วธ.เผย ผลสำรวจคนไทยกว่าร้อยละ 86 ร่วมสวดมนต์ข้ามปีถวาย ร.9 – 73.51 ต้องการทำบุญตักบาตร หลายวัดพุทธทั่วโลกพร้อมร่วมกิจกรรม

0
1708

สำนักข่าว Thairnews – นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกันสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชน จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ หัวข้อ สวดมนต์ข้ามปีถวายเป็นพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย “ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม” พุทธศักราช 2561 จำนวน 1,920 คน พบว่า ในปีนี้เด็ก เยาวชนและประชาชน ตั้งใจจะไปสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้ (31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561) ร้อยละ 49.48 รองลงมาแล้วแต่สถานการณ์ ร้อยละ 41.72 และไม่เข้าร่วม ร้อยละ 8.80 และสอบถามว่าส่วนใหญ่จะไป  “สวดมนต์ข้ามปี”ที่ไหน พบว่า ที่วัดมากที่สุด ร้อยละ 80.87 รองลงมา ที่บ้านร้อยละ 12.73 และสถานที่อื่น ๆ ร้อยละ 6.40 อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์/พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ พื้นที่สาธารณะ เป็นต้น  จากการสอบถามบุคคลที่ต้องการชวนไป “สวดมนต์ข้ามปี” พบว่า ร้อยละ 74.11 ต้องการชวนพ่อแม่/ปู่ย่า/ตายาย/ญาติพี่น้อง รองลงมาคือ ร้อยละ 24.06 เพื่อน/เพื่อนร่วมงาน ร้อยละ 15.36 คนรัก และ ร้อยละ 1.88 ไม่แน่ใจ

นอกจากนี้ ได้สอบถามเกี่ยวกับประโยชน์หรือวัตถุประสงค์ของการสวดมนต์ข้ามปี พบว่า ร้อยละ 86.85 ต้องการอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รองลงมาร้อยละ 65.14 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ร้อยละ  39.50 อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ร้อยละ 38.42 ได้ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและญาติพี่น้อง และ ร้อยละ 37.97อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช

ทั้งนี้ ยังได้สอบถามความคิดเห็นในประเด็นที่คิดว่าเหตุผลที่จะทำให้เด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันหันมาสวดมนต์ข้ามปีมากขึ้น ร้อยละ 75.29 ตอบว่า ได้รับการสนับสนุน ชักชวน และเห็นแบบอย่างจากครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง รองลงมาคือ ร้อยละ 70.17 รัฐบาลให้ความสำคัญและสนับสนุนการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีร้อยละ 53.02 การรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปี ในสื่อทุกช่องทางมากขึ้น ร้อยละ 46.96 ได้รับการส่งเสริม สนับสนุนจากสถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ และร้อยละ 30.52 ทำตามบุคคลที่ตนเองชื่นชอบ (ไอดอล) เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง

สำหรับกิจกรรมที่เห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนส่วนใหญ่ตั้งใจทำในวันปีใหม่ พบว่า ร้อยละ 73.51 ตั้งใจไปทำบุญตักบาตร รองลงมาร้อยละ 58.60 ขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ร้อยละ 52.13 มอบของขวัญปีใหม่ ร้อยละ 41.15 เยี่ยมญาติ และร้อยละ 40.35 ไปท่องเที่ยว นอกจากนี้ วธ.ได้สอบถามความคิดเห็นของเด็ก เยาวชนและประชาชนว่าจะอวยพรปีใหม่ให้ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ครู อาจารย์ หรือเพื่อนผ่านช่องทางใดบ้าง พบว่า ร้อยละ 63.90 จะอวยพรผ่านไลน์ รองลงมาคือ ร้อยละ 58.27 การ์ดอวยพร ร้อยละ 55.44 เฟซบุ๊ก ร้อยละ 11.30 ส่ง sms และ ร้อยละ 11.20 ส.ค.ส.  Online ส่วนบุคคลที่กลุ่มตัวอย่างตั้งใจและต้องการอวยพรปีใหม่มากที่สุด พบว่า ร้อยละ 80 เป็น พ่อแม่ มากกว่า รองลงคือ คนในครอบครัว ญาติผู้ใหญ่ ปู่ ยา ตา ยาย ลูกหลาน /ผู้ที่ช่วยเหลือ มีบุญคุณ /เจ้านาย หัวหน้างาน/ครู อาจารย์/ เพื่อน แฟน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม วธ. และสวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนว่าต้องการของขวัญอะไรจากรัฐบาลเป็นของปีใหม่ 2561 พบว่า อันดับ 1 ต้องการให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า เศรษฐกิจดี อันดับ 2 ต้องการมีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิ สวัสดิการต่างๆ ดีขึ้น อันดับ 3 ต้องการความซื่อสัตย์ ความจริงใจ อันดับ 4 ต้องการคำอวยพร คำสัญญาทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อันดับ 5 ต้องการการดูแลบ้านเมืองให้ปลอดภัย สงบเรียบร้อย

ส่วนจากการสำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนว่าต้องการของขวัญอะไรจากกระทรวงวัฒนธรรม คนส่วนใหญ่ ระบุว่า 1.ต้องการของที่ระลึกเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 เช่น ปฏิทิน ส.ค.ส. โปสการ์ด หรือหนังสือพระราชกรณียกิจของในหลวงราชการที่ 9 2.การอนุรักษ์สืบสานประเพณีให้เด็ก และเยาวชนมากขึ้น 3.ส่งเสริมการใช้ภาษาไทย 4.รณรงค์การใช้ของไทย 5.การจัดระเบียบเรื่องการแต่งกายในวัยรุ่นและส่งเสริมการแต่งกายผ้าไทยให้ครอบคลุมทุกเพศ ทุกวัย เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ยังได้สำรวจความคิดเห็นว่าตั้งใจจะเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรมมอบของขวัญปีใหม่ พบว่าคนส่วนใหญ่ตั้งใจจะเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้ ร้อยละ 76.11 ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ถวายเป็นพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรมพุทธศักราช 2561 รองลงมาคือ   ร้อยละ 42.55 ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล ร้อยละ 41.50 จะอวยพรปีใหม่ผ่านระบบ Online  (ส.ค.ส. Online) ชุดความเป็นไทยสู่ใจประชาชน และร้อยละ 39.77 ร่วมรณรงค์ใช้สินค้าไทยส่งความสุขแบบไทยเป็นของขวัญปีใหม่ ขณะที่ร้อยละ 36.81 ชมการแสดงเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการที่ วธ.ประสานความร่วมมือไปยังวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศต่างๆ ที่ผ่านมา ล่าสุดมีวัดพระพุทธศาสนาในหลายประเทศได้แจ้งความพร้อมในการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และพร้อมในการถ่ายทอดสดเข้ามายังสถานีโทรทัศน์แม่ข่ายในประเทศไทย อาทิ วัดสวายปอแป กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา, วัดอาซากุสะ ประเทศญี่ปุ่น, วัดพระพุทธเมตตา  ประเทศอินโดนีเซีย, พุทธสถานบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย, วัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว, วัดพระเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกา, วัดเหมอัศวาราม เมืองลั่วหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน, วัดพุทธวิปัสสนา เมืองวัสเซนัค ประเทศเยอรมัน, วัดพุทธารามฮ่องกง เมืองเกาลูน ฮ่องกง, วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รัฐอุตตรประเทศ และวัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย วัดไทยรัตนประทีป กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี, วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล เป็นต้น