหลอนไม่เป็นอันได้ปฏิบัติกิจของสงฆ์ คือการเจริญสมาธิกรรมฐาน เพื่อชำระจิตใจให้สงบได้อย่างเต็มที่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ได้เสด็จลงมาจากเทวโลก เพื่อมากราบนมัสการสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งถวายมนต์ “ภาณยักษ์” ให้ไว้ เพื่อเป็นมนต์ป้องกันเวลาพระภิกษุ สามเณร ที่ออกเดินธุดงค์ตามป่าเขา ถูกบรรดาภูตผี ปีศาจ ยักษ์ เทวดา ที่เป็นมัจฉาทิฐิ หลอกหลอน ซึ่งมนต์ “ภาณยักษ์” บทนี้ยังนำมาใช้สวดกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ โดยการสวดมนต์ “ภาณยักษ์” บทนี้มักจะทำเป็นพิธีการยิ่งใหญ่ ทุกวัดมักจะจัดให้มีการสวด “ภาณยักษ์” นี้ขึ้น เชื่อกันว่าใครที่ถูกคุณ ถูกของ หรือโดนผีเข้า เจ้าสิง เมื่อเข้าไปในบริเวณพิธีสวด “ภาณยักษ์” สิ่งอัปมงคลต่างๆ ที่มีอยู่ในตัวก็จะหมดไปด้วย มนต์ภาณยักษ์ อันวิเศษบทนี้ และนอกจากนี้ ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย สัญลักษณ์แห่งมหาเศรษฐี ในหนังสือเทวกำเนิดของพระยาสัจจาภิรมย์ ระบุชื่อท้าวเวสสุวรรณ ล้วนมุ่งหมายทางมหาเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ อาทิ ท้าวรัตนครรถ (ผู้มีเพชรเต็มพุง) ท้าวกุเวรธนบดี (ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์) ท้าวธเนศวร (เจ้าทรัพย์) องค์อิฉาวสุ (ผู้มั่งมีได้ตามใจ) ท้าวเวสสุวรรณ (ยิ่งด้วยทอง) แม้แต่ชาวจีนก็ยกย่ององค์ท้าวเวสสุวรรณว่า เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความร่ำรวยในนาม “องค์ไฉ่ซิงเอี้ย” ซึ่งมีบูชากันทุกบ้านร่ำรวยทุกคน ขับไล่ภูตผีปีศาจ วิญญาณร้าย  แก้เสนียดจัญไร อัปมงคลคุณไสยต่างๆ หากท่านผู้ใดบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ ด้วยความเคารพศรัทธา จงเชื่อได้เลยว่าท่านจะประสบแต่ความโชคดี มีทรัพย์ ตลอดจนพ้นภัยจากบรรดาภูตผีปีศาจทั้งหลาย

คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ

จุดธูป 9 ดอก ดอกกุหลาบแดง ๙ ดอก ผลไม้ตามฤดูกาล นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ

 พุทธังเปิด  ธัมมังเปิด สังฆังเปิด เปิดด้วย นะโมพุทธายะ  ยะธาพุทโมนะ   อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณัง สุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ เวสสะ พุสะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชาชิกา ได้โปรดเปิดโภคทรัพย์ เปิดมหาสมบัติ เปิดโชค เปิดลาภ เปิดความโชคดี สมปรารถนา ทุกประการเทอญ