วธ.ร่วมกับมสธ. เปิดโครงการบริการวิชาการแก่สังคม อุทยานแห่งการเรียนรู้เทิดพระเกียรติราชวงศ์จักรี “เย็นศิระใต้ร่มพระบารมี”

0
1218

เมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (ปลัดวธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบริการวิชาการแก่สังคม อุทยานแห่งการเรียนรู้เทิดพระเกียรติราชวงศ์จักรี “เย็นศิระใต้ร่มพระบารมี” ณ อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร มสธ. เข้าร่วม

ปลัดวธ. กล่าวในพิธีเปิดว่า  การที่ทางมสธ. จัดให้มีโครงการบริการวิชาการแก่สังคม อุทยานแห่งการเรียนรู้เทิดพระเกียรติราชวงศ์จักรี “เย็นศิระใต้ร่มพระบารมี” โดยมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยส่งกิจกรรมเข้าร่วมโครงการกันจำนวนมาก นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและยินดีที่ทุกภาคส่วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้สังคมได้มีโอกาสเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาไปสู่สังคมฐานความรู้ที่เข้มแข็งในอนาคต อีกทั้งจัดโครงการเพื่อเทิดทูนสถาบัน และสืบทอดศิลปวัฒนธรรม ในการพัฒนาเยาวชน บุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชน มสธ.ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สังคมแห่งการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพของประชาชน ดังมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ตลอดระยะเวลา 39 ปี ที่ผ่านมา

นายกฤษศญพงษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากการเรียนการสอนแล้วการบริการวิชาการแก่สังคมอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ซึ่งจะนำพาสังคมไทยไปสู่ “สังคมแห่งการเรียนรู้และสังคมฐานความรู้” ทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกและตระหนักในคุณค่าการเรียนรู้ที่มาจากการแสวงหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่ออาชีพและการอนุรักษ์ สืบทอดศิลปวัฒนธรรมไทย ประการสำคัญวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” จึงมีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญ โดยเฉพาะภารกิจการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่จะต้องสามารถรองรับความต้องการเรียนรู้ของคนในสังคมได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง มสธ. จึงเป็นสถาบันหนึ่งที่เป็นโอกาสและความหวังให้คนทุกเพศ ทุกวัยและทุกชนชั้นในสังคมได้มีโอกาสศึกษาพัฒนาตนเองเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ผมเชื่อว่าการที่มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมโครงการบริการวิชาการแก่สังคมอุทยานแห่งการเรียนรู้เทิดพระเกียรติราชวงศ์จักรี “เย็นศิระใต้ร่มพระบารมี” จะส่งผลให้ประชาชนมีโอกาสแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต ในนามของกระทรวงวัฒนธรรมขอขอบคุณมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่กรุณาสละเวลาอันมีค่ามาร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม เพื่อสืบต่อถึงคนรุ่นใหม่ในอนาคต” ปลัดวธ. กล่าว