วธ. เชิดชูผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา “ความดีไม่ดับสูญ” จัดพิธีทำบุญอุทิศ – ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างเครือข่าย ต่อยอดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา

0
1976

วันนี้ (๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๓0 น. ณ ศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดพิธีทักษิณานุประทานอุทิศให้ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาผู้ถึงแก่วายชนม์ และการประชุมเสวนาสร้างเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา พร้อมด้วยนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา รองอธิบดีกรมการศาสนา อดีตรองอธิบดีกรมการศาสนา เจ้าหน้าที่ พระภิกษุสงฆ์และฆราวาสผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรประจำปี 2562 เข้าร่วมในพิธี

 

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมการศาสนา(ศน.) ได้ดำเนินโครงการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี ๒๕๖๒ ที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ประกาศเกียรติคุณให้ทราบโดยแพร่หลาย และเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ จำนวน ๑๖๐ ราย แบ่งเป็น พระสงฆ์ ๙๐ รูป ฆราวาส ๖๒ คน และหน่วยงาน ๘ แห่ง เข้ารับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ในวันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ พลับพลาพิธี บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และเพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ สร้างความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน จึงกำหนดให้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาขึ้นด้วย

ปลัดวธ. กล่าวต่อไปว่า ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เป็นผู้เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์และเวลาอันมีค่าเพื่อทำนุบำรุง สนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งบุคคลที่ดำเนินชีวิตในลักษณะนี้ ย่อมได้ชื่อว่านำเอาคุณธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนได้ประพฤติตามค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ โดยเฉพาะในเรื่องการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน การรักษาประเพณีวัฒนธรรมไทย มีศีลธรรม รักษาความสัตย์  มีสติ รู้คิด รู้ทำ รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง นับเป็นทุนที่ดีทางสังคมประการหนึ่ง สมควรยกย่องคุณความดีด้วยการประกาศเกียรติคุณให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนโดยทั่วไป

ปลัดวธ. กล่าวอีกว่า ในช่วงเช้าวันนี้เป็นพิธีทักษิณานุประทานอุทิศแด่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว กระทรวงวัฒนธรรมโดยศน.ได้เริ่มจัดให้มีพิธีพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมา และในปีนี้ก็มีการคัดเลือกอีกครั้งหนึ่งโดยระลึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้วจึงจัดให้มีพิธีทำบุญอุทิศเพื่อระลึกถึงท่านเหล่านั้น เพราะการทำความดีของท่านเหล่านั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมซึ่งความดีเหล่านั้นไม่มีวันดับสูญ จะยังคงอยู่คู่แผ่นดินตลอดไป และในการจัดเสวนาในช่วงบ่ายจะทำให้ได้มีการพูดคุยกัน รู้จักกัน ได้เลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเสมือนเครือญาติ เป็นการสร้างเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนามากให้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะเป็นการขยายเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ในทุกๆ ปีที่ผ่านมา และจะมีการเชิญชวนน้องๆ เยาวชนให้มาทำคุณประโยชน์ร่วมกันโดยมีท่านเหล่านี้เป็นผู้นำ

“การคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์นั้น จะพิจารณาถึงคุณูปการที่เป็นต้นแบบ ตัวอย่างแก่พี่น้องประชาชน และบุคคลทั่วไป ผู้ผ่านการคัดเลือกปีละ ๑๖๐ รูป/คนนั้นจะน้อยไปไหม  คณะกรรมการก็คิดว่ายังน้อยไปเพราะหลายๆ คนได้ทำความดีต่อพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว เช่นการรักษาศีล การปฏิบัติธรรม การเจริญจิตภาวนาก็ถือว่าเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตามคณะกรรมการได้พยายามคัดเลือกและยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์ ๑๖๐ รูป/คนต่อปี ก็ถือว่าพอดี และเหมาะสมในแต่ละปี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด คณะสงฆ์แต่ละจังหวัดก็ช่วยกันคัดเลือกในเบื้องต้น เพราะท่านใกล้ชิดกับผู้ทำคุณประโยชน์ในจังหวัดของท่าน ดูทั้งพฤติกรรม ผลงานและความตั้งใจในการทำคุณประโยชน์ นอกจากนั้นยังมีคณะกรรมการส่วนกลางพิจารณากลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง สามารถให้ความรู้สึกได้ว่าเมื่อประกาศรายชื่อไปแล้ว จะเป็นที่ชื่นใจและอนุโมทนา” ปลัดวธ. กล่าว

ด้าน อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความเมตตาจากพระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 วัดปทุมคงคา กรุงเทพฯ บรรยายพิเศษเรื่อง “ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา กับการทำนุบำรุงเผยแผ่พระพุทธศาสนา” และการบรรยายพิเศษเรื่อง “กรมการศาสนากับการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โดยภาคีเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา” โดยอธิบดีกรมการศาสนา และการเสวนาสร้างเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาโดย ดร.ปกรณ์ ตันสกุล อดีตรองอธิบดีกรมการศาสนา นางสาวธนพร แวกประยูร (ปาน ธนพร) และนายทรงยศินทร์ ชนปทาธิป เพื่อพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และพัฒนางานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมโดยผ่านเครือข่ายคุณธรรมผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ในการส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรม/งาน/โครงการของพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ

,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,