วัดไผ่ล้อมเผาศพโควิดหญิงวัย 88 เป็นรายที่ 20 “หลวงพี่น้ำฝน” ยืนยันฉีดวัคซีนไม่มีอันตราย

0
261

วันที่ 11พฤษภาคม 2564 เวลา15.00 น.วันที่ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นางสาวสมพิศ ศรีเกิดครืน อายุ 88 ปี เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลบางไผ่  กรุงเทพฯ  โดยคนในครอบครัวติดเชื้อโรคโควิดกันหมดทุกคน ต้องรักษาและกักตัวที่โรงพยาบาลสนาม โดยในวันนี้มีเพียงหลานชาย 4 คนที่ไม่ได้ใกล้ชิดผู้ป่วย มาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป สวดมาติกาบังสุกุล โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในพิธีพร้อมให้โอวาท

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า  วันนี้เป็นวันที่ 11 พฤษภาคม อาตมภาพได้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้านี้โดยไม่ได้มีอาการข้างเคียงใดๆ ที่อาตมาต้องไปรับการฉีดวัคซีนเพราะต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เขาเลยให้ไปฉีดก่อนเพื่อเป็นการป้องกัน และอยากขอบอกญาติโยมว่าไม่มีอันตรายอะไร อาตมาปกติดีทุกอย่าง ยังลุยงานทำงานได้ปกติ เพราะฉะนั้นคุณโยมควรปรึกษากับแพทย์หลายๆ คนแล้วทำตามที่หมอแนะนำ ฉีดเสร็จก็นั่งรอดูอาการสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยกลับ อาตมาไม่มีอะไรปกติดีทุกอย่าง ทั้งที่เรานี่มีโรคเบาหวานเป็นตัวหลัก มีความดันนิดหน่อย หมอก็ตรวจเป็นอย่างดีแล้ว วัดความดันปกติแล้วก็ฉีดวัคซีน ตามปกติเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ในวันที่ 1 มิถุนายน จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ญาติโยมว่าไปฉีดเถอะ ไปลงทะเบียนแล้วก็ฉีดเถอะครับมันดีกับตัวเราเองไม่ได้อันตรายเลย ขอยืนยัน

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า วันนี้ก็เช่นกัน เหมือนเดิมทุกวัน มีการติดต่อมาจากโรงพยาบาลบางไผ่ว่าจะนำศพที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มาฌาปนกิจที่วัดไผ่ล้อม นับเป็นรายที่ 20 ในการเผาศพโควิดของทีมวัดไผ่ล้อม รายนี้ชื่อ นางสาวสมพิศ ศรีเกิดครืน อายุ 88 ปี เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่โรงพยาบาลบางไผ่  กรุงเทพฯ  และทราบข้อมูลว่าติดมาจากหลาน และคนในครอบครัว ติดกันหมดทุกคนต้องรักษาและกักตัวที่โรงพยาบาลสนาม  ซึ่งในวันนี้มีเพียงหลานชาย 4 คน มาทำพิธีทางศาสนาด้วยความอาลัย เนื่องจากสถานการณ์การติดต่อโรคไวรัสโคโรนา โควิด-19 ที่ยังคงระบาด มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตทุกวัน ซึ่งวัดไผ่ล้อมก็ไม่อยากจะให้มีการเผาศพญาติโยมที่ติดเชื้อ เพราะเป็นความสูญเสียที่สุดรันทด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ และวัดไผ่ล้อมก็เผาศพติดต่อกันมาทุกวันๆ ละ1 ศพ 2 ศพบ้าง จึงถือเป็นเรื่องที่น่าวิตก ทุกๆ คนควรจะต้องมีมาตรการเข้ม ไม่จำเป็นไม่ออกจากบ้าน หยุดเชื้อ ใส่แมส ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำบ่อยๆ ไม่รวมกุล่มคนจำนวนมาก ไม่ไปในที่เสี่ยงที่ทางราชการแจ้งประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เชื้อโรคลดลง ประชาชนจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติต่อไป